การวิเคราะห์ด้วย Fibonacci Retracement
- การวิเคราะห์ด้วย Fibonacci Retracement
Fibonacci Retracement เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดการเงิน รวมถึงตลาด ไบนารี่ออปชั่น โดยอาศัยลำดับ Fibonacci ซึ่งเป็นลำดับตัวเลขที่ปรากฏในธรรมชาติบ่อยครั้ง เพื่อคาดการณ์ระดับแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้ในการเคลื่อนไหวของราคา บทความนี้จะอธิบายหลักการพื้นฐาน การใช้งาน และกลยุทธ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ด้วย Fibonacci Retracement อย่างละเอียดสำหรับผู้เริ่มต้น
- ความเป็นมาของลำดับ Fibonacci
ลำดับ Fibonacci เริ่มต้นด้วย 0 และ 1 โดยตัวเลขถัดไปในลำดับคือผลรวมของสองตัวเลขก่อนหน้า: 0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, 55, 89, 144,... ความสำคัญของลำดับนี้อยู่ที่อัตราส่วนระหว่างตัวเลขที่อยู่ติดกัน ซึ่งเข้าใกล้ค่าประมาณ 1.618 หรือที่เรียกว่า “Golden Ratio” (อัตราส่วนทองคำ) มากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อตัวเลขในลำดับมีค่ามากขึ้น นอกจากนี้ อัตราส่วนที่ได้จากการหารตัวเลขใดๆ ในลำดับด้วยตัวเลขที่อยู่ถัดไป จะเข้าใกล้ค่าประมาณ 0.618
อัตราส่วนเหล่านี้ (1.618 และ 0.618) รวมถึงอัตราส่วนอื่นๆ ที่ได้จากลำดับ Fibonacci เช่น 0.236, 0.382, 0.5, 0.786 และ 1.272 ถูกนำมาใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้
- Fibonacci Retracement คืออะไร?
Fibonacci Retracement คือการใช้ระดับอัตราส่วน Fibonacci เพื่อระบุระดับที่ราคาอาจมีการปรับตัวกลับ (retracement) หลังจากเกิดการเคลื่อนไหวของราคาในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง การ Retracement คือการที่ราคาเคลื่อนที่สวนทางกับแนวโน้มหลักชั่วคราว ก่อนที่จะกลับไปเคลื่อนที่ตามแนวโน้มเดิม
ในการวาด Fibonacci Retracement บนกราฟราคา นักเทรดจะระบุจุดสูงสุด (swing high) และจุดต่ำสุด (swing low) ของการเคลื่อนไหวของราคาที่สำคัญ จากนั้นเครื่องมือจะคำนวณและแสดงระดับอัตราส่วน Fibonacci ที่สำคัญบนกราฟ เช่น 23.6%, 38.2%, 50%, 61.8%, และ 78.6% ระดับเหล่านี้ถูกมองว่าเป็นบริเวณที่ราคาอาจหยุดหรือกลับตัว
- วิธีการวาด Fibonacci Retracement
การวาด Fibonacci Retracement อย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ นี่คือขั้นตอนในการวาด:
1. **ระบุแนวโน้ม:** พิจารณาว่าราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (uptrend) หรือแนวโน้มขาลง (downtrend) 2. **หา Swing High และ Swing Low:**
* **แนวโน้มขาขึ้น:** หาจุดต่ำสุด (swing low) ของการปรับตัวลง และจุดสูงสุด (swing high) ของการปรับตัวขึ้นล่าสุด * **แนวโน้มขาลง:** หาจุดสูงสุด (swing high) ของการปรับตัวขึ้น และจุดต่ำสุด (swing low) ของการปรับตัวลงล่าสุด
3. **วาด Retracement:** ใช้เครื่องมือ Fibonacci Retracement ในแพลตฟอร์มการเทรดของคุณ คลิกที่จุดต่ำสุด (swing low) แล้วลากเส้นไปยังจุดสูงสุด (swing high) (สำหรับแนวโน้มขาขึ้น) หรือคลิกที่จุดสูงสุด (swing high) แล้วลากเส้นไปยังจุดต่ำสุด (swing low) (สำหรับแนวโน้มขาลง)
- การตีความระดับ Fibonacci Retracement
ระดับ Fibonacci Retracement แต่ละระดับมีความสำคัญแตกต่างกัน:
- **23.6%:** มักถูกมองว่าเป็น Retracement ระดับสั้นๆ ราคาอาจปรับตัวขึ้น/ลงเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะกลับไปเคลื่อนที่ตามแนวโน้มหลัก
- **38.2%:** เป็นระดับที่สำคัญพอสมควร มักมีแนวโน้มที่จะเกิดการหยุดพักหรือการกลับตัวของราคา
- **50%:** แม้จะไม่ใช่อัตราส่วน Fibonacci โดยตรง แต่ระดับ 50% ถือเป็นระดับกลางที่สำคัญ ซึ่งมักถูกใช้เป็นจุดตัดสินใจในการเทรด
- **61.8%:** ถือเป็นระดับที่สำคัญที่สุด เนื่องจากเป็นอัตราส่วนที่ใกล้เคียงกับอัตราส่วนทองคำ (Golden Ratio) ราคาอาจมีการปรับตัวกลับอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับนี้
- **78.6%:** เป็นระดับที่มักถูกมองข้าม แต่ก็สามารถเป็นระดับแนวรับ/แนวต้านที่แข็งแกร่งได้
- การใช้งาน Fibonacci Retracement ในไบนารี่ออปชั่น
Fibonacci Retracement สามารถนำไปใช้ในการเทรดไบนารี่ออปชั่นได้หลายวิธี:
1. **การระบุจุดเข้าเทรด:** เมื่อราคาปรับตัวกลับ (retracement) ไปยังระดับ Fibonacci ที่สำคัญ นักเทรดสามารถพิจารณาเปิดตำแหน่งในทิศทางของแนวโน้มหลักได้ ตัวอย่างเช่น หากราคาทดสอบระดับ 61.8% ในแนวโน้มขาขึ้น นักเทรดอาจเปิดตำแหน่ง Call (ซื้อ) 2. **การตั้งค่า Stop-Loss:** ระดับ Fibonacci สามารถใช้เป็นจุดตั้งค่า Stop-Loss เพื่อจำกัดความเสี่ยงในการเทรดได้ ตัวอย่างเช่น หากเปิดตำแหน่ง Call ที่ระดับ 61.8% สามารถตั้ง Stop-Loss ไว้ที่ระดับ 78.6% เพื่อป้องกันการขาดทุนหากราคาเคลื่อนที่สวนทาง 3. **การกำหนด Target Profit:** ระดับ Fibonacci สามารถใช้เป็นจุดกำหนด Target Profit ได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น หากเปิดตำแหน่ง Call ที่ระดับ 61.8% สามารถตั้ง Target Profit ไว้ที่ระดับสูงสุดก่อนหน้า (swing high) 4. **การยืนยันสัญญาณ:** Fibonacci Retracement สามารถใช้ร่วมกับ เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค อื่นๆ เช่น Moving Averages, RSI, หรือ MACD เพื่อยืนยันสัญญาณการเทรด
- กลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นด้วย Fibonacci Retracement
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างกลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นที่ใช้ Fibonacci Retracement:
- **กลยุทธ์ Fibonacci Pullback:** รอให้ราคาปรับตัวกลับไปยังระดับ Fibonacci ที่สำคัญ (เช่น 61.8%) ในแนวโน้มที่ชัดเจน จากนั้นเปิดตำแหน่งในทิศทางของแนวโน้มหลักเมื่อมีสัญญาณยืนยัน (เช่น แท่งเทียนกลับตัว)
- **กลยุทธ์ Fibonacci Confluence:** มองหาระดับ Fibonacci ที่ตรงกับระดับแนวรับ/แนวต้านอื่นๆ (เช่น แนวรับ/แนวต้านแนวนอน, เส้น Moving Average) การที่ระดับ Fibonacci ตรงกับระดับสำคัญอื่นๆ จะเพิ่มความน่าเชื่อถือของสัญญาณ
- **กลยุทธ์ Fibonacci Fan:** ใช้ Fibonacci Fan ร่วมกับ Fibonacci Retracement เพื่อระบุระดับแนวรับ/แนวต้านแบบไดนามิก
- ข้อควรระวังในการใช้ Fibonacci Retracement
แม้ว่า Fibonacci Retracement จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ แต่ก็มีข้อควรระวังบางประการที่นักเทรดควรทราบ:
- **ไม่ใช่เครื่องมือที่แม่นยำ 100%:** Fibonacci Retracement เป็นเพียงเครื่องมือช่วยในการวิเคราะห์ ไม่สามารถรับประกันผลกำไรได้
- **ต้องใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ:** ควรใช้ Fibonacci Retracement ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อยืนยันสัญญาณ
- **การตีความอาจแตกต่างกัน:** นักเทรดแต่ละคนอาจตีความระดับ Fibonacci แตกต่างกัน
- **ระวังการ Over-Optimization:** การพยายามปรับแต่ง Fibonacci Retracement ให้เข้ากับข้อมูลในอดีตมากเกินไป อาจทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่ถูกต้องในอนาคต
- การรวม Fibonacci Retracement กับแนวคิดอื่นๆ
- **การวิเคราะห์ Volume:** การยืนยันระดับ Fibonacci ด้วย การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis) จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของสัญญาณได้ เช่น หากราคาทดสอบระดับ Fibonacci และมีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น แสดงว่าระดับนั้นมีความสำคัญ
- **แนวโน้ม (Trend):** การเทรด Fibonacci Retracement ในทิศทางของแนวโน้มหลักมีความเสี่ยงน้อยกว่าการเทรดสวนทางแนวโน้ม การระบุแนวโน้มที่ชัดเจนก่อนการใช้ Fibonacci Retracement เป็นสิ่งสำคัญ
- **รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns):** การใช้รูปแบบแท่งเทียนร่วมกับ Fibonacci Retracement สามารถช่วยยืนยันสัญญาณการกลับตัวได้ เช่น การเกิดรูปแบบแท่งเทียนกลับตัว (reversal candlestick pattern) บริเวณระดับ Fibonacci ที่สำคัญ
- **การวิเคราะห์คลื่น Elliott (Elliott Wave Analysis):** Fibonacci Retracement สามารถใช้เพื่อระบุระดับเป้าหมายของคลื่น Elliott ได้
- **การวิเคราะห์ช่อง (Channel Analysis):** การรวม Fibonacci Retracement กับการวิเคราะห์ช่องสามารถช่วยระบุระดับแนวรับ/แนวต้านที่แม่นยำยิ่งขึ้น
- สรุป
Fibonacci Retracement เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถช่วยนักเทรดไบนารี่ออปชั่นในการระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้ การทำความเข้าใจหลักการใช้งาน และการนำไปประยุกต์ใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในการเทรดได้ อย่างไรก็ตาม ควรระลึกเสมอว่าไม่มีเครื่องมือใดที่สามารถรับประกันผลกำไรได้ และการบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเทรด
| ระดับ Fibonacci ! ความหมาย ! การใช้งานในไบนารี่ออปชั่น |
|---|
| Retracement ระดับสั้นๆ | อาจพิจารณาเปิดตำแหน่งเล็กๆ ในทิศทางของแนวโน้ม |
| ระดับที่สำคัญพอสมควร | ระดับที่น่าสนใจในการเปิดตำแหน่ง |
| ระดับกลาง | จุดตัดสินใจในการเทรด |
| ระดับที่สำคัญที่สุด | ระดับที่น่าสนใจในการเปิดตำแหน่งและตั้ง Stop-Loss |
| ระดับที่มักถูกมองข้าม | อาจใช้เป็นระดับ Stop-Loss หรือเป้าหมายทำกำไร |
การวิเคราะห์ทางเทคนิค | Fibonacci | ไบนารี่ออปชั่น | Moving Averages | RSI | MACD | เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค | การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย | แนวโน้ม | รูปแบบแท่งเทียน | กลยุทธ์ Fibonacci Pullback | กลยุทธ์ Fibonacci Confluence | กลยุทธ์ Fibonacci Fan | การวิเคราะห์คลื่น Elliott | การวิเคราะห์ช่อง | การบริหารความเสี่ยง | การเทรดไบนารี่ออปชั่น | กลยุทธ์การเทรด | การเทรด Forex | การเทรดหุ้น
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
