การ ทำกำไรจาก ความผันผวน

ไบนารี่ออปชั่น เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ด้วยความเรียบง่ายและศักยภาพในการทำกำไรที่รวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การทำกำไรจากไบนารี่ออปชั่นไม่ใช่เรื่องง่ายและจำเป็นต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับตลาด รวมถึงปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลต่อราคา หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือ **ความผันผวน (Volatility)** บทความนี้จะอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับความผันผวน วิธีการวัด และวิธีการทำกำไรจากมันในตลาดไบนารี่ออปชั่นสำหรับผู้เริ่มต้น

ความผันผวนคืออะไร?

ความผันผวน หมายถึง ระดับความเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์ในช่วงเวลาหนึ่งๆ ยิ่งราคามีการเปลี่ยนแปลงมากเท่าไหร่ ความผันผวนก็จะสูงขึ้นเท่านั้น ในทางตรงกันข้าม หากราคามีการเปลี่ยนแปลงน้อย ความผันผวนก็จะต่ำลง ความผันผวนสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น ข่าวเศรษฐกิจ เหตุการณ์ทางการเมือง หรือแม้แต่ความรู้สึกของนักลงทุน

ในบริบทของไบนารี่ออปชั่น ความผันผวนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมันส่งผลโดยตรงต่อโอกาสในการทำกำไร หากความผันผวนสูง โอกาสในการทำกำไรก็จะสูงขึ้น แต่ความเสี่ยงก็จะสูงขึ้นด้วยเช่นกัน ในขณะที่ความผันผวนต่ำ โอกาสในการทำกำไรจะลดลง แต่ความเสี่ยงก็จะลดลงด้วยเช่นกัน

การวัดความผันผวน

มีหลายวิธีในการวัดความผันผวน หนึ่งในวิธีที่นิยมใช้กันมากที่สุดคือ **ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)** ซึ่งเป็นตัววัดการกระจายตัวของข้อมูลจากค่าเฉลี่ย ยิ่งค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานสูง แสดงว่าราคามีความผันผวนสูง

นอกจากนี้ ยังมีเครื่องมืออื่นๆ ที่ใช้ในการวัดความผันผวน เช่น:

**Bollinger Bands:** เป็นเครื่องมือที่แสดงช่วงราคาที่คาดว่าจะเกิดขึ้น โดยอิงจากค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน Bollinger Bands
**Average True Range (ATR):** เป็นเครื่องมือที่วัดช่วงราคาเฉลี่ยในช่วงเวลาหนึ่งๆ ATR
**VIX (Volatility Index):** เป็นดัชนีที่วัดความผันผวนของตลาดหุ้น VIX

การทำความเข้าใจวิธีการวัดความผันผวนจะช่วยให้คุณสามารถประเมินความเสี่ยงและโอกาสในการทำกำไรในตลาดไบนารี่ออปชั่นได้ดียิ่งขึ้น

การทำกำไรจากความผันผวนสูง

เมื่อความผันผวนสูงขึ้น กลยุทธ์การซื้อขายที่เหมาะสมจะแตกต่างจากช่วงเวลาที่ความผันผวนต่ำ ต่อไปนี้คือกลยุทธ์บางส่วนที่สามารถใช้ทำกำไรจากความผันผวนสูง:

**Straddle:** เป็นกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อทั้ง Call Option และ Put Option ที่มีราคาใช้สิทธิและวันหมดอายุเดียวกัน กลยุทธ์นี้ทำกำไรได้เมื่อราคามีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นทิศทางใดก็ตาม Straddle strategy
**Strangle:** คล้ายกับ Straddle แต่ใช้ราคาใช้สิทธิที่แตกต่างกัน Call Option จะมีราคาใช้สิทธิสูงกว่าราคาปัจจุบัน ส่วน Put Option จะมีราคาใช้สิทธิต่ำกว่าราคาปัจจุบัน กลยุทธ์นี้ทำกำไรได้เมื่อราคามีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากเช่นกัน แต่ต้องการการเปลี่ยนแปลงของราคาที่มากกว่า Straddle Strangle strategy
**Breakout Trading:** เป็นกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายเมื่อราคา breakout จากช่วงราคาเดิม กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับช่วงเวลาที่ความผันผวนสูง และราคาอาจมีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว Breakout trading
**Momentum Trading:** เป็นกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายตามแนวโน้มของราคา กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับช่วงเวลาที่ความผันผวนสูง และราคาอาจมีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง Momentum trading

การทำกำไรจากความผันผวนต่ำ

เมื่อความผันผวนต่ำลง กลยุทธ์การซื้อขายที่เหมาะสมจะแตกต่างออกไป ต่อไปนี้คือกลยุทธ์บางส่วนที่สามารถใช้ทำกำไรจากความผันผวนต่ำ:

**Range Trading:** เป็นกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายเมื่อราคามีการเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงราคาที่จำกัด กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับช่วงเวลาที่ความผันผวนต่ำ และราคาไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจน Range trading
**Mean Reversion:** เป็นกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายเมื่อราคาเบี่ยงเบนไปจากค่าเฉลี่ย กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับช่วงเวลาที่ความผันผวนต่ำ และราคาแนวโน้มที่จะกลับสู่ค่าเฉลี่ย Mean reversion
**Scalping:** เป็นกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการทำกำไรจากความแตกต่างของราคาเล็กๆ น้อยๆ กลยุทธ์นี้ต้องการความรวดเร็วและแม่นยำในการซื้อขาย Scalping

การจัดการความเสี่ยง

ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้กลยุทธ์ใด การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในตลาดไบนารี่ออปชั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณทำการซื้อขายในช่วงเวลาที่ความผันผวนสูง ต่อไปนี้คือเคล็ดลับบางส่วนสำหรับการจัดการความเสี่ยง:

**กำหนดขนาดการลงทุน:** ไม่ควรลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถจะเสียได้
**ใช้ Stop-Loss:** Stop-Loss คือคำสั่งที่ปิดการซื้อขายโดยอัตโนมัติเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนดไว้ ช่วยจำกัดความเสี่ยงของคุณ
**Diversify:** กระจายการลงทุนของคุณไปยังสินทรัพย์หลายประเภท เพื่อลดความเสี่ยง
**ติดตามข่าวสาร:** ติดตามข่าวสารและเหตุการณ์ต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาด

การวิเคราะห์ทางเทคนิคและ Fundamental

การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) และการวิเคราะห์ Fundamental (Fundamental Analysis) เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยในการประเมินความผันผวนและโอกาสในการทำกำไร

**การวิเคราะห์ทางเทคนิค:** การวิเคราะห์ทางเทคนิคเกี่ยวข้องกับการศึกษาแผนภูมิราคาและตัวชี้วัดทางเทคนิคต่างๆ เพื่อระบุแนวโน้มและรูปแบบราคา การวิเคราะห์ทางเทคนิค ตัวอย่างเช่น การใช้ Moving Average, RSI (Relative Strength Index) หรือ MACD (Moving Average Convergence Divergence)
**การวิเคราะห์ Fundamental:** การวิเคราะห์ Fundamental เกี่ยวข้องกับการศึกษาปัจจัยทางเศรษฐกิจ การเงิน และการเมือง ที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาสินทรัพย์ การวิเคราะห์ Fundamental ตัวอย่างเช่น การติดตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจ การประกาศผลประกอบการของบริษัท หรือการเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐบาล

การผสมผสานการวิเคราะห์ทางเทคนิคและ Fundamental จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจซื้อขายได้อย่างมีข้อมูลและลดความเสี่ยงได้

การใช้เครื่องมือช่วยในการซื้อขาย

มีเครื่องมือหลายอย่างที่สามารถช่วยคุณในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น เช่น:

**Economic Calendar:** แสดงกำหนดการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ Economic Calendar
**News Feeds:** ให้ข้อมูลข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับตลาด News Feeds
**Trading Platforms:** แพลตฟอร์มซื้อขายที่มีเครื่องมือวิเคราะห์และกราฟต่างๆ Trading Platforms

การใช้เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถติดตามสถานการณ์ตลาดและตัดสินใจซื้อขายได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

ตัวอย่างการประยุกต์ใช้กลยุทธ์กับความผันผวน

สมมติว่าคุณสังเกตเห็นว่า VIX กำลังสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งบ่งชี้ว่าความผันผวนในตลาดหุ้นกำลังเพิ่มขึ้น ในกรณีนี้ คุณอาจพิจารณาใช้กลยุทธ์ Straddle เพื่อทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคาที่อาจเกิดขึ้น

อีกตัวอย่างหนึ่ง หากคุณสังเกตเห็นว่าราคาสินทรัพย์หนึ่งๆ มีการเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงราคาที่จำกัด และความผันผวนต่ำ คุณอาจพิจารณาใช้กลยุทธ์ Range Trading เพื่อทำกำไรจากการเด้งของราคาภายในช่วงราคานั้น

สรุป

การทำกำไรจากความผันผวนในตลาดไบนารี่ออปชั่นเป็นไปได้ แต่ต้องอาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับความผันผวน วิธีการวัด และกลยุทธ์การซื้อขายที่เหมาะสม การจัดการความเสี่ยงและการวิเคราะห์ตลาดอย่างรอบคอบก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน การฝึกฝนและประสบการณ์จะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะในการซื้อขายและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร

ตัวอย่างกลยุทธ์ตามระดับความผันผวน
ระดับความผันผวน	กลยุทธ์ที่แนะนำ
สูง	Straddle, Strangle, Breakout Trading, Momentum Trading
ปานกลาง	Trend Following, News Trading
ต่ำ	Range Trading, Mean Reversion, Scalping

ลิงก์เพิ่มเติม

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

การทำกำไรจากความผันผวน

Contents