การซื้อ Call Option

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. การซื้อ Call Option

บทนำ

การซื้อ Call Option เป็นกลยุทธ์พื้นฐานแต่ทรงพลังในการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น (Binary Options) ซึ่งเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่คาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการซื้อ Call Option ตั้งแต่แนวคิดพื้นฐาน กลไกการทำงาน การวิเคราะห์ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ความเสี่ยง และกลยุทธ์เพิ่มเติมที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ เพื่อให้เทรดเดอร์มือใหม่สามารถเข้าใจและนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Call Option คืออะไร?

Call Option เป็นสัญญาที่ให้สิทธิ (แต่ไม่บังคับ) แก่ผู้ซื้อในการซื้อสินทรัพย์อ้างอิงในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (Strike Price) ภายในระยะเวลาที่กำหนด (Expiration Date) ผู้ซื้อ Call Option จะได้รับกำไรหากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงสูงกว่า Strike Price ณ วันหมดอายุ (Expiration Date) แต่จะสูญเสียค่าพรีเมียม (Premium) ที่จ่ายไปในการซื้อ Option หากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงต่ำกว่า Strike Price

ในบริบทของไบนารี่ออปชั่น Call Option จะถูกปรับให้ง่ายขึ้น โดยผู้เทรดจะทำการคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะสูงขึ้นหรือไม่ภายในระยะเวลาที่กำหนด หากคาดการณ์ถูกต้องจะได้รับผลตอบแทนตามที่กำหนดไว้ล่วงหน้า แต่หากคาดการณ์ผิดพลาดจะสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด

กลไกการทำงานของ Call Option ในไบนารี่ออปชั่น

การซื้อ Call Option ในไบนารี่ออปชั่นมีความแตกต่างจากการซื้อขาย Call Option ในตลาดหุ้นแบบดั้งเดิม ในไบนารี่ออปชั่น จะไม่มีการซื้อขาย Option โดยตรง แต่เป็นการคาดการณ์ทิศทางราคาของสินทรัพย์อ้างอิง

  • **การเลือกสินทรัพย์:** ผู้เทรดจะต้องเลือกสินทรัพย์อ้างอิงที่ต้องการซื้อ Call Option เช่น สกุลเงิน (USD/JPY, EUR/USD), ดัชนีหุ้น (S&P 500, NASDAQ), หรือสินค้าโภคภัณฑ์ (ทองคำ, น้ำมัน)
  • **การเลือกระยะเวลา:** ผู้เทรดจะต้องเลือกระยะเวลาที่ต้องการถือครอง Option ซึ่งอาจเป็นระยะเวลาสั้นๆ เช่น 60 วินาที, 5 นาที, หรือ 15 นาที หรือระยะยาวขึ้น เช่น 1 ชั่วโมง หรือ 1 วัน
  • **การลงทุน:** ผู้เทรดจะต้องกำหนดจำนวนเงินลงทุนในการซื้อ Call Option
  • **การคาดการณ์:** ผู้เทรดจะต้องคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะสูงขึ้นภายในระยะเวลาที่กำหนด
  • **ผลตอบแทน:** หากการคาดการณ์ถูกต้อง ผู้เทรดจะได้รับผลตอบแทนตามที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (เช่น 70-90% ของเงินลงทุน)
  • **ความเสี่ยง:** หากการคาดการณ์ผิดพลาด ผู้เทรดจะสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด

ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อ Call Option

การตัดสินใจซื้อ Call Option ไม่ควรขึ้นอยู่กับโชคหรือการคาดเดา แต่ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบดังนี้:

  • **แนวโน้มของตลาด:** การวิเคราะห์ แนวโน้มของตลาด (Market Trend) เป็นสิ่งสำคัญ หากตลาดอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) โอกาสที่ราคาจะสูงขึ้นก็จะมากขึ้น
  • **การวิเคราะห์ทางเทคนิค:** การใช้เครื่องมือ การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) เช่น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages), RSI (Relative Strength Index), MACD (Moving Average Convergence Divergence), และรูปแบบกราฟ (Chart Patterns) สามารถช่วยในการระบุโอกาสในการซื้อ Call Option ได้
  • **การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน:** การวิเคราะห์ ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis) เช่น ข่าวเศรษฐกิจ, รายงานผลประกอบการของบริษัท, และนโยบายของรัฐบาล สามารถช่วยในการคาดการณ์ทิศทางราคาของสินทรัพย์อ้างอิงได้
  • **การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย:** การวิเคราะห์ ปริมาณการซื้อขาย (Trading Volume) สามารถช่วยในการยืนยันแนวโน้มของตลาดได้ หากปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกับแนวโน้ม ก็แสดงว่าแนวโน้มนั้นแข็งแกร่ง
  • **ความผันผวนของตลาด:** ความผันผวนของตลาด (Market Volatility) มีผลต่อราคาของ Option หากตลาดมีความผันผวนสูง ราคาของ Option ก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย

กลยุทธ์เพิ่มเติมในการซื้อ Call Option

นอกจากการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและทางเทคนิคแล้ว ยังมีกลยุทธ์เพิ่มเติมที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการซื้อ Call Option ได้ดังนี้:

  • **การซื้อ Call Option ในช่วง Breakout:** เมื่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิงทะลุแนวต้าน (Resistance) สำคัญขึ้นไป อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้น การซื้อ Call Option ในช่วงนี้อาจให้ผลตอบแทนที่ดี
  • **การซื้อ Call Option ในช่วง Pullback:** เมื่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิงปรับตัวลงเล็กน้อยในแนวโน้มขาขึ้น (Pullback) อาจเป็นโอกาสที่ดีในการซื้อ Call Option ในราคาที่ต่ำลง
  • **การใช้ Stop-Loss:** การตั้งค่า Stop-Loss สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุนได้ หากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเคลื่อนที่สวนทางกับการคาดการณ์ Stop-Loss จะช่วยจำกัดความเสียหาย
  • **การใช้ Take-Profit:** การตั้งค่า Take-Profit สามารถช่วยล็อคผลกำไรได้ เมื่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิงถึงระดับเป้าหมายที่ต้องการ Take-Profit จะช่วยปิดออเดอร์และล็อคผลกำไร
  • **การบริหารเงินทุน:** การบริหารเงินทุนอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น ไม่ควรลงทุนเกินกว่าที่สามารถรับความเสี่ยงได้
  • **กลยุทธ์ Straddle:** เป็นการผสมผสานการซื้อทั้ง Call และ Put Option เพื่อทำกำไรจากความผันผวนของราคา (กลยุทธ์ Straddle).
  • **กลยุทธ์ Strangle:** คล้ายกับ Straddle แต่ใช้ Strike Price ที่แตกต่างกัน (กลยุทธ์ Strangle).
  • **กลยุทธ์ Butterfly Spread:** เป็นกลยุทธ์ที่ซับซ้อนขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ (กลยุทธ์ Butterfly Spread).
  • **การใช้ Fibonacci Retracement:** การใช้ Fibonacci Retracement เพื่อหาจุดเข้าซื้อ (Fibonacci Retracement).
  • **การใช้ Elliott Wave Theory:** การใช้ Elliott Wave Theory เพื่อวิเคราะห์แนวโน้ม (Elliott Wave Theory).
  • **การใช้ Ichimoku Cloud:** การใช้ Ichimoku Cloud เพื่อหาจุดเข้าซื้อขาย (Ichimoku Cloud).
  • **การใช้ Bollinger Bands:** การใช้ Bollinger Bands เพื่อวัดความผันผวน (Bollinger Bands).
  • **การใช้ Pivot Points:** การใช้ Pivot Points เพื่อหาแนวรับแนวต้าน (Pivot Points).
  • **การใช้ Parabolic SAR:** การใช้ Parabolic SAR เพื่อหาจุดกลับตัว (Parabolic SAR).
  • **การใช้ Volume-Weighted Average Price (VWAP):** การใช้ VWAP เพื่อวิเคราะห์ราคาตามปริมาณการซื้อขาย (VWAP).

ความเสี่ยงในการซื้อ Call Option

การซื้อ Call Option ในไบนารี่ออปชั่นมีความเสี่ยงสูง ผู้เทรดควรตระหนักถึงความเสี่ยงเหล่านี้ก่อนทำการลงทุน:

  • **ความเสี่ยงในการสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด:** หากการคาดการณ์ผิดพลาด ผู้เทรดจะสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด
  • **ความผันผวนของตลาด:** ตลาดไบนารี่ออปชั่นมีความผันผวนสูง ราคาของสินทรัพย์อ้างอิงอาจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้การคาดการณ์เป็นไปได้ยาก
  • **ความเสี่ยงจากโบรกเกอร์:** ผู้เทรดควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือและได้รับอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแล
  • **ความเสี่ยงจากข่าวและการประกาศสำคัญ:** ข่าวและการประกาศสำคัญทางเศรษฐกิจอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิง ทำให้การคาดการณ์ผิดพลาดได้

สรุป

การซื้อ Call Option เป็นกลยุทธ์ที่สามารถทำกำไรได้หากใช้ได้อย่างถูกต้อง ผู้เทรดควรศึกษาและทำความเข้าใจแนวคิดพื้นฐาน กลไกการทำงาน ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ความเสี่ยง และกลยุทธ์เพิ่มเติมก่อนทำการลงทุน การบริหารเงินทุนอย่างเหมาะสมและการวางแผนการซื้อขายอย่างรอบคอบเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น

ดูเพิ่มเติม


เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер