การซื้อขายระหว่างวัน (Day Trading)
- การซื้อขายระหว่างวัน (Day Trading)
การซื้อขายระหว่างวัน หรือ Day Trading คือรูปแบบการซื้อขายทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับการซื้อและขายสินทรัพย์ทางการเงินภายในวันเดียว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำกำไรจากความผันผวนของราคาในระยะสั้นๆ นักลงทุนที่เรียกตัวเองว่า Day Trader มักจะปิดสถานะทั้งหมดก่อนตลาดปิด เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันในตลาดค้างคืน บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการซื้อขายระหว่างวันสำหรับผู้เริ่มต้น รวมถึงความเสี่ยง กลยุทธ์ และเครื่องมือที่จำเป็น
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการซื้อขายระหว่างวัน
ก่อนที่จะเริ่มการซื้อขายระหว่างวัน สิ่งสำคัญคือต้องมีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับตลาดการเงินและเครื่องมือที่เกี่ยวข้อง:
- **ตลาดการเงิน:** ทำความเข้าใจเกี่ยวกับตลาดหุ้น ตลาดหุ้น, ตลาด Forex ตลาด Forex, ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ และตลาดอื่นๆ ที่สามารถซื้อขายระหว่างวันได้
- **สินทรัพย์ทางการเงิน:** เรียนรู้เกี่ยวกับประเภทของสินทรัพย์ที่สามารถซื้อขายได้ เช่น หุ้น หุ้น ฟอเร็กซ์ ฟอเร็กซ์ สินค้าโภคภัณฑ์ สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนี ดัชนี และอื่นๆ
- **คำศัพท์ทางการเงิน:** ทำความคุ้นเคยกับคำศัพท์ที่ใช้ในการซื้อขาย เช่น Bid, Ask, Spread, Leverage, Margin, Pip, Lot และอื่นๆ
- **โบรกเกอร์:** เลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมกับการซื้อขายระหว่างวัน โดยพิจารณาจากค่าธรรมเนียม แพลตฟอร์มการซื้อขาย และเครื่องมือที่โบรกเกอร์มีให้
- **การจัดการความเสี่ยง:** เรียนรู้วิธีการจัดการความเสี่ยง เช่น การตั้ง Stop-Loss และ Take-Profit Stop-Loss Take-Profit การกำหนดขนาด Position และการกระจายความเสี่ยง การกระจายความเสี่ยง
ความเสี่ยงในการซื้อขายระหว่างวัน
การซื้อขายระหว่างวันมีความเสี่ยงสูง และไม่เหมาะสำหรับทุกคน สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักถึงความเสี่ยงเหล่านี้ก่อนที่จะเริ่ม:
- **ความผันผวนของตลาด:** ตลาดการเงินมีความผันผวนสูง และราคาของสินทรัพย์สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจทำให้เกิดการขาดทุนได้
- **Leverage:** การใช้ Leverage สามารถขยายผลกำไรได้ แต่ก็สามารถขยายการขาดทุนได้เช่นกัน หากใช้ Leverage อย่างไม่ระมัดระวัง
- **ความกดดันทางจิตใจ:** การซื้อขายระหว่างวันต้องใช้สมาธิและความมีวินัยสูง ความกดดันจากความผันผวนของตลาดอาจทำให้เกิดความเครียดและตัดสินใจผิดพลาดได้
- **ค่าธรรมเนียม:** ค่าธรรมเนียมในการซื้อขายสามารถลดผลกำไรได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการซื้อขายระยะสั้นๆ
- **Slippage:** Slippage คือความแตกต่างระหว่างราคาที่คาดหวังและราคาที่ได้รับจริงในการซื้อขาย ซึ่งอาจเกิดขึ้นเนื่องจากความผันผวนของตลาดหรือสภาพคล่องที่ต่ำ
กลยุทธ์การซื้อขายระหว่างวัน
มีกลยุทธ์การซื้อขายระหว่างวันมากมายที่นักลงทุนสามารถใช้ได้ แต่ละกลยุทธ์มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป นี่คือตัวอย่างกลยุทธ์บางส่วน:
- **Scalping:** กลยุทธ์นี้มุ่งเน้นไปที่การทำกำไรจากความผันผวนของราคาขนาดเล็กๆ โดยเปิดและปิด Position อย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วินาทีหรือนาที Scalping
- **Day Trading Trend Following:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการระบุแนวโน้มของราคาและซื้อขายตามแนวโน้มนั้น เช่น ซื้อเมื่อราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น และขายเมื่อราคาอยู่ในแนวโน้มขาลง Trend Following
- **Range Trading:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการซื้อขายภายในช่วงราคาที่กำหนด โดยซื้อเมื่อราคาแตะระดับ Support และขายเมื่อราคาแตะระดับ Resistance Range Trading
- **Breakout Trading:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการซื้อขายเมื่อราคาทะลุระดับ Support หรือ Resistance ที่สำคัญ Breakout Trading
- **Momentum Trading:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการซื้อขายตาม Momentum ของราคา ซึ่งหมายถึงอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคา Momentum Trading
- **News Trading:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการซื้อขายตามข่าวสารและเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่อาจมีผลกระทบต่อตลาด News Trading
- **การใช้รูปแบบกราฟ (Chart Patterns):** การระบุรูปแบบกราฟ เช่น Head and Shoulders, Double Top, Double Bottom, Triangles เพื่อคาดการณ์ทิศทางราคา Chart Patterns
- **Fibonacci Retracement:** การใช้ระดับ Fibonacci เพื่อระบุระดับ Support และ Resistance ที่อาจเกิดขึ้น Fibonacci Retracement
- **Elliott Wave Theory:** การใช้ Elliott Wave Theory เพื่อวิเคราะห์รูปแบบของราคาและคาดการณ์การเคลื่อนไหวในอนาคต Elliott Wave Theory
- **Bollinger Bands:** การใช้ Bollinger Bands เพื่อวัดความผันผวนของราคาและระบุสัญญาณการซื้อขาย Bollinger Bands
- **Moving Averages:** การใช้ Moving Averages เพื่อระบุแนวโน้มของราคาและสร้างสัญญาณการซื้อขาย Moving Averages
- **MACD (Moving Average Convergence Divergence):** การใช้ MACD เพื่อระบุ Momentum ของราคาและสร้างสัญญาณการซื้อขาย MACD
- **RSI (Relative Strength Index):** การใช้ RSI เพื่อวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้มของราคาและระบุสัญญาณการซื้อขาย RSI
- **Stochastic Oscillator:** การใช้ Stochastic Oscillator เพื่อระบุสภาวะ Overbought และ Oversold ของราคา Stochastic Oscillator
- **Volume Spread Analysis (VSA):** การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายและ Spread ของราคาเพื่อทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างราคาและปริมาณ Volume Spread Analysis
เครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการซื้อขายระหว่างวัน
เพื่อให้ประสบความสำเร็จในการซื้อขายระหว่างวัน นักลงทุนจำเป็นต้องมีเครื่องมือที่เหมาะสม:
- **แพลตฟอร์มการซื้อขาย:** แพลตฟอร์มการซื้อขายที่เชื่อถือได้และใช้งานง่าย ซึ่งมีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคและเครื่องมือการจัดการคำสั่งซื้อที่จำเป็น
- **ข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์:** ข้อมูลราคาแบบเรียลไทม์เพื่อให้สามารถตัดสินใจซื้อขายได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
- **เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค:** เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น Charting Software, Indicators และ Oscillators เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มของราคาและระบุสัญญาณการซื้อขาย
- **เครื่องมือการจัดการความเสี่ยง:** เครื่องมือการจัดการความเสี่ยง เช่น Stop-Loss และ Take-Profit เพื่อจำกัดการขาดทุนและล็อคผลกำไร
- **แหล่งข่าวสารทางการเงิน:** แหล่งข่าวสารทางการเงินที่เชื่อถือได้เพื่อให้ได้รับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงของตลาด
การจัดการความเสี่ยงในการซื้อขายระหว่างวัน
การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการซื้อขายระหว่างวัน นี่คือเคล็ดลับบางส่วน:
- **กำหนด Stop-Loss:** ตั้ง Stop-Loss ทุกครั้งที่เปิด Position เพื่อจำกัดการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น
- **กำหนด Take-Profit:** ตั้ง Take-Profit เพื่อล็อคผลกำไรเมื่อราคาถึงเป้าหมาย
- **กำหนดขนาด Position:** กำหนดขนาด Position ที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
- **กระจายความเสี่ยง:** กระจายความเสี่ยงโดยการซื้อขายในสินทรัพย์ที่หลากหลาย
- **หลีกเลี่ยงการใช้ Leverage ที่มากเกินไป:** การใช้ Leverage ที่มากเกินไปสามารถขยายการขาดทุนได้อย่างรวดเร็ว
- **มีวินัย:** ปฏิบัติตามแผนการซื้อขายและหลีกเลี่ยงการตัดสินใจที่ใช้อารมณ์
- **เรียนรู้จากความผิดพลาด:** วิเคราะห์ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นและปรับปรุงกลยุทธ์การซื้อขาย
การเริ่มต้นซื้อขายระหว่างวัน
- **เริ่มต้นด้วยบัญชี Demo:** ฝึกฝนการซื้อขายโดยใช้บัญชี Demo ก่อนที่จะลงทุนด้วยเงินจริง
- **ศึกษาและเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง:** ตลาดการเงินเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องศึกษาและเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
- **พัฒนาแผนการซื้อขาย:** สร้างแผนการซื้อขายที่ชัดเจนและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
- **เริ่มต้นด้วยเงินทุนน้อย:** เริ่มต้นด้วยเงินทุนน้อยที่คุณสามารถยอมรับการสูญเสียได้
- **อดทนและมีวินัย:** การซื้อขายระหว่างวันต้องใช้ความอดทนและความมีวินัย
สรุป
การซื้อขายระหว่างวันเป็นรูปแบบการซื้อขายที่ท้าทาย แต่ก็สามารถให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจได้ หากคุณมีความรู้ ความเข้าใจ และความมีวินัยที่เพียงพอ สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องและจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ การศึกษาและเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ประสบความสำเร็จในการซื้อขายระหว่างวัน การใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมและเครื่องมือที่จำเป็นจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรของคุณ
การวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน การจัดการเงินทุน จิตวิทยาการซื้อขาย การซื้อขายฟอเร็กซ์ การซื้อขายหุ้น การซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ การซื้อขายดัชนี การซื้อขายไบนารี่ออปชั่น การซื้อขายอัตโนมัติ การลงทุนระยะสั้น การลงทุนระยะยาว การกระจายความเสี่ยง ตลาดหลักทรัพย์ การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย การใช้ Indicators การอ่าน Chart Patterns การจัดการความเสี่ยง การตั้ง Stop-Loss การตั้ง Take-Profit.
| กลยุทธ์ | คำอธิบาย | ระดับความเสี่ยง | เหมาะสำหรับ |
|---|---|---|---|
| Scalping | ทำกำไรจากความผันผวนของราคาขนาดเล็ก | สูง | ผู้มีประสบการณ์ |
| Day Trading Trend Following | ซื้อขายตามแนวโน้มของราคา | ปานกลาง | ผู้เริ่มต้น |
| Range Trading | ซื้อขายภายในช่วงราคาที่กำหนด | ปานกลาง | ผู้เริ่มต้น |
| Breakout Trading | ซื้อขายเมื่อราคาทะลุระดับสำคัญ | สูง | ผู้มีประสบการณ์ |
| Momentum Trading | ซื้อขายตาม Momentum ของราคา | สูง | ผู้มีประสบการณ์ |
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
