การกำหนดราคา Options (Option pricing models)

1. 1. การกำหนดราคา Options (Option pricing models)

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่ออธิบายแนวคิดพื้นฐานของการกำหนดราคา Options โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เริ่มต้นที่สนใจในการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น และอนุพันธ์ทางการเงินอื่นๆ การทำความเข้าใจแบบจำลองการกำหนดราคาเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของออปชั่น และการตัดสินใจซื้อขายอย่างมีข้อมูล

1. 1. 1. บทนำเกี่ยวกับ Options และความสำคัญของการกำหนดราคา

Options คือสัญญาที่ให้สิทธิ์ (แต่ไม่บังคับ) แก่ผู้ซื้อในการซื้อ (Call Option) หรือขาย (Put Option) สินทรัพย์อ้างอิงในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (Strike Price) ภายในระยะเวลาที่กำหนด (Expiration Date) ราคาของออปชั่นไม่ได้เป็นราคาตายตัว แต่เปลี่ยนแปลงไปตามปัจจัยหลายประการ ซึ่งรวมถึง ราคาของสินทรัพย์อ้างอิง ระยะเวลาที่เหลือจนถึงวันหมดอายุ ความผันผวนของสินทรัพย์ และอัตราดอกเบี้ย

การกำหนดราคาออปชั่นที่ถูกต้องมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย:

• **ผู้ซื้อ:** ต้องการซื้อออปชั่นในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง เพื่อให้มีโอกาสทำกำไร
• **ผู้ขาย:** ต้องการขายออปชั่นในราคาที่สูงกว่ามูลค่าที่แท้จริง เพื่อสร้างรายได้

แบบจำลองการกำหนดราคาออปชั่นจึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยในการประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของออปชั่น

1. 1. 1. แบบจำลอง Black-Scholes

แบบจำลอง Black-Scholes เป็นแบบจำลองการกำหนดราคาออปชั่นที่ได้รับความนิยมและใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุด ถูกพัฒนาขึ้นโดย Fischer Black และ Myron Scholes ในปี 1973 และได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ในปี 1997 แบบจำลองนี้ใช้สมมติฐานหลายประการ รวมถึง:

• ตลาดมีประสิทธิภาพ
• ไม่มีค่าธรรมเนียมการซื้อขาย
• อัตราดอกเบี้ยคงที่
• สินทรัพย์อ้างอิงให้ผลตอบแทนแบบ Log-normal
• สามารถซื้อขายสินทรัพย์อ้างอิงได้อย่างต่อเนื่อง

สูตรสำหรับ Call Option ภายใต้แบบจำลอง Black-Scholes คือ:

C = S * N(d1) - K * e^(-rT) * N(d2)

โดยที่:

• C = ราคาของ Call Option
• S = ราคาปัจจุบันของสินทรัพย์อ้างอิง
• K = ราคาใช้สิทธิ (Strike Price)
• r = อัตราดอกเบี้ยแบบไม่มีความเสี่ยง
• T = ระยะเวลาที่เหลือจนถึงวันหมดอายุ (เป็นปี)
• N(x) = Cumulative standard normal distribution function
• d1 = [ln(S/K) + (r + σ^2/2)T] / (σ * sqrt(T))
• d2 = d1 - σ * sqrt(T)
• σ = ความผันผวนของสินทรัพย์อ้างอิง

และสำหรับ Put Option:

P = K * e^(-rT) * N(-d2) - S * N(-d1)

แม้ว่าแบบจำลอง Black-Scholes จะเป็นประโยชน์อย่างมาก แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการ เช่น การสมมติว่าความผันผวนคงที่ ซึ่งไม่เป็นจริงในโลกแห่งความเป็นจริง

1. 1. 1. แบบจำลอง Binomial Option Pricing

แบบจำลอง Binomial Option Pricing เป็นอีกหนึ่งแบบจำลองที่ได้รับความนิยม ซึ่งแตกต่างจาก Black-Scholes ที่ใช้สมการต่อเนื่อง แบบจำลอง Binomial จะแบ่งระยะเวลาจนถึงวันหมดอายุออกเป็นช่วงเวลาที่สั้นๆ หลายช่วง และสมมติว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงสามารถเคลื่อนไหวได้เพียงสองทางในแต่ละช่วงเวลา คือ ขึ้นหรือลง

แบบจำลองนี้สามารถใช้กับออปชั่นที่จ่ายปันผล และออปชั่นที่มีลักษณะที่ซับซ้อนกว่าออปชั่นแบบ Vanilla

1. 1. 1. ความผันผวน (Volatility) และผลกระทบต่อการกำหนดราคา

ความผันผวน เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดปัจจัยหนึ่งในการกำหนดราคาออปชั่น ความผันผวนที่สูงขึ้นหมายถึงโอกาสที่ราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ซึ่งจะส่งผลให้ราคาของออปชั่นสูงขึ้นด้วย

• **ความผันผวนทางประวัติศาสตร์ (Historical Volatility):** วัดความผันผวนของราคาในอดีต
• **ความผันผวนโดยนัย (Implied Volatility):** ได้มาจากราคาตลาดของออปชั่น และสะท้อนถึงความคาดหวังของตลาดเกี่ยวกับความผันผวนในอนาคต

ผู้ซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น มักใช้ความผันผวนโดยนัยเพื่อประเมินว่าออปชั่นนั้นมีราคาแพงหรือถูกเกินไป

1. 1. 1. ปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลต่อการกำหนดราคา Options

นอกเหนือจากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจมีผลต่อการกำหนดราคาออปชั่น เช่น:

• **อัตราดอกเบี้ย:** อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นมักจะส่งผลให้ราคา Call Option สูงขึ้น และราคา Put Option ลดลง
• **ปันผล:** หากสินทรัพย์อ้างอิงจ่ายปันผล ราคา Call Option จะลดลง และราคา Put Option จะเพิ่มขึ้น
• **เวลาจนถึงวันหมดอายุ:** โดยทั่วไปแล้ว ราคาออปชั่นจะสูงขึ้นเมื่อมีเวลาเหลือจนถึงวันหมดอายุมากขึ้น
• **อุปสงค์และอุปทาน:** เช่นเดียวกับสินทรัพย์อื่นๆ ราคาออปชั่นจะได้รับผลกระทบจากอุปสงค์และอุปทานในตลาด

1. 1. 1. การประยุกต์ใช้แบบจำลองการกำหนดราคา Options ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น

แม้ว่าแบบจำลอง Black-Scholes และ Binomial จะถูกพัฒนาขึ้นสำหรับออปชั่นแบบ Vanilla แต่แนวคิดพื้นฐานยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น ได้:

• **การประเมินความน่าจะเป็นของการทำกำไร:** แบบจำลองสามารถช่วยประเมินความน่าจะเป็นที่ราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ต้องการก่อนวันหมดอายุ
• **การระบุออปชั่นที่มีราคาผิดปกติ:** หากราคาของออปชั่นแตกต่างจากมูลค่าที่คำนวณได้จากแบบจำลองอย่างมีนัยสำคัญ อาจบ่งชี้ถึงโอกาสในการซื้อขาย
• **การจัดการความเสี่ยง:** การเข้าใจปัจจัยที่ส่งผลต่อการกำหนดราคาออปชั่นสามารถช่วยในการจัดการความเสี่ยงในการซื้อขาย

1. 1. 1. กลยุทธ์การซื้อขาย Options ที่เกี่ยวข้อง

• **Covered Call:** กลยุทธ์ที่ผู้ถือหุ้นขาย Call Option กับหุ้นที่ตนเองถืออยู่ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติม
• **Protective Put:** กลยุทธ์ที่ผู้ถือหุ้นซื้อ Put Option เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากราคาหุ้นที่ลดลง
• **Straddle:** กลยุทธ์ที่ผู้ซื้อซื้อทั้ง Call Option และ Put Option ที่มีราคาใช้สิทธิและวันหมดอายุเดียวกัน
• **Strangle:** กลยุทธ์ที่คล้ายกับ Straddle แต่ใช้ Call Option และ Put Option ที่มีราคาใช้สิทธิที่แตกต่างกัน
• **Butterfly Spread:** กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อและขายออปชั่นหลายตัวที่มีราคาใช้สิทธิที่แตกต่างกัน

1. 1. 1. การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย

การใช้ การวิเคราะห์ทางเทคนิค และ การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย ร่วมกับแบบจำลองการกำหนดราคาออปชั่น สามารถช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจซื้อขายได้ ตัวอย่างเช่น การใช้ Moving Averages เพื่อระบุแนวโน้มของราคา หรือการใช้ Relative Strength Index (RSI) เพื่อวัดสภาวะการซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป

1. 1. 1. การจัดการความเสี่ยงในการซื้อขาย Options

การซื้อขาย Options มีความเสี่ยงสูง ผู้ซื้อขายควรทำความเข้าใจความเสี่ยงเหล่านี้อย่างถ่องแท้ และใช้กลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม เช่น:

• **การกำหนดขนาด Position:** ไม่ควรลงทุนเกินจำนวนเงินที่สามารถรับความเสี่ยงได้
• **การใช้ Stop-Loss Orders:** เพื่อจำกัดการขาดทุน
• **การกระจายความเสี่ยง:** ไม่ควรลงทุนในออปชั่นเพียงตัวเดียว

1. 1. 1. แนวโน้มล่าสุดในการกำหนดราคา Options

• **การใช้ Machine Learning:** การใช้ Machine Learning ในการทำนายความผันผวน และการปรับปรุงแบบจำลองการกำหนดราคา
• **การพัฒนาแบบจำลองที่ซับซ้อนขึ้น:** การพัฒนาแบบจำลองที่สามารถคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อการกำหนดราคาออปชั่นได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

1. 1. 1. สรุป

การกำหนดราคา Options เป็นศาสตร์ที่ซับซ้อน แต่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการซื้อขายอนุพันธ์ทางการเงิน การทำความเข้าใจแบบจำลองการกำหนดราคาออปชั่น ปัจจัยที่ส่งผลต่อการกำหนดราคา และกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง จะช่วยให้ผู้ซื้อขายสามารถตัดสินใจซื้อขายได้อย่างมีข้อมูล และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น และออปชั่นอื่นๆ

การวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน การบริหารความเสี่ยง กลยุทธ์การลงทุน การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย การทำกำไรจากไบนารี่ออปชั่น การอ่านกราฟราคา การใช้ Indicators Moving Averages Bollinger Bands MACD RSI Fibonacci Retracement Trend Lines Support and Resistance Option Greeks Delta Hedging Theta Decay Gamma Vega Rho

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น