กลยุทธ์ Fibonacci Bounce

1. 1. กลยุทธ์ Fibonacci Bounce

กลยุทธ์ Fibonacci Bounce เป็นกลยุทธ์การซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น ที่ได้รับความนิยมเนื่องจากอาศัยหลักการของลำดับ Fibonacci ในการคาดการณ์แนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้ในตลาด การทำความเข้าใจเกี่ยวกับลำดับ Fibonacci และการนำไปประยุกต์ใช้ในการซื้อขายสามารถช่วยให้เทรดเดอร์เพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้ บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับกลยุทธ์ Fibonacci Bounce ตั้งแต่พื้นฐานของลำดับ Fibonacci ไปจนถึงวิธีการใช้งานจริง รวมถึงข้อดีข้อเสีย และคำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่

1. 1. 1. 1. ลำดับ Fibonacci คืออะไร?

ลำดับ Fibonacci คือลำดับของตัวเลขที่เริ่มต้นด้วย 0 และ 1 จากนั้นตัวเลขถัดไปในลำดับคือผลรวมของตัวเลขสองตัวก่อนหน้า: 0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, 55, 89, 144,… และต่อไปเรื่อยๆ

ในทางเทคนิคอล การวิเคราะห์ ลำดับ Fibonacci ถูกนำมาใช้ในการระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้ในตลาด โดยการสร้างเครื่องมือที่เรียกว่า **Fibonacci Retracements** และ **Fibonacci Extensions** ซึ่งจะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถคาดการณ์จุดกลับตัวของราคาได้

1. 1. 1. 2. Fibonacci Retracements และ Fibonacci Extensions

• **Fibonacci Retracements:** เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการระบุระดับแนวรับที่เป็นไปได้หลังจากที่ราคาได้เคลื่อนที่ไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งแล้ว โดยระดับ Fibonacci Retracements ที่สำคัญ ได้แก่ 23.6%, 38.2%, 50%, 61.8% และ 78.6% ระดับเหล่านี้ถูกคำนวณโดยการหารช่วงราคา (จากจุดต่ำสุดไปยังจุดสูงสุด หรือจากจุดสูงสุดไปยังจุดต่ำสุด) ด้วยอัตราส่วน Fibonacci ที่แตกต่างกัน
• **Fibonacci Extensions:** เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการระบุระดับแนวต้านที่เป็นไปได้หลังจากที่ราคาได้มีการปรับตัวกลับ (Retracement) แล้ว ระดับ Fibonacci Extensions ที่สำคัญ ได้แก่ 61.8%, 100%, 161.8% และ 261.8%

1. 1. 1. 3. หลักการทำงานของกลยุทธ์ Fibonacci Bounce

กลยุทธ์ Fibonacci Bounce อาศัยแนวคิดที่ว่า ราคาจะปรับตัวกลับ (Bounce) เมื่อเข้าใกล้ระดับ Fibonacci Retracements ที่สำคัญ โดยเทรดเดอร์จะทำการเปิดออปชั่นซื้อ (Call Option) เมื่อราคาปรับตัวลงมาใกล้ระดับ Fibonacci Retracements ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) และทำการเปิดออปชั่นขาย (Put Option) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นมาใกล้ระดับ Fibonacci Retracements ในแนวโน้มขาลง (Downtrend)

• • ขั้นตอนการใช้งานกลยุทธ์ Fibonacci Bounce:**

1. **ระบุแนวโน้ม:** ขั้นตอนแรกคือการระบุแนวโน้มของตลาด หากตลาดอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) ให้มองหาโอกาสในการซื้อ (Call Option) และหากตลาดอยู่ในแนวโน้มขาลง (Downtrend) ให้มองหาโอกาสในการขาย (Put Option) การใช้ การวิเคราะห์แนวโน้ม เป็นสิ่งสำคัญในขั้นตอนนี้ 2. **วาด Fibonacci Retracements:** วาด Fibonacci Retracements จากจุดต่ำสุดไปยังจุดสูงสุดในแนวโน้มขาขึ้น หรือจากจุดสูงสุดไปยังจุดต่ำสุดในแนวโน้มขาลง 3. **รอการปรับตัวกลับ:** รอให้ราคาปรับตัวกลับมาใกล้ระดับ Fibonacci Retracements ที่สำคัญ เช่น 38.2%, 50% หรือ 61.8% 4. **เปิดออปชั่น:** เมื่อราคาเข้าใกล้ระดับ Fibonacci Retracements ให้เปิดออปชั่นซื้อ (Call Option) ในแนวโน้มขาขึ้น หรือเปิดออปชั่นขาย (Put Option) ในแนวโน้มขาลง 5. **ตั้ง Stop Loss:** ตั้ง Stop Loss เพื่อจำกัดความเสี่ยง หากราคาเคลื่อนที่สวนทางกับที่เราคาดการณ์ไว้

1. 1. 1. 4. ตัวอย่างการใช้งานกลยุทธ์ Fibonacci Bounce

สมมติว่าตลาดอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) และราคาได้ปรับตัวขึ้นจาก 100 ไปยัง 150 จากนั้นราคาได้ปรับตัวลงเล็กน้อย เทรดเดอร์จะวาด Fibonacci Retracements จากจุดต่ำสุด (100) ไปยังจุดสูงสุด (150)

ระดับ Fibonacci Retracements ที่สำคัญจะอยู่ที่:

• 23.6% = 126.4
• 38.2% = 118.2
• 50% = 110
• 61.8% = 103.6

หากราคาปรับตัวลงมาใกล้ระดับ 38.2% (118.2) เทรดเดอร์จะเปิดออปชั่นซื้อ (Call Option) โดยคาดหวังว่าราคาจะปรับตัวกลับขึ้นไปอีกครั้ง

1. 1. 1. 5. ข้อดีและข้อเสียของกลยุทธ์ Fibonacci Bounce

• • ข้อดี:**

• **ความแม่นยำ:** กลยุทธ์นี้มีความแม่นยำสูงเมื่อใช้ร่วมกับการวิเคราะห์แนวโน้มและการยืนยันจาก อินดิเคเตอร์ อื่นๆ เช่น Moving Averages หรือ RSI
• **ความยืดหยุ่น:** สามารถใช้ได้กับตลาดที่หลากหลายและกรอบเวลาที่แตกต่างกัน
• **ง่ายต่อการเรียนรู้:** หลักการพื้นฐานของกลยุทธ์นี้ไม่ซับซ้อนและง่ายต่อการทำความเข้าใจ

• • ข้อเสีย:**

• **สัญญาณหลอก:** บางครั้งราคาอาจทะลุผ่านระดับ Fibonacci Retracements ที่สำคัญ ทำให้เกิดสัญญาณหลอก (False Signals)
• **ต้องใช้ความระมัดระวัง:** การใช้กลยุทธ์นี้เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อยืนยันสัญญาณ
• **ความล่าช้า:** สัญญาณอาจปรากฏขึ้นช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้พลาดโอกาสในการทำกำไร

1. 1. 1. 6. การผสมผสานกลยุทธ์ Fibonacci Bounce กับเครื่องมืออื่นๆ

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของกลยุทธ์ Fibonacci Bounce เทรดเดอร์ควรผสมผสานกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น:

• **Moving Averages:** ใช้ Moving Averages เพื่อยืนยันแนวโน้มของตลาด หากราคาอยู่เหนือ Moving Averages แสดงว่าอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น และหากราคาอยู่ใต้ Moving Averages แสดงว่าอยู่ในแนวโน้มขาลง
• **RSI (Relative Strength Index):** ใช้ RSI เพื่อวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้ม หาก RSI อยู่เหนือ 70 แสดงว่าตลาดอยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) และหาก RSI อยู่ต่ำกว่า 30 แสดงว่าตลาดอยู่ในภาวะขายมากเกินไป (Oversold)
• **MACD (Moving Average Convergence Divergence):** ใช้ MACD เพื่อระบุการเปลี่ยนแปลงของโมเมนตัม หาก MACD ตัดเส้น Signal Line ขึ้นไป แสดงว่าโมเมนตัมกำลังเพิ่มขึ้น และหาก MACD ตัดเส้น Signal Line ลงมา แสดงว่าโมเมนตัมกำลังลดลง
• **Candlestick Patterns:** การสังเกต รูปแบบแท่งเทียน เช่น Engulfing Patterns หรือ Hammer Patterns สามารถช่วยยืนยันสัญญาณจาก Fibonacci Retracements ได้

1. 1. 1. 7. การจัดการความเสี่ยงในการใช้กลยุทธ์ Fibonacci Bounce

การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น การใช้กลยุทธ์ Fibonacci Bounce ก็เช่นกัน

• **Stop Loss:** ตั้ง Stop Loss เสมอเพื่อจำกัดความเสี่ยง หากราคาเคลื่อนที่สวนทางกับที่เราคาดการณ์ไว้
• **ขนาด Position:** กำหนดขนาด Position ที่เหมาะสม ไม่ควรลงทุนเกิน 5-10% ของเงินทุนทั้งหมดในแต่ละออปชั่น
• **Money Management:** ใช้หลักการ Money Management เพื่อควบคุมความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในระยะยาว
• **Backtesting:** ก่อนที่จะใช้กลยุทธ์นี้ในการซื้อขายจริง ควรทำการ Backtesting กับข้อมูลในอดีตเพื่อประเมินประสิทธิภาพและความเสี่ยงของกลยุทธ์

1. 1. 1. 8. กลยุทธ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

นอกเหนือจาก Fibonacci Bounce แล้ว ยังมีกลยุทธ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคและไบนารี่ออปชั่นที่เทรดเดอร์สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้:

• **Trend Following:** กลยุทธ์การติดตามแนวโน้ม
• **Breakout Trading:** กลยุทธ์การซื้อขายเมื่อราคา Breakout จากช่วง Consolidation
• **Support and Resistance Trading:** กลยุทธ์การซื้อขายตามแนวรับและแนวต้าน
• **Bollinger Bands:** การใช้ Bollinger Bands เพื่อระบุช่วงราคาที่ผันผวน
• **Ichimoku Cloud:** การใช้ Ichimoku Cloud เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มและระดับแนวรับแนวต้าน
• **Williams %R:** การใช้ Williams %R เพื่อวัดภาวะซื้อมากเกินไปและขายมากเกินไป
• **Pivot Points:** การใช้ Pivot Points เพื่อระบุระดับแนวรับแนวต้าน
• **Elliott Wave Theory:** ทฤษฎีคลื่น Elliott
• **Harmonic Patterns:** รูปแบบ Harmonic
• **Price Action Trading:** การซื้อขายตาม Price Action
• **Scalping:** การซื้อขายระยะสั้นเพื่อทำกำไรเล็กน้อย
• **News Trading:** การซื้อขายตามข่าวสาร
• **Seasonality Trading:** การซื้อขายตามฤดูกาล
• **Volume Spread Analysis:** การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายและ Spread

1. 1. 1. 9. สรุป

กลยุทธ์ Fibonacci Bounce เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น แต่การใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพจำเป็นต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการของลำดับ Fibonacci การวิเคราะห์แนวโน้ม และการผสมผสานกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ นอกจากนี้ การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้สามารถจำกัดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในระยะยาว การฝึกฝนและ Backtesting จะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถพัฒนาทักษะและปรับปรุงกลยุทธ์ของตนเองได้

ตัวอย่างระดับ Fibonacci Retracements และการใช้งาน

ระดับ Fibonacci ! คำอธิบาย ! การใช้งานในแนวโน้มขาขึ้น ! การใช้งานในแนวโน้มขาลง
23.6%	ระดับการปรับตัวกลับครั้งแรกที่มักจะเกิดการ Bounce	เปิด Call Option เมื่อราคาปรับตัวลงมาใกล้ระดับนี้	เปิด Put Option เมื่อราคาปรับตัวขึ้นมาใกล้ระดับนี้
38.2%	ระดับที่สำคัญ ซึ่งมักจะมีการ Support หรือ Resistance	เปิด Call Option เมื่อราคาปรับตัวลงมาใกล้ระดับนี้	เปิด Put Option เมื่อราคาปรับตัวขึ้นมาใกล้ระดับนี้
50%	ระดับกึ่งกลางของการปรับตัวกลับ ซึ่งมักจะมีการ Support หรือ Resistance	เปิด Call Option เมื่อราคาปรับตัวลงมาใกล้ระดับนี้	เปิด Put Option เมื่อราคาปรับตัวขึ้นมาใกล้ระดับนี้
61.8%	ระดับที่สำคัญที่สุดใน Fibonacci Retracements ซึ่งมักจะมีการ Bounce ที่แข็งแกร่ง	เปิด Call Option เมื่อราคาปรับตัวลงมาใกล้ระดับนี้	เปิด Put Option เมื่อราคาปรับตัวขึ้นมาใกล้ระดับนี้
78.6%	ระดับที่มักจะมีการ Support หรือ Resistance ก่อนที่จะเกิดการ Breakout	เปิด Call Option เมื่อราคาปรับตัวลงมาใกล้ระดับนี้ (ระมัดระวัง)	เปิด Put Option เมื่อราคาปรับตัวขึ้นมาใกล้ระดับนี้ (ระมัดระวัง)

การวิเคราะห์ทางเทคนิค ไบนารี่ออปชั่น Fibonacci Retracements Fibonacci Extensions แนวโน้ม (ตลาด) อินดิเคเตอร์ Moving Averages RSI (Relative Strength Index) MACD (Moving Average Convergence Divergence) รูปแบบแท่งเทียน Money Management Trend Following Breakout Trading Support and Resistance Trading Bollinger Bands Ichimoku Cloud Williams %R Pivot Points Elliott Wave Theory Harmonic Patterns Price Action Trading Volume Spread Analysis กลยุทธ์การซื้อขาย การจัดการความเสี่ยง การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย Backtesting Stop Loss ขนาด Position

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น