กลยุทธ์ดั้งเดิม

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. กลยุทธ์ดั้งเดิม ใน ไบนารี่ออปชั่น สำหรับผู้เริ่มต้น

ไบนารี่ออปชั่น คือรูปแบบการลงทุนทางการเงินที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้วยความเรียบง่ายในการทำความเข้าใจและศักยภาพในการทำกำไรที่สูง ทำให้ดึงดูดนักลงทุนจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เริ่มต้น อย่างไรก็ตาม การลงทุนในไบนารี่ออปชั่นมีความเสี่ยง และการประสบความสำเร็จจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจในกลยุทธ์การซื้อขายที่เหมาะสม บทความนี้จะนำเสนอ “กลยุทธ์ดั้งเดิม” ซึ่งเป็นแนวทางพื้นฐานที่นักลงทุนมือใหม่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ โดยเน้นที่การวิเคราะห์ตลาด การบริหารความเสี่ยง และการเลือกสัญญาที่เหมาะสม

      1. ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับกลยุทธ์ดั้งเดิม

กลยุทธ์ดั้งเดิม (Classic Strategy) ในไบนารี่ออปชั่น มักหมายถึงการใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคพื้นฐานเพื่อคาดการณ์ทิศทางของราคาสินทรัพย์ในช่วงเวลาที่กำหนด กลยุทธ์นี้เน้นการระบุแนวโน้ม (Trend) และจุดกลับตัวของราคา โดยใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่เรียบง่าย เช่น เส้นแนวโน้ม (Trend Lines) ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) และรูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns) จุดประสงค์หลักคือการตัดสินใจว่าราคาจะ “สูงขึ้น” (Call Option) หรือ “ต่ำลง” (Put Option) ภายในระยะเวลาที่กำหนด

      1. องค์ประกอบหลักของกลยุทธ์ดั้งเดิม

1. **การวิเคราะห์แนวโน้ม:** การระบุแนวโน้มของราคาสินทรัพย์เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุด แนวโน้มสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก คือ แนวโน้มขึ้น (Uptrend), แนวโน้มลง (Downtrend) และแนวโน้ม sideway (Sideways Trend) การทำความเข้าใจแนวโน้มจะช่วยให้นักลงทุนสามารถเลือกสัญญาที่เหมาะสมได้

   *   การวิเคราะห์แนวโน้ม
   *   แนวโน้มขึ้น
   *   แนวโน้มลง

2. **การใช้เส้นแนวโน้ม:** เส้นแนวโน้มเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการระบุแนวโน้มของราคา โดยการลากเส้นเชื่อมต่อจุดต่ำสุด (ในแนวโน้มขึ้น) หรือจุดสูงสุด (ในแนวโน้มลง) เส้นแนวโน้มสามารถใช้เป็นแนวรับ (Support) และแนวต้าน (Resistance) ที่สำคัญ

   *   เส้นแนวโน้ม
   *   แนวรับ
   *   แนวต้าน

3. **ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages):** ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่คือเครื่องมือที่ใช้ในการลดสัญญาณรบกวนและระบุแนวโน้มของราคา โดยการคำนวณราคาเฉลี่ยในช่วงเวลาที่กำหนด ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่นิยมใช้กัน ได้แก่ ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่าย (Simple Moving Average - SMA) และค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล (Exponential Moving Average - EMA)

   *   ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่
   *   SMA
   *   EMA

4. **รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns):** รูปแบบแท่งเทียนเป็นรูปแบบที่เกิดขึ้นบนกราฟราคา ซึ่งสามารถบ่งบอกถึงการกลับตัวหรือการต่อเนื่องของแนวโน้ม รูปแบบแท่งเทียนที่นิยมใช้ในการวิเคราะห์ไบนารี่ออปชั่น ได้แก่ Doji, Engulfing, Hammer และ Shooting Star

   *   รูปแบบแท่งเทียน
   *   Doji
   *   Engulfing
   *   Hammer
   *   Shooting Star

5. **การบริหารความเสี่ยง:** การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการลงทุนไบนารี่ออปชั่น กำหนดขนาดการลงทุนต่อสัญญาอย่างเหมาะสม และอย่าลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถรับความเสี่ยงได้

      1. ขั้นตอนการใช้กลยุทธ์ดั้งเดิม

1. **เลือกสินทรัพย์:** เลือกสินทรัพย์ที่คุณมีความเข้าใจและมีความผันผวนที่เหมาะสม สินทรัพย์ที่นิยมใช้ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น ได้แก่ สกุลเงิน (Forex), หุ้น (Stocks), ดัชนี (Indices) และสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities)

   *   การเลือกสินทรัพย์
   *   Forex
   *   หุ้น
   *   ดัชนี
   *   สินค้าโภคภัณฑ์

2. **กำหนดกรอบเวลา:** เลือกกรอบเวลาที่เหมาะสมกับสไตล์การซื้อขายของคุณ กรอบเวลาที่นิยมใช้กัน ได้แก่ 5 นาที, 15 นาที, 30 นาที และ 1 ชั่วโมง

   *   กรอบเวลา

3. **วิเคราะห์แนวโน้ม:** วิเคราะห์แนวโน้มของราคาสินทรัพย์ในช่วงเวลาที่กำหนด โดยใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น เส้นแนวโน้ม และค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่

4. **ระบุสัญญาณซื้อขาย:** ระบุสัญญาณซื้อขายที่ชัดเจน เช่น การทะลุแนวรับหรือแนวต้าน การเกิดรูปแบบแท่งเทียนที่บ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม หรือการตัดกันของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่

5. **เลือกสัญญา:** เลือกสัญญาที่เหมาะสมกับสัญญาณซื้อขายของคุณ หากคุณคาดว่าราคาจะสูงขึ้น ให้เลือก Call Option หากคุณคาดว่าราคาจะต่ำลง ให้เลือก Put Option

6. **บริหารความเสี่ยง:** กำหนดขนาดการลงทุนต่อสัญญาอย่างเหมาะสม และอย่าลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถรับความเสี่ยงได้

      1. ตัวอย่างการใช้กลยุทธ์ดั้งเดิม

สมมติว่าคุณต้องการซื้อขายสกุลเงิน EUR/USD ในกรอบเวลา 15 นาที

1. **วิเคราะห์แนวโน้ม:** คุณสังเกตเห็นว่าราคา EUR/USD มีแนวโน้มขึ้นอย่างชัดเจน โดยราคาทำจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดที่สูงขึ้นเรื่อยๆ

2. **ใช้เส้นแนวโน้ม:** คุณลากเส้นแนวโน้มเชื่อมต่อจุดต่ำสุดของราคา และพบว่าเส้นแนวโน้มทำหน้าที่เป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง

3. **ระบุสัญญาณซื้อขาย:** คุณสังเกตเห็นว่าราคา EUR/USD ได้ทะลุแนวรับขึ้นไป และเกิดรูปแบบแท่งเทียน Bullish Engulfing ซึ่งบ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม

4. **เลือกสัญญา:** คุณตัดสินใจเลือก Call Option โดยคาดว่าราคา EUR/USD จะยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อไป

5. **บริหารความเสี่ยง:** คุณกำหนดขนาดการลงทุนต่อสัญญาเท่ากับ 2% ของเงินทุนทั้งหมดของคุณ

      1. กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องและการประยุกต์ใช้
  • **Bollinger Bands:** ใช้ร่วมกับกลยุทธ์ดั้งเดิมเพื่อระบุช่วงราคาที่อาจเกิดการกลับตัว
   *   Bollinger Bands
  • **Fibonacci Retracement:** ใช้เพื่อคาดการณ์ระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ
   *   Fibonacci Retracement
  • **MACD (Moving Average Convergence Divergence):** ใช้เพื่อยืนยันแนวโน้มและระบุสัญญาณซื้อขาย
   *   MACD
  • **RSI (Relative Strength Index):** ใช้เพื่อวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้มและระบุสภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold)
   *   RSI
  • **Price Action:** การวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาโดยตรง โดยไม่ต้องใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิคเพิ่มเติม
   *   Price Action
  • **Pin Bar Strategy:** ใช้รูปแบบ Pin Bar เพื่อระบุจุดกลับตัวของราคา
   *   Pin Bar Strategy
  • **Three Inside Bar Strategy:** ใช้รูปแบบ Three Inside Bar เพื่อระบุการต่อเนื่องของแนวโน้ม
   *   Three Inside Bar Strategy
  • **Breakout Strategy:** ใช้การทะลุแนวรับหรือแนวต้านเป็นสัญญาณซื้อขาย
   *   Breakout Strategy
  • **Support and Resistance Level Strategy:** เน้นการซื้อขายที่แนวรับและแนวต้าน
   *   Support and Resistance Level Strategy
  • **Trend Following Strategy:** เน้นการซื้อขายตามแนวโน้มหลักของราคา
   *   Trend Following Strategy
  • **Mean Reversion Strategy:** เน้นการซื้อขายเมื่อราคาเบี่ยงเบนจากค่าเฉลี่ย
   *   Mean Reversion Strategy
  • **News Trading:** การซื้อขายโดยใช้ข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจ
   *   News Trading
  • **Scalping:** การซื้อขายระยะสั้นเพื่อทำกำไรเล็กน้อยจำนวนมาก
   *   Scalping
  • **Day Trading:** การซื้อขายและปิดสถานะทั้งหมดภายในวันเดียวกัน
   *   Day Trading
  • **Swing Trading:** การถือครองสถานะเป็นเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์
   *   Swing Trading
      1. ข้อควรระวังและคำแนะนำเพิ่มเติม
  • **การทดสอบย้อนหลัง (Backtesting):** ก่อนที่จะใช้กลยุทธ์ดั้งเดิมในการซื้อขายจริง ควรทำการทดสอบย้อนหลังกับข้อมูลในอดีต เพื่อประเมินประสิทธิภาพและความเสี่ยงของกลยุทธ์
  • **บัญชีทดลอง (Demo Account):** ฝึกฝนการใช้กลยุทธ์ดั้งเดิมในบัญชีทดลองก่อนที่จะลงทุนด้วยเงินจริง
  • **การติดตามผล (Tracking Results):** ติดตามผลการซื้อขายของคุณอย่างสม่ำเสมอ เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกำไร
  • **การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง:** ตลาดการเงินมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ดังนั้นคุณควรเรียนรู้และพัฒนาความรู้ความเข้าใจของคุณอย่างต่อเนื่อง
      1. สรุป

กลยุทธ์ดั้งเดิมเป็นแนวทางพื้นฐานที่นักลงทุนไบนารี่ออปชั่นมือใหม่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ โดยเน้นที่การวิเคราะห์แนวโน้ม การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่เรียบง่าย และการบริหารความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม การประสบความสำเร็จในการลงทุนไบนารี่ออปชั่นจำเป็นต้องมีความอดทน ความมีวินัย และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง อย่าลืมว่าการลงทุนมีความเสี่ยง และคุณควรลงทุนเฉพาะเงินที่คุณสามารถรับความเสี่ยงได้

การลงทุน การบริหารความเสี่ยง การวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ตลาดการเงิน

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер