Bollinger Bands Breakout Strategy

1. 1. Bollinger Bands Breakout Strategy

บทนำ

กลยุทธ์ Bollinger Bands Breakout เป็นกลยุทธ์การซื้อขายที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในตลาดการเงิน รวมถึงตลาด ไบนารี่ออปชั่น ด้วย กลยุทธ์นี้อาศัยการวิเคราะห์ช่วงราคา (Volatility) และการระบุช่วงราคาที่อาจเกิดการ Breakout หรือการทะลุแนวต้าน/แนวรับ โดยใช้เครื่องมือ Bollinger Bands ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่สำคัญ

บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับกลยุทธ์ Bollinger Bands Breakout สำหรับผู้เริ่มต้น โดยจะครอบคลุมถึงหลักการทำงาน, วิธีการใช้งาน, การตั้งค่าพารามิเตอร์, การยืนยันสัญญาณ, การบริหารความเสี่ยง และข้อดีข้อเสียของกลยุทธ์นี้

Bollinger Bands คืออะไร?

Bollinger Bands ถูกพัฒนาขึ้นโดย John Bollinger ในช่วงทศวรรษ 1980 เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวัดความผันผวนของราคา และระบุระดับราคาที่สูงหรือต่ำเกินไป (Overbought/Oversold) โดยประกอบด้วย 3 เส้น:

• **เส้นกลาง (Middle Band):** มักจะเป็นเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) เช่น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วัน
• **เส้นบน (Upper Band):** คำนวณจากเส้นกลาง บวกด้วยค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) คูณด้วยจำนวนที่กำหนด (โดยทั่วไปคือ 2)
• **เส้นล่าง (Lower Band):** คำนวณจากเส้นกลาง ลบด้วยค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน คูณด้วยจำนวนที่กำหนด (โดยทั่วไปคือ 2)

เมื่อราคาเคลื่อนไหวภายในช่วงของ Bollinger Bands จะแสดงถึงสภาวะที่ตลาดมีความผันผวนต่ำ แต่เมื่อราคาทะลุเส้นบนหรือเส้นล่าง อาจบ่งบอกถึงแนวโน้มที่แข็งแกร่ง หรือการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม

หลักการของ Bollinger Bands Breakout Strategy

กลยุทธ์ Bollinger Bands Breakout อาศัยหลักการที่ว่า เมื่อราคาทะลุเส้นบนหรือเส้นล่างของ Bollinger Bands ด้วยแรงซื้อขายที่แข็งแกร่ง จะเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการเริ่มต้นของแนวโน้มใหม่ หรือการเร่งตัวของแนวโน้มเดิม

• **Breakout เส้นบน:** บ่งบอกถึงสัญญาณซื้อ (Call Option) เนื่องจากราคาอาจมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
• **Breakout เส้นล่าง:** บ่งบอกถึงสัญญาณขาย (Put Option) เนื่องจากราคาอาจมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง

วิธีการใช้งาน Bollinger Bands Breakout Strategy

1. **เลือกสินทรัพย์:** เลือกสินทรัพย์ที่คุณมีความรู้ความเข้าใจ และมีความผันผวนที่เหมาะสมสำหรับการใช้กลยุทธ์นี้ เช่น คู่สกุลเงินหลัก, ดัชนีหุ้น, หรือสินค้าโภคภัณฑ์ 2. **ตั้งค่า Bollinger Bands:** โดยทั่วไปจะใช้การตั้งค่าเริ่มต้นคือ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วัน และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 2 แต่คุณสามารถปรับเปลี่ยนพารามิเตอร์เหล่านี้ได้ตามความเหมาะสมกับสินทรัพย์และกรอบเวลาที่คุณใช้ 3. **ระบุสัญญาณ Breakout:** สังเกตราคาเมื่อทะลุเส้นบนหรือเส้นล่างของ Bollinger Bands อย่างชัดเจน โดยพิจารณาจากแท่งเทียน (Candlestick) ที่มีขนาดใหญ่ และมีปริมาณการซื้อขาย (Volume) ที่เพิ่มขึ้น 4. **ยืนยันสัญญาณ:** เพื่อเพิ่มความแม่นยำของสัญญาณ ควรยืนยันด้วยเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น Relative Strength Index (RSI), Moving Average Convergence Divergence (MACD), หรือ Fibonacci Retracement 5. **เปิด Position:** หลังจากยืนยันสัญญาณแล้ว ให้เปิด Position ในทิศทางของการ Breakout โดยเลือก Call Option หากราคา Breakout เส้นบน และเลือก Put Option หากราคา Breakout เส้นล่าง 6. **กำหนดเวลาหมดอายุ (Expiry Time):** กำหนดเวลาหมดอายุของ Option ให้เหมาะสมกับกรอบเวลาที่คุณใช้ หากใช้กรอบเวลาสั้น เช่น 5 นาที อาจกำหนดเวลาหมดอายุ 15-30 นาที แต่หากใช้กรอบเวลาที่ยาวกว่า อาจกำหนดเวลาหมดอายุที่นานขึ้น 7. **บริหารความเสี่ยง:** กำหนดขนาดของเงินทุนที่คุณจะใช้ในการซื้อขายแต่ละครั้ง และตั้ง Stop Loss เพื่อจำกัดความเสี่ยงหากราคาเคลื่อนไหวผิดทาง

การตั้งค่าพารามิเตอร์ของ Bollinger Bands

การตั้งค่าพารามิเตอร์ของ Bollinger Bands มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประสิทธิภาพของกลยุทธ์ โดยพารามิเตอร์ที่สำคัญ ได้แก่:

• **ระยะเวลาของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average Period):** โดยทั่วไปจะใช้ 20 วัน แต่คุณสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม หากต้องการให้ Bollinger Bands ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาได้เร็วขึ้น ควรลดระยะเวลาลง แต่หากต้องการให้ Bollinger Bands มีความเสถียรมากขึ้น ควรเพิ่มระยะเวลาขึ้น
• **ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation):** โดยทั่วไปจะใช้ 2 แต่คุณสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม หากต้องการให้ Bollinger Bands มีช่วงกว้างขึ้น ควรเพิ่มค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน แต่หากต้องการให้ Bollinger Bands มีช่วงแคบลง ควรลดค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ตัวอย่างการตั้งค่า Bollinger Bands

กรอบเวลา	เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่	ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
5 นาที	10	2
15 นาที	20	2
30 นาที	20	2.5
1 ชั่วโมง	20	2.5

การยืนยันสัญญาณ Breakout

การยืนยันสัญญาณ Breakout เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการลดความเสี่ยง และเพิ่มความแม่นยำของกลยุทธ์ คุณสามารถใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อยืนยันสัญญาณได้ เช่น:

• **ปริมาณการซื้อขาย (Volume):** หากการ Breakout เกิดขึ้นพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น แสดงว่ามีความสนใจจากนักลงทุนในการซื้อขายสินทรัพย์นั้นจริง
• **Relative Strength Index (RSI):** หาก RSI อยู่เหนือระดับ 70 เมื่อเกิดการ Breakout เส้นบน หรือต่ำกว่าระดับ 30 เมื่อเกิดการ Breakout เส้นล่าง จะเป็นสัญญาณยืนยันที่แข็งแกร่ง
• **Moving Average Convergence Divergence (MACD):** หาก MACD ตัดเส้น Signal Line ขึ้นเหนือ เมื่อเกิดการ Breakout เส้นบน หรือตัดลงต่ำกว่า เมื่อเกิดการ Breakout เส้นล่าง จะเป็นสัญญาณยืนยันที่น่าเชื่อถือ
• **แนวรับ/แนวต้าน (Support/Resistance):** หากการ Breakout เกิดขึ้นที่แนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญ จะเป็นสัญญาณยืนยันที่แข็งแกร่ง
• **รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns):** การสังเกตรูปแบบแท่งเทียน เช่น Engulfing Pattern, Hammer, หรือ Shooting Star สามารถช่วยยืนยันสัญญาณ Breakout ได้

การบริหารความเสี่ยง

การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้กลยุทธ์ที่อาจมีความเสี่ยงสูง เช่น Bollinger Bands Breakout Strategy:

• **กำหนดขนาดของเงินทุน:** กำหนดขนาดของเงินทุนที่คุณจะใช้ในการซื้อขายแต่ละครั้ง ไม่ควรเกิน 5% ของเงินทุนทั้งหมด
• **ตั้ง Stop Loss:** ตั้ง Stop Loss เพื่อจำกัดความเสี่ยงหากราคาเคลื่อนไหวผิดทาง
• **ใช้เงินทุนเสมือน (Demo Account):** ก่อนที่จะเริ่มซื้อขายด้วยเงินจริง ควรฝึกฝนการใช้กลยุทธ์นี้ด้วยเงินทุนเสมือนก่อน เพื่อทำความเข้าใจและทดสอบประสิทธิภาพของกลยุทธ์
• **กระจายความเสี่ยง:** อย่าลงทุนในสินทรัพย์เพียงอย่างเดียว ควรลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย เพื่อกระจายความเสี่ยง
• **ควบคุมอารมณ์:** อย่าปล่อยให้อารมณ์เข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจซื้อขาย

ข้อดีและข้อเสียของ Bollinger Bands Breakout Strategy

• • ข้อดี:**

• **สัญญาณที่ชัดเจน:** สัญญาณ Breakout ค่อนข้างชัดเจน และง่ายต่อการระบุ
• **สามารถใช้ได้กับทุกสินทรัพย์:** กลยุทธ์นี้สามารถใช้ได้กับสินทรัพย์ที่หลากหลาย
• **สามารถใช้ได้กับทุกกรอบเวลา:** กลยุทธ์นี้สามารถใช้ได้กับกรอบเวลาที่แตกต่างกัน
• **ช่วยระบุแนวโน้ม:** กลยุทธ์นี้ช่วยในการระบุแนวโน้มของราคา

• • ข้อเสีย:**

• **สัญญาณหลอก (False Signals):** อาจเกิดสัญญาณหลอกได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่มีความผันผวนต่ำ
• **ต้องการการยืนยันสัญญาณ:** จำเป็นต้องมีการยืนยันสัญญาณด้วยเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ
• **ความเสี่ยงสูง:** กลยุทธ์นี้อาจมีความเสี่ยงสูง หากไม่ได้รับการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม

กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง

• Moving Average Crossover Strategy
• RSI Divergence Strategy
• MACD Strategy
• Fibonacci Retracement Strategy
• Support and Resistance Strategy
• Price Action Trading
• Trend Following Strategy
• Scalping Strategy
• Day Trading Strategy
• Swing Trading Strategy
• Breakout Trading
• Gap Trading
• News Trading
• Reversal Trading
• Momentum Trading

การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพิ่มเติม

• Candlestick Patterns
• Chart Patterns
• Elliot Wave Theory
• Dow Theory

การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย

• On-Balance Volume (OBV)
• Accumulation/Distribution Line
• Volume Price Trend (VPT)

สรุป

Bollinger Bands Breakout Strategy เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น แต่จำเป็นต้องมีความเข้าใจในหลักการทำงาน การตั้งค่าพารามิเตอร์ การยืนยันสัญญาณ และการบริหารความเสี่ยงอย่างถูกต้อง หากคุณสามารถนำกลยุทธ์นี้ไปปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม คุณก็สามารถเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในตลาดการเงินได้

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น