Turtle Trading

1. 1. Turtle Trading

Turtle Trading เป็นกลยุทธ์การซื้อขายที่โด่งดังซึ่งถูกพัฒนาขึ้นโดย Richard Dennis นักเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ชื่อดังในช่วงทศวรรษ 1980 กลยุทธ์นี้ได้รับชื่อมาจาก “เต่า” ซึ่งเป็นชื่อเล่นที่ Dennis ใช้เรียกกลุ่มนักเทรดมือใหม่ที่เขาฝึกฝนขึ้นมาเพื่อพิสูจน์ว่าใครก็ได้สามารถประสบความสำเร็จในการเทรดได้หากปฏิบัติตามระบบที่ชัดเจนและมีวินัย แม้ว่า Turtle Trading จะถูกออกแบบมาสำหรับการเทรดในตลาดฟิวเจอร์ส แต่หลักการและแนวคิดพื้นฐานของมันสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการเทรด ไบนารี่ออปชั่น ได้เช่นกัน บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดของ Turtle Trading สำหรับผู้เริ่มต้น รวมถึงวิธีการปรับใช้กลยุทธ์นี้ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น

1. 1. 1. ประวัติความเป็นมาของ Turtle Trading

Richard Dennis เชื่อว่าความสำเร็จในการเทรดไม่ได้ขึ้นอยู่กับพรสวรรค์หรือสัญชาตญาณ แต่ขึ้นอยู่กับการมีระบบการเทรดที่ชัดเจนและวินัยในการปฏิบัติตามระบบนั้น เขาจึงทำการทดลองโดยการคัดเลือกกลุ่มคนหลากหลายอาชีพที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการเทรดมาก่อน และฝึกฝนพวกเขาให้กลายเป็นนักเทรดมืออาชีพโดยใช้ระบบการเทรดที่เขาพัฒนาขึ้นมาเอง กลุ่มนักเทรดเหล่านี้ถูกเรียกว่า “เต่า” เนื่องจากพวกเขาเป็นมือใหม่และต้องเรียนรู้ทุกอย่างจากเริ่มต้น

Dennis มอบเงินทุนให้กับ “เต่า” แต่ละคนและให้พวกเขาเทรดในตลาดฟิวเจอร์ส โดยมีข้อกำหนดว่าพวกเขาต้องปฏิบัติตามระบบการเทรดที่เขากำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ผลปรากฏว่า “เต่า” หลายคนสามารถทำกำไรได้อย่างมาก แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีพื้นฐานทางการเงินหรือประสบการณ์ในการเทรดมาก่อนก็ตาม สิ่งนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าระบบการเทรดที่ชัดเจนและวินัยในการปฏิบัติตามระบบเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จในการเทรด

1. 1. 1. หลักการพื้นฐานของ Turtle Trading

Turtle Trading มีหลักการพื้นฐานที่สำคัญหลายประการ ได้แก่:

• **การระบุแนวโน้ม:** Turtle Trading เน้นการระบุและเทรดตามแนวโน้มของตลาด การเทรดตามแนวโน้มเป็นกลยุทธ์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในระยะยาว
• **การใช้ Stop-Loss:** การใช้ Stop-Loss เป็นสิ่งสำคัญในการจำกัดความเสี่ยงในการเทรด Turtle Trading กำหนดจุด Stop-Loss ที่ชัดเจนสำหรับทุกการเทรด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการขาดทุนที่มากเกินไป
• **การจัดการความเสี่ยง:** Turtle Trading เน้นการจัดการความเสี่ยงอย่างเข้มงวด โดยกำหนดขนาด Position ที่เหมาะสมสำหรับแต่ละการเทรด เพื่อลดความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ตการลงทุน
• **ระบบการเทรดที่ชัดเจน:** Turtle Trading มีระบบการเทรดที่ชัดเจนและมีกฎเกณฑ์ที่แน่นอน นักเทรดต้องปฏิบัติตามระบบอย่างเคร่งครัด โดยไม่ปล่อยให้ความรู้สึกหรืออารมณ์เข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
• **วินัย:** วินัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเทรด Turtle Trading นักเทรดต้องมีวินัยในการปฏิบัติตามระบบการเทรด และไม่เปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ของระบบโดยพลการ

1. 1. 1. ระบบการเทรด Turtle Trading

ระบบการเทรด Turtle Trading ประกอบด้วยกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนสำหรับการเข้าและออกจากตลาด รวมถึงการจัดการความเสี่ยง กฎเกณฑ์เหล่านี้สามารถสรุปได้ดังนี้:

1. **การระบุแนวโน้ม:** ใช้ Moving Average เพื่อระบุแนวโน้มของตลาด หากราคาอยู่เหนือ Moving Average แสดงว่าอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น หากราคาอยู่ต่ำกว่า Moving Average แสดงว่าอยู่ในแนวโน้มขาลง 2. **การเข้าสู่ตลาด:** เมื่อระบุแนวโน้มได้แล้ว ให้รอสัญญาณการ Breakout ที่ชัดเจน เช่น การทะลุแนวต้านหรือแนวรับที่สำคัญ 3. **การกำหนด Stop-Loss:** กำหนดจุด Stop-Loss ที่ระดับต่ำกว่า Swing Low สำหรับการเทรด Long และสูงกว่า Swing High สำหรับการเทรด Short 4. **การกำหนด Take-Profit:** กำหนดจุด Take-Profit ที่ระดับที่เหมาะสมตามความเสี่ยงที่ยอมรับได้ โดยทั่วไปจะใช้ Ratio Risk-Reward ที่ 1:2 หรือ 1:3 5. **การจัดการ Position Size:** กำหนดขนาด Position ที่เหมาะสมโดยพิจารณาจากความเสี่ยงที่ยอมรับได้ โดยทั่วไปจะจำกัดความเสี่ยงต่อการเทรดแต่ละครั้งไม่เกิน 1-2% ของพอร์ตการลงทุน

1. 1. 1. การประยุกต์ใช้ Turtle Trading กับไบนารี่ออปชั่น

แม้ว่า Turtle Trading จะถูกออกแบบมาสำหรับการเทรดในตลาดฟิวเจอร์ส แต่หลักการและแนวคิดพื้นฐานของมันสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการเทรด ไบนารี่ออปชั่น ได้เช่นกัน โดยมีวิธีการดังนี้:

• **การระบุแนวโน้ม:** ใช้เครื่องมือทางเทคนิค เช่น MACD, RSI, หรือ Bollinger Bands เพื่อระบุแนวโน้มของสินทรัพย์ที่ต้องการเทรด
• **การเลือกทิศทาง:** เมื่อระบุแนวโน้มได้แล้ว ให้เลือกทิศทางการเทรดที่สอดคล้องกับแนวโน้มนั้น เช่น หากอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ให้เลือก Call Option
• **การกำหนดระยะเวลา:** กำหนดระยะเวลาของ Option ให้เหมาะสมกับกรอบเวลาที่ใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้ม
• **การจัดการความเสี่ยง:** กำหนดจำนวนเงินลงทุนต่อการเทรดแต่ละครั้งให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ โดยทั่วไปจะลงทุนไม่เกิน 1-2% ของพอร์ตการลงทุน
• **การใช้ Stop-Loss (ในรูปแบบของการลดจำนวนเงินลงทุน):** ถึงแม้ว่าไบนารี่ออปชั่นจะไม่มี Stop-Loss แบบดั้งเดิม แต่สามารถจัดการความเสี่ยงได้โดยการลดจำนวนเงินลงทุนในการเทรดครั้งต่อไปหากการเทรดก่อนหน้านี้ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง

1. 1. 1. เครื่องมือและตัวชี้วัดที่ใช้ใน Turtle Trading

Turtle Trading ใช้เครื่องมือและตัวชี้วัดทางเทคนิคหลายอย่างในการระบุแนวโน้มและสัญญาณการเทรด ได้แก่:

• **Moving Average:** ใช้เพื่อระบุแนวโน้มของตลาด
• **Breakout:** ใช้เพื่อระบุสัญญาณการเข้าสู่ตลาด
• **Swing High/Low:** ใช้เพื่อกำหนดจุด Stop-Loss และ Take-Profit
• **MACD:** ใช้เพื่อระบุความแข็งแกร่งของแนวโน้ม
• **RSI:** ใช้เพื่อระบุสภาวะ Overbought/Oversold
• **Bollinger Bands:** ใช้เพื่อระบุความผันผวนของตลาด
• **Donchian Channels:** ใช้เพื่อระบุ Breakout

1. 1. 1. ข้อดีและข้อเสียของ Turtle Trading

Turtle Trading มีข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณาดังนี้:

• • ข้อดี:**

• **ระบบที่ชัดเจน:** Turtle Trading มีระบบการเทรดที่ชัดเจนและมีกฎเกณฑ์ที่แน่นอน ทำให้ง่ายต่อการปฏิบัติตาม
• **การจัดการความเสี่ยง:** Turtle Trading เน้นการจัดการความเสี่ยงอย่างเข้มงวด ช่วยลดความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ตการลงทุน
• **วินัย:** Turtle Trading ช่วยสร้างวินัยในการเทรด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จในระยะยาว
• **สามารถปรับใช้ได้:** หลักการและแนวคิดพื้นฐานของ Turtle Trading สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการเทรดในตลาดต่างๆ ได้

• • ข้อเสีย:**

• **ต้องใช้เวลา:** Turtle Trading ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้และฝึกฝนเพื่อให้เข้าใจระบบการเทรดอย่างละเอียด
• **ต้องมีวินัย:** Turtle Trading ต้องการวินัยในการปฏิบัติตามระบบอย่างเคร่งครัด ซึ่งอาจเป็นเรื่องยากสำหรับบางคน
• **อาจไม่เหมาะกับทุกตลาด:** Turtle Trading อาจไม่เหมาะกับตลาดที่มีความผันผวนสูงหรือตลาดที่ไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจน

1. 1. 1. กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง

• **Trend Following:** Trend Following เป็นกลยุทธ์หลักที่ Turtle Trading ใช้
• **Breakout Trading:** Breakout Trading ใช้เพื่อเข้าสู่ตลาดเมื่อราคาทะลุแนวต้านหรือแนวรับ
• **Momentum Trading:** Momentum Trading ใช้เพื่อเทรดตามความแข็งแกร่งของแนวโน้ม
• **Moving Average Crossover:** Moving Average Crossover ใช้เพื่อระบุสัญญาณการเปลี่ยนแนวโน้ม
• **Fibonacci Retracement:** Fibonacci Retracement ใช้เพื่อระบุแนวรับและแนวต้าน
• **Elliott Wave Theory:** Elliott Wave Theory ใช้เพื่อวิเคราะห์รูปแบบของราคา
• **Ichimoku Cloud:** Ichimoku Cloud ใช้เพื่อระบุแนวโน้มและระดับแนวรับ/แนวต้าน
• **Parabolic SAR:** Parabolic SAR ใช้เพื่อระบุจุดกลับตัวของแนวโน้ม
• **Average True Range (ATR):** Average True Range ใช้เพื่อวัดความผันผวนของตลาด
• **Position Sizing:** Position Sizing เป็นเทคนิคการจัดการความเสี่ยงที่สำคัญ
• **Risk Reward Ratio:** Risk Reward Ratio ใช้เพื่อประเมินความคุ้มค่าของการเทรด
• **Support and Resistance:** Support and Resistance ใช้เพื่อระบุระดับราคาที่สำคัญ
• **Chart Patterns:** Chart Patterns ใช้เพื่อระบุสัญญาณการเทรด
• **Candlestick Patterns:** Candlestick Patterns ใช้เพื่อวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวของราคา
• **Volume Analysis:** Volume Analysis ใช้เพื่อยืนยันสัญญาณการเทรด

1. 1. 1. สรุป

Turtle Trading เป็นกลยุทธ์การเทรดที่ประสบความสำเร็จซึ่งเน้นการระบุและเทรดตามแนวโน้มของตลาด การใช้ Stop-Loss การจัดการความเสี่ยง และวินัยในการปฏิบัติตามระบบ แม้ว่า Turtle Trading จะถูกออกแบบมาสำหรับการเทรดในตลาดฟิวเจอร์ส แต่หลักการและแนวคิดพื้นฐานของมันสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการเทรดไบนารี่ออปชั่นได้เช่นกัน โดยการปรับใช้เครื่องมือและตัวชี้วัดทางเทคนิคที่เหมาะสม และการจัดการความเสี่ยงอย่างเข้มงวด นักเทรดสามารถเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากการเทรดไบนารี่ออปชั่นได้

Turtle Trading Summary

! Header 1 !! Header 2
**Key Principle**	Trend Following
**Entry Signal**	Breakout, Strong Momentum
**Stop-Loss**	Below Swing Low (Long), Above Swing High (Short)
**Risk Management**	1-2% of Portfolio per Trade
**Time Frame**	Adaptable, depending on analysis
**Binary Option Choice**	Call (Uptrend), Put (Downtrend)

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น