Touch/No Touch Options

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. Touch/No Touch Options

Touch/No Touch Options เป็นรูปแบบหนึ่งของ ไบนารี่ออปชั่น ที่มีความแตกต่างจากรูปแบบมาตรฐานอย่างเช่น High/Low Option หรือ Call/Put Option โดยออปชั่นประเภทนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคา ณ เวลาหมดอายุ (Expiry time) แต่ขึ้นอยู่กับว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะ *แตะ* หรือ *ไม่แตะ* ระดับราคาที่กำหนดไว้ (Barrier) ภายในระยะเวลาที่กำหนด

บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับ Touch/No Touch Options สำหรับผู้เริ่มต้น รวมถึงกลไกการทำงาน, ข้อดีข้อเสีย, กลยุทธ์การเทรด, การวิเคราะห์ และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง

      1. ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับ Touch/No Touch Options

Touch/No Touch Options แบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก:

  • **Touch Option (แตะ):** ผู้เทรดจะทำกำไรหากราคาสินทรัพย์อ้างอิง *แตะ* ระดับราคาที่กำหนด (Barrier) ภายในระยะเวลาที่กำหนด ไม่ว่าราคาจะขึ้นหรือลงก็ตาม
  • **No Touch Option (ไม่แตะ):** ผู้เทรดจะทำกำไรหากราคาสินทรัพย์อ้างอิง *ไม่แตะ* ระดับราคาที่กำหนด (Barrier) ภายในระยะเวลาที่กำหนด
    • ปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวข้อง:**
  • **สินทรัพย์อ้างอิง (Underlying Asset):** สินทรัพย์ที่ใช้เป็นฐานในการเทรด เช่น สกุลเงิน, ดัชนีหุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์
  • **ระดับราคา Barrier (Barrier Price):** ระดับราคาที่กำหนดไว้ ซึ่งเป็นจุดที่ราคาต้องแตะ (Touch) หรือไม่แตะ (No Touch)
  • **ระยะเวลาหมดอายุ (Expiry Time):** ระยะเวลาที่ออปชั่นมีผลบังคับใช้
  • **ผลตอบแทน (Payout):** จำนวนเงินที่ผู้เทรดจะได้รับหากการคาดการณ์ถูกต้อง
  • **ค่าพรีเมียม (Premium):** จำนวนเงินที่ผู้เทรดจ่ายเพื่อซื้อออปชั่น
      1. กลไกการทำงานของ Touch/No Touch Options

ลองพิจารณาตัวอย่างเพื่อความเข้าใจ:

สมมติว่าคุณต้องการเทรด Touch Option บนคู่สกุลเงิน EUR/USD โดยมีรายละเอียดดังนี้:

  • สินทรัพย์อ้างอิง: EUR/USD
  • ระดับราคา Barrier: 1.1000
  • ระยะเวลาหมดอายุ: 1 ชั่วโมง
  • ผลตอบแทน: 80%
  • ค่าพรีเมียม: 10%

หากราคาสินทรัพย์ EUR/USD *แตะ* ระดับ 1.1000 ภายใน 1 ชั่วโมง คุณจะได้รับผลตอบแทน 80% ของเงินลงทุนของคุณ (ไม่รวมค่าพรีเมียม) แต่หากราคาไม่แตะระดับ 1.1000 ภายใน 1 ชั่วโมง คุณจะเสียค่าพรีเมียม 10%

ในทางกลับกัน หากคุณเลือกเทรด No Touch Option ด้วยเงื่อนไขเดียวกัน:

  • หากราคาสินทรัพย์ EUR/USD *ไม่แตะ* ระดับ 1.1000 ภายใน 1 ชั่วโมง คุณจะได้รับผลตอบแทน 80%
  • หากราคาสินทรัพย์ EUR/USD *แตะ* ระดับ 1.1000 ภายใน 1 ชั่วโมง คุณจะเสียค่าพรีเมียม 10%
      1. ข้อดีและข้อเสียของ Touch/No Touch Options
    • ข้อดี:**
  • **ความยืดหยุ่น:** ไม่จำเป็นต้องคาดการณ์ทิศทางของราคา เพียงแค่คาดการณ์ว่าราคาจะแตะหรือจะไม่แตะระดับราคาที่กำหนด
  • **โอกาสในการทำกำไรสูง:** ผลตอบแทนที่สูงกว่าออปชั่นบางประเภท
  • **ความเสี่ยงที่จำกัด:** ความเสี่ยงสูงสุดคือค่าพรีเมียมที่จ่ายไป
  • **เหมาะกับตลาดที่มีความผันผวน:** สามารถทำกำไรได้ทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลง หากมีความผันผวนเพียงพอ
    • ข้อเสีย:**
  • **ความซับซ้อน:** อาจมีความซับซ้อนกว่าออปชั่นรูปแบบมาตรฐาน
  • **ความเสี่ยงในการเสียค่าพรีเมียม:** หากการคาดการณ์ผิดพลาด คุณจะเสียค่าพรีเมียมทั้งหมด
  • **ความจำเป็นในการวิเคราะห์อย่างละเอียด:** การเลือก Barrier ที่เหมาะสมต้องอาศัยการวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานอย่างรอบคอบ
  • **ผลตอบแทนไม่แน่นอน:** ถึงแม้ราคาจะเคลื่อนไหวใกล้เคียงกับ Barrier แต่หากไม่แตะจริง คุณก็จะเสียเงินทุน
      1. กลยุทธ์การเทรด Touch/No Touch Options

การเทรด Touch/No Touch Options ต้องอาศัยกลยุทธ์ที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร ต่อไปนี้เป็นกลยุทธ์บางส่วนที่สามารถนำไปปรับใช้ได้:

1. **Range Trading:** ใช้เมื่อราคามีแนวโน้มที่จะเคลื่อนที่อยู่ในช่วงราคาที่จำกัด เลือก No Touch Option หากคาดว่าราคาจะไม่ทะลุช่วงราคานั้น 2. **Breakout Trading:** ใช้เมื่อคาดว่าราคาจะทะลุระดับราคาที่สำคัญ เลือก Touch Option หากคาดว่าราคาจะทะลุ Barrier 3. **Volatility Trading:** ใช้ประโยชน์จากความผันผวนของราคา เลือก Touch Option หากคาดว่าความผันผวนจะสูงและราคาจะแตะ Barrier 4. **News Trading:** เทรดตามข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาสินทรัพย์ 5. **Straddle/Strangle:** ใช้ร่วมกับออปชั่นอื่นๆ เพื่อสร้างกลยุทธ์ที่ซับซ้อนขึ้น เช่น การซื้อ Touch Option และ No Touch Option พร้อมกัน

    • การวิเคราะห์ทางเทคนิคที่เกี่ยวข้อง:**
  • **Support and Resistance:** ระบุระดับราคาที่อาจเป็น Barrier ที่เหมาะสม Support and Resistance
  • **Trend Lines:** วิเคราะห์แนวโน้มของราคาเพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวในอนาคต Trend Lines
  • **Moving Averages:** ใช้เพื่อระบุแนวโน้มและระดับ Support/Resistance Moving Averages
  • **Bollinger Bands:** ใช้เพื่อวัดความผันผวนของราคา Bollinger Bands
  • **Fibonacci Retracements:** ใช้เพื่อระบุระดับราคาที่อาจเป็นจุดกลับตัว Fibonacci Retracements
  • **Momentum Indicators (RSI, MACD):** ใช้เพื่อวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้ม RSI MACD
    • การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis):**
  • **Volume Spikes:** การเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อขายอย่างรวดเร็วอาจบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม Volume Analysis
  • **Volume Confirmation:** ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นเมื่อราคาทะลุระดับราคาที่สำคัญสามารถยืนยันแนวโน้มนั้นได้
      1. การจัดการความเสี่ยงในการเทรด Touch/No Touch Options

การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเทรด Touch/No Touch Options ต่อไปนี้เป็นแนวทางปฏิบัติที่ควรพิจารณา:

1. **กำหนดขนาดการลงทุน:** อย่าลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถรับความเสี่ยงได้ 2. **ใช้ Stop-Loss:** แม้ว่า Touch/No Touch Options จะมีความเสี่ยงที่จำกัด แต่การใช้ Stop-Loss สามารถช่วยป้องกันการสูญเสียเงินทุนเพิ่มเติมได้ 3. **กระจายความเสี่ยง:** อย่าลงทุนในสินทรัพย์เพียงอย่างเดียว 4. **เลือก Broker ที่น่าเชื่อถือ:** เลือก Broker ที่มีใบอนุญาตและมีชื่อเสียงที่ดี 5. **ศึกษาและทำความเข้าใจ:** เรียนรู้เกี่ยวกับ Touch/No Touch Options และกลยุทธ์การเทรดต่างๆ อย่างละเอียด 6. **ติดตามข่าวสาร:** ติดตามข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาสินทรัพย์ 7. **ใช้บัญชี Demo:** ฝึกฝนการเทรดด้วยบัญชี Demo ก่อนที่จะลงทุนด้วยเงินจริง

      1. ตัวอย่างการวิเคราะห์สถานการณ์
    • สถานการณ์:** ราคาทองคำ (XAU/USD) เคลื่อนที่อยู่ในช่วง 1,800 - 1,850 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
    • การวิเคราะห์:**
  • **แนวโน้ม:** ราคาทองคำอยู่ในช่วง Sideways
  • **Support:** 1,800 ดอลลาร์สหรัฐฯ
  • **Resistance:** 1,850 ดอลลาร์สหรัฐฯ
  • **Volatility:** ความผันผวนอยู่ในระดับปานกลาง
    • กลยุทธ์:**
  • **No Touch Option:** เลือก No Touch Option ที่ Barrier 1,800 หรือ 1,850 ดอลลาร์สหรัฐฯ หากคาดว่าราคาทองคำจะยังคงเคลื่อนที่อยู่ในช่วง Sideways และจะไม่แตะระดับ Support หรือ Resistance
  • **Touch Option:** เลือก Touch Option ที่ Barrier 1,800 หรือ 1,850 ดอลลาร์สหรัฐฯ หากคาดว่าราคาทองคำจะ Breakout จากช่วง Sideways และแตะระดับ Support หรือ Resistance
      1. สรุป

Touch/No Touch Options เป็นรูปแบบหนึ่งของไบนารี่ออปชั่นที่น่าสนใจและสามารถทำกำไรได้หากใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมและการวิเคราะห์อย่างรอบคอบ ผู้เทรดควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับกลไกการทำงาน, ข้อดีข้อเสีย, กลยุทธ์การเทรด, และการจัดการความเสี่ยงอย่างละเอียดก่อนที่จะเริ่มต้นเทรดจริง การศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Technical Analysis Fundamental Analysis และ Risk Management จะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการเทรด Touch/No Touch Options

ตัวอย่างเปรียบเทียบ Touch/No Touch Options
Option Type Scenario Outcome Profit/Loss
Touch !! Price touches barrier before expiry !! Win !! Payout (e.g., 80%)
Touch !! Price does not touch barrier before expiry !! Loss !! Premium paid (e.g., 10%)
No Touch !! Price does not touch barrier before expiry !! Win !! Payout (e.g., 80%)
No Touch !! Price touches barrier before expiry !! Loss !! Premium paid (e.g., 10%)

Binary Options Trading Option Pricing Market Volatility Trading Psychology Money Management (Category:Special Option Types)

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер