Time of Day Trading

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. Time of Day Trading

การซื้อขายไบนารี่ออปชั่น (Binary Options) เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง แต่ก็มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่รวดเร็วได้เช่นกัน หนึ่งในกลยุทธ์ที่นักลงทุนหลายคนใช้เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรคือ "Time of Day Trading" หรือการซื้อขายตามช่วงเวลาของวัน กลยุทธ์นี้อาศัยการสังเกตและวิเคราะห์พฤติกรรมของตลาดในช่วงเวลาต่างๆ เพื่อคาดการณ์ทิศทางราคาของสินทรัพย์ต่างๆ ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกรายละเอียดของ Time of Day Trading สำหรับผู้เริ่มต้น รวมถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อตลาดในช่วงเวลาต่างๆ กลยุทธ์ที่ใช้ และวิธีการบริหารความเสี่ยง

      1. ความสำคัญของ Time of Day Trading

ตลาดการเงินไม่ได้มีพฤติกรรมที่คงที่ตลอดทั้งวัน ปัจจัยต่างๆ เช่น การเปิดตลาด/ปิดตลาดของแต่ละประเทศ การประกาศข่าวเศรษฐกิจ และปริมาณการซื้อขายที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา ล้วนส่งผลต่อความผันผวนของราคา การเข้าใจพฤติกรรมเหล่านี้จะช่วยให้นักลงทุนสามารถวางแผนการซื้อขายและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้

Time of Day Trading ไม่ใช่การรับประกันผลตอบแทน แต่เป็นการเพิ่มความน่าจะเป็นในการทำกำไรโดยการปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสภาพตลาดในแต่ละช่วงเวลา การวิเคราะห์ การวิเคราะห์ตลาด และ การวิเคราะห์ทางเทคนิค ร่วมกับ Time of Day Trading จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจลงทุนอย่างมาก

      1. ช่วงเวลาการซื้อขายและการวิเคราะห์

เราสามารถแบ่งช่วงเวลาการซื้อขายออกเป็นช่วงต่างๆ และวิเคราะห์พฤติกรรมของตลาดในแต่ละช่วงได้ดังนี้:

  • **ช่วงตลาดเอเชีย (07:00 - 12:00 GMT):** ช่วงนี้ตลาดจะได้รับอิทธิพลจากข่าวสารและกิจกรรมทางเศรษฐกิจจากประเทศในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น จีน และออสเตรเลีย ปริมาณการซื้อขายมักจะต่ำกว่าช่วงตลาดอื่นๆ แต่ก็อาจมีความผันผวนสูงในช่วงข่าวสำคัญ การซื้อขายในช่วงนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้กลยุทธ์ Trend Following หรือ Breakout Trading ที่เน้นการจับการเคลื่อนไหวของราคาในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง
  • **ช่วงตลาดลอนดอน (08:00 - 17:00 GMT):** ตลาดลอนดอนเป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดและมีสภาพคล่องสูงที่สุดในโลก ช่วงนี้จะมีการซื้อขายที่คึกคักและมีความผันผวนสูง เหมาะสำหรับการใช้กลยุทธ์ Scalping หรือ Day Trading ที่เน้นการทำกำไรจากความผันผวนในระยะสั้น การประกาศข่าวเศรษฐกิจจากสหราชอาณาจักรและยุโรปมักจะส่งผลกระทบต่อตลาดอย่างมาก
  • **ช่วงตลาดนิวยอร์ก (13:00 - 22:00 GMT):** ตลาดนิวยอร์กเป็นอีกหนึ่งตลาดที่สำคัญและมีสภาพคล่องสูง ช่วงนี้จะมีการซื้อขายที่เข้มข้นและมีความผันผวนสูงเช่นกัน การประกาศข่าวเศรษฐกิจจากสหรัฐอเมริกาเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อตลาด การใช้กลยุทธ์ News Trading หรือ Momentum Trading อาจเป็นทางเลือกที่ดีในช่วงนี้
  • **ช่วงตลาดปิด (22:00 - 07:00 GMT):** ช่วงนี้ปริมาณการซื้อขายจะลดลงอย่างมากและตลาดอาจมีความผันผวนต่ำ การซื้อขายในช่วงนี้ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเนื่องจากความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากสภาพคล่องที่ต่ำ อย่างไรก็ตาม บางครั้งอาจมีโอกาสในการทำกำไรจาก Range Trading หรือ Reversal Trading หากสังเกตเห็นสัญญาณที่ชัดเจน
      1. ปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดในแต่ละช่วงเวลา

นอกเหนือจากช่วงเวลาการซื้อขายตามภูมิภาคแล้ว ปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดในแต่ละช่วงเวลามีดังนี้:

  • **การประกาศข่าวเศรษฐกิจ:** การประกาศข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น อัตราดอกเบี้ย GDP และอัตราการว่างงาน สามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาดการเงิน นักลงทุนควรติดตามข่าวสารเหล่านี้อย่างใกล้ชิดและปรับกลยุทธ์การซื้อขายให้เหมาะสม
  • **การเปิด/ปิดตลาด:** การเปิดและปิดตลาดของแต่ละประเทศจะส่งผลต่อปริมาณการซื้อขายและความผันผวนของราคา การเปิดตลาดมักจะมีความผันผวนสูงเนื่องจากมีคำสั่งซื้อขายจำนวนมากเข้ามาในตลาด
  • **ปริมาณการซื้อขาย:** ปริมาณการซื้อขายเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญของความสนใจของนักลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ หากปริมาณการซื้อขายสูง แสดงว่ามีความสนใจในสินทรัพย์นั้นมาก และราคาอาจมีความผันผวนสูง
  • **สภาพคล่อง:** สภาพคล่องของตลาดคือความสามารถในการซื้อขายสินทรัพย์ได้อย่างรวดเร็วและโดยไม่ส่งผลกระทบต่อราคามากนัก หากสภาพคล่องต่ำ อาจทำให้การซื้อขายทำได้ยากและราคาอาจมีความผันผวนสูง
      1. กลยุทธ์ Time of Day Trading ที่ใช้กันทั่วไป
  • **London Opening Breakout:** กลยุทธ์นี้ใช้ประโยชน์จากความผันผวนที่เกิดขึ้นในช่วงเปิดตลาดลอนดอน โดยนักลงทุนจะรอการทะลุแนวต้านหรือแนวรับที่สำคัญในช่วงเปิดตลาด
  • **New York Session Volatility Play:** กลยุทธ์นี้ใช้ประโยชน์จากความผันผวนที่เกิดขึ้นในช่วงเปิดตลาดนิวยอร์ก โดยนักลงทุนจะรอการเคลื่อนไหวของราคาที่รวดเร็วในช่วงเปิดตลาด
  • **Asian Range Trading:** กลยุทธ์นี้ใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาที่ตลาดเอเชียมีความเงียบสงบ โดยนักลงทุนจะซื้อขายภายในกรอบราคาที่แคบในช่วงตลาดเอเชีย
  • **End of Day Reversal:** กลยุทธ์นี้ใช้ประโยชน์จากการกลับตัวของราคาในช่วงสิ้นวัน โดยนักลงทุนจะมองหาสัญญาณของการกลับตัวของราคาในช่วงใกล้ปิดตลาด
ตัวอย่างกลยุทธ์ Time of Day Trading
! กลยุทธ์ |! สินทรัพย์ที่แนะนำ |! ระดับความเสี่ยง |
Asian Range Trading | คู่สกุลเงินเยน (JPY) | ต่ำ |
London Opening Breakout | คู่สกุลเงิน EUR/USD, GBP/USD | ปานกลาง |
New York Session Volatility Play | ดัชนี S&P 500, ทองคำ | สูง |
End of Day Reversal | หุ้นที่มีสภาพคล่องสูง | ปานกลาง |
      1. การบริหารความเสี่ยงในการซื้อขาย Time of Day Trading

การซื้อขาย Time of Day Trading มีความเสี่ยงสูงเช่นเดียวกับการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นอื่นๆ ดังนั้นการบริหารความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง:

  • **กำหนดขนาดการลงทุน:** กำหนดขนาดการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับแต่ละการซื้อขาย ไม่ควรลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถรับความเสี่ยงได้
  • **ใช้ Stop Loss:** ใช้ Stop Loss เพื่อจำกัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นหากราคาเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับที่คุณคาดการณ์
  • **บริหารเงินทุน:** บริหารเงินทุนอย่างรอบคอบและไม่ควรใช้เงินทุนทั้งหมดในการซื้อขายเพียงครั้งเดียว
  • **ติดตามข่าวสาร:** ติดตามข่าวสารและเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดอย่างใกล้ชิด
  • **ฝึกฝน:** ฝึกฝนการซื้อขายด้วยบัญชี Demo ก่อนที่จะลงทุนด้วยเงินจริง
      1. เครื่องมือและทรัพยากรเพิ่มเติม
      1. สรุป

Time of Day Trading เป็นกลยุทธ์ที่มีประโยชน์สำหรับนักลงทุนไบนารี่ออปชั่นที่ต้องการเพิ่มโอกาสในการทำกำไร การเข้าใจพฤติกรรมของตลาดในช่วงเวลาต่างๆ การเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสม และการบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการซื้อขายได้ อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นมีความเสี่ยงสูง และคุณควรลงทุนเฉพาะเงินที่คุณสามารถรับความเสี่ยงได้เท่านั้น (Category:Trading Strategies)

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер