Support and Resistance Levels Strategy

Support and Resistance Levels Strategy

บทนำ

กลยุทธ์ Support and Resistance Levels เป็นหนึ่งในกลยุทธ์พื้นฐานและสำคัญที่สุดในการเทรด ไบนารี่ออปชั่น และตลาดการเงินโดยทั่วไป กลยุทธ์นี้อาศัยการระบุระดับราคาที่แนวโน้มมีแนวโน้มที่จะหยุดหรือกลับตัว ซึ่งระดับเหล่านี้เป็นจุดที่ผู้ซื้อและผู้ขายมีความสนใจเป็นพิเศษ การทำความเข้าใจและนำกลยุทธ์นี้ไปใช้สามารถเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้อย่างมากสำหรับเทรดเดอร์ทุกระดับประสบการณ์ บทความนี้จะอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับแนวคิด, วิธีการระบุ, การใช้งาน, และข้อควรระวังในการใช้กลยุทธ์ Support and Resistance Levels ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น

แนวคิดพื้นฐานของ Support และ Resistance

Support (แนวรับ)* คือระดับราคาที่แนวโน้มมีแนวโน้มที่จะหยุดการลดลง เนื่องจากมีความต้องการซื้อ (Demand) ที่แข็งแกร่งในระดับราคานั้น ผู้ซื้อมองว่าระดับราคานั้นเป็นจุดที่น่าสนใจในการเข้าซื้อ ทำให้เกิดแรงซื้อที่สามารถดันราคาขึ้นไปได้
Resistance (แนวต้าน)* คือระดับราคาที่แนวโน้มมีแนวโน้มที่จะหยุดการเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีแรงขาย (Supply) ที่แข็งแกร่งในระดับราคานั้น ผู้ขายมองว่าระดับราคานั้นเป็นจุดที่น่าสนใจในการขาย ทำให้เกิดแรงขายที่สามารถดันราคาลงมาได้

แนวคิดนี้อิงตามหลักการพื้นฐานของอุปสงค์และอุปทาน (Supply and Demand) ในตลาด เมื่ออุปสงค์มีมากกว่าอุปทาน ราคามีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น และเมื่ออุปทานมีมากกว่าอุปสงค์ ราคามีแนวโน้มที่จะลดลง ระดับ Support และ Resistance เป็นจุดที่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานเปลี่ยนแปลงไป

วิธีการระบุ Support และ Resistance Levels

มีหลายวิธีในการระบุระดับ Support และ Resistance Levels:

1. Highs และ Lows ในอดีต (Past Highs and Lows): วิธีที่ง่ายที่สุดคือการมองหาจุดสูงสุด (Highs) และจุดต่ำสุด (Lows) ในอดีตของกราฟราคา จุดสูงสุดในอดีตมักจะกลายเป็นแนวต้าน และจุดต่ำสุดในอดีตมักจะกลายเป็นแนวรับ 2. แนวโน้ม (Trends) (Trends): ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จุดต่ำสุดของแต่ละคลื่นย่อย (swing low) มักจะกลายเป็นแนวรับ และในแนวโน้มขาลง (Downtrend) จุดสูงสุดของแต่ละคลื่นย่อย (swing high) มักจะกลายเป็นแนวต้าน การเข้าใจ การวิเคราะห์แนวโน้ม เป็นสิ่งสำคัญ 3. เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) (Moving Averages): เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สามารถใช้เป็น Support หรือ Resistance ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะยาว เช่น 50 วัน หรือ 200 วัน การใช้ Moving Average Convergence Divergence (MACD) ร่วมกับแนวรับแนวต้านจะช่วยเพิ่มความแม่นยำ 4. Fibonacci Retracement (Fibonacci Retracement): ระดับ Fibonacci เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการระบุระดับ Support และ Resistance ที่อาจเกิดขึ้น โดยอิงตามลำดับ Fibonacci การใช้ Fibonacci Retracement ต้องอาศัยความเข้าใจในสัดส่วนทองคำ (Golden Ratio) 5. Pivot Points (Pivot Points): Pivot Points เป็นการคำนวณทางคณิตศาสตร์ที่ใช้ในการระบุระดับ Support และ Resistance ที่อาจเกิดขึ้นในวันถัดไปหรือช่วงเวลาถัดไป การคำนวณ Pivot Points ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถคาดการณ์จุดกลับตัวของราคาได้ 6. Round Numbers (เลขกลม): ระดับราคาที่เป็นเลขกลม เช่น 1.0000, 1.1000, 1.2000 มักจะทำหน้าที่เป็น Support หรือ Resistance เนื่องจากเป็นระดับที่เทรดเดอร์จำนวนมากให้ความสนใจ

การใช้งานกลยุทธ์ Support and Resistance ในไบนารี่ออปชั่น

เมื่อคุณระบุระดับ Support และ Resistance ได้แล้ว คุณสามารถใช้กลยุทธ์ต่างๆ ในการเทรดไบนารี่ออปชั่นได้:

1. การเข้าซื้อที่แนวรับ (Buy at Support) : เมื่อราคาทดสอบแนวรับและแสดงสัญญาณของการเด้งตัวขึ้น คุณสามารถเข้าซื้อ (Call Option) โดยคาดหวังว่าราคาจะขึ้นไปถึงแนวต้าน 2. การเข้าขายที่แนวต้าน (Sell at Resistance) : เมื่อราคาทดสอบแนวต้านและแสดงสัญญาณของการปรับตัวลง คุณสามารถเข้าขาย (Put Option) โดยคาดหวังว่าราคาจะลงไปถึงแนวรับ 3. Breakout Strategy (กลยุทธ์ Breakout): เมื่อราคา Breakout (ทะลุ) แนวต้านขึ้นไป หรือ Breakdown (ทะลุ) แนวรับลงมา คุณสามารถเข้าซื้อ (Call Option) หรือเข้าขาย (Put Option) ตามทิศทางของ Breakout ได้ 4. False Breakout Strategy (กลยุทธ์ False Breakout): บางครั้งราคาอาจทะลุแนวรับหรือแนวต้าน แต่หลังจากนั้นก็กลับตัว นี่คือ False Breakout คุณสามารถใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ได้โดยการเข้าซื้อเมื่อราคา False Breakout จากแนวรับ หรือเข้าขายเมื่อราคา False Breakout จากแนวต้าน 5. การรวมกับ Indicators อื่นๆ (Combining with Other Indicators): การใช้กลยุทธ์ Support and Resistance ร่วมกับ Indicators อื่นๆ เช่น Relative Strength Index (RSI), Stochastic Oscillator, หรือ Bollinger Bands สามารถช่วยยืนยันสัญญาณและเพิ่มความแม่นยำในการเทรดได้ การใช้ Ichimoku Cloud ก็เป็นทางเลือกที่ดี

ตัวอย่างการเทรดด้วยกลยุทธ์ Support and Resistance
สถานการณ์	การดำเนินการ	ผลลัพธ์ที่คาดหวัง		ราคาเข้าใกล้แนวรับ	เข้าซื้อ (Call Option)	ราคาเด้งตัวขึ้นและทำกำไร		ราคาเข้าใกล้แนวต้าน	เข้าขาย (Put Option)	ราคาปรับตัวลงและทำกำไร		ราคา Breakout แนวต้าน	เข้าซื้อ (Call Option)	ราคาขึ้นต่อเนื่องและทำกำไร		ราคา Breakout แนวรับ	เข้าขาย (Put Option)	ราคาลงต่อเนื่องและทำกำไร		ราคา False Breakout แนวรับ	เข้าซื้อ (Call Option) เมื่อราคากลับตัว	ราคาเด้งตัวขึ้นและทำกำไร

ข้อควรระวังและเคล็ดลับในการใช้กลยุทธ์ Support and Resistance

1. Support และ Resistance ไม่ใช่เส้นตายตัว (Support and Resistance are not fixed lines): ระดับ Support และ Resistance อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดและความเชื่อมั่นของนักลงทุน 2. การยืนยันสัญญาณ (Confirming Signals): อย่าเข้าเทรดโดยอาศัยเพียงแค่ระดับ Support และ Resistance เท่านั้น ควรยืนยันสัญญาณด้วย Indicators อื่นๆ หรือรูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns) เช่น Engulfing Pattern, Hammer, หรือ Shooting Star 3. การบริหารความเสี่ยง (Risk Management): กำหนดขนาด Position ที่เหมาะสม และตั้ง Stop-Loss เพื่อจำกัดความเสี่ยงในการเทรดเสมอ การใช้ Money Management เป็นสิ่งสำคัญ 4. Timeframe (กรอบเวลา): การระบุ Support และ Resistance ใน Timeframe ที่แตกต่างกันอาจให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน พิจารณาใช้หลาย Timeframe เพื่อยืนยันสัญญาณ 5. Volume Analysis (การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย): ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นเมื่อราคาเข้าใกล้ระดับ Support หรือ Resistance อาจเป็นสัญญาณยืนยันที่แข็งแกร่ง การวิเคราะห์ Volume Spread Analysis (VSA) จะเป็นประโยชน์ 6. Dynamic Support and Resistance (แนวรับและแนวต้านแบบไดนามิก): เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่และแนวโน้มสามารถทำหน้าที่เป็น Support และ Resistance แบบไดนามิก ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา

กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง

สรุป

กลยุทธ์ Support and Resistance Levels เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับเทรดเดอร์ไบนารี่ออปชั่น การทำความเข้าใจแนวคิดพื้นฐาน, วิธีการระบุ, และการใช้งานอย่างถูกต้อง สามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้อย่างมาก อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าไม่มีกลยุทธ์ใดที่สามารถรับประกันผลกำไรได้เสมอไป การบริหารความเสี่ยงและการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการประสบความสำเร็จในการเทรดไบนารี่ออปชั่น (Category:Trading Strategies)

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น