Renko Strategy

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
  1. Renko Strategy
    1. บทนำสู่กลยุทธ์ Renko

กลยุทธ์ Renko เป็นวิธีการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แตกต่างจากกราฟราคาแบบดั้งเดิม เช่น กราฟแท่งเทียน หรือ กราฟเส้น ซึ่งปกติจะพิจารณาจากช่วงเวลา (Time) เป็นหลัก กลยุทธ์ Renko เน้นการเปลี่ยนแปลงของราคา (Price) เป็นหลัก โดยจะสร้าง “แท่ง Renko” หรือ “บล็อก Renko” ขึ้นมาเมื่อราคาเปลี่ยนแปลงไปในปริมาณที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ทำให้เกิดกราฟที่เรียบง่ายและลดสัญญาณรบกวน (Noise) ได้ดี กลยุทธ์นี้จึงเป็นที่นิยมในหมู่เทรดเดอร์ Binary Options ที่ต้องการระบุแนวโน้ม (Trend) ของราคาได้อย่างชัดเจน

กลยุทธ์ Renko เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการลดความซับซ้อนในการวิเคราะห์ และต้องการเน้นการตัดสินใจตามการเปลี่ยนแปลงของราคาที่สำคัญเท่านั้น ในโลกของ Binary Options ที่เวลาเป็นสิ่งสำคัญ การใช้ Renko Chart สามารถช่วยให้เทรดเดอร์สามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น

    1. หลักการทำงานของ Renko Chart

Renko Chart สร้างขึ้นจาก "บล็อก" หรือ "แท่ง Renko" ซึ่งแต่ละแท่งจะถูกสร้างขึ้นเมื่อราคาเปลี่ยนแปลงไปตามขนาดที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (Brick Size) ตัวอย่างเช่น หากกำหนด Brick Size ไว้ที่ 10 บาท แท่ง Renko ใหม่จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อราคาเปลี่ยนแปลงไปอย่างน้อย 10 บาท ไม่ว่าจะเป็นขึ้นหรือลง

  • **แท่ง Renko สีเขียว (หรือสีขาว):** เกิดขึ้นเมื่อราคาเคลื่อนที่ขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดใหม่
  • **แท่ง Renko สีแดง (หรือสีดำ):** เกิดขึ้นเมื่อราคาเคลื่อนที่ลงมาสร้างจุดต่ำสุดใหม่

สิ่งที่สำคัญคือ Renko Chart จะไม่คำนึงถึงช่วงเวลาที่เกิดการเปลี่ยนแปลงราคา ทำให้กราฟดูเรียบง่ายและเน้นเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของราคาเท่านั้น ทำให้ง่ายต่อการระบุแนวโน้มและรูปแบบราคา (Price Patterns) ต่างๆ เช่น Double Top, Double Bottom, และ Head and Shoulders.

    1. การตั้งค่า Brick Size

การเลือกขนาดของ Brick Size (Brick Size) เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการใช้กลยุทธ์ Renko ขนาดของ Brick Size จะมีผลต่อความไวของกราฟต่อการเปลี่ยนแปลงของราคา

  • **Brick Size เล็ก:** กราฟจะมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของราคา ทำให้เกิดสัญญาณบ่อย แต่ก็อาจมีสัญญาณหลอก (False Signals) มากขึ้น
  • **Brick Size ใหญ่:** กราฟจะมีความเรียบง่ายมากขึ้น ลดสัญญาณรบกวน แต่ก็อาจพลาดโอกาสในการทำกำไรบางครั้ง

การกำหนด Brick Size ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ที่ทำการซื้อขาย (Underlying Asset) กรอบเวลา (Timeframe) ที่ต้องการวิเคราะห์ และสไตล์การเทรดของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปแล้ว เทรดเดอร์มักจะทดลองใช้ Brick Size หลายขนาด เพื่อหาขนาดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละสถานการณ์

    1. กลยุทธ์ Renko ที่นิยมใช้ใน Binary Options

มีกลยุทธ์ Renko หลายรูปแบบที่เทรดเดอร์ Binary Options สามารถนำไปปรับใช้ได้ ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างกลยุทธ์ที่นิยมใช้:

      1. 1. Renko Breakout Strategy

กลยุทธ์นี้ใช้การ Breakout ของราคาเหนือแนวต้าน (Resistance) หรือแนวรับ (Support) ที่แสดงบน Renko Chart

  • **สัญญาณซื้อ (Call Option):** เมื่อราคา Breakout เหนือแนวต้านบน Renko Chart
  • **สัญญาณขาย (Put Option):** เมื่อราคา Breakout ลงต่ำกว่าแนวรับบน Renko Chart

กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการเข้าตลาดเมื่อราคาเริ่มมีแนวโน้มที่ชัดเจน

      1. 2. Renko Reversal Strategy

กลยุทธ์นี้ใช้การกลับตัวของแนวโน้มราคาที่แสดงบน Renko Chart

  • **สัญญาณซื้อ (Call Option):** เมื่อเกิดแท่ง Renko สีเขียวหลังจากที่เกิดแท่ง Renko สีแดงติดต่อกันหลายแท่ง
  • **สัญญาณขาย (Put Option):** เมื่อเกิดแท่ง Renko สีแดงหลังจากที่เกิดแท่ง Renko สีเขียวติดต่อกันหลายแท่ง

กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการเข้าตลาดเมื่อแนวโน้มกำลังจะเปลี่ยน

      1. 3. Renko Triple Top/Bottom Strategy

กลยุทธ์นี้ใช้รูปแบบกราฟ Triple Top และ Triple Bottom ที่แสดงบน Renko Chart

  • **สัญญาณขาย (Put Option):** เมื่อเกิดรูปแบบ Triple Top บน Renko Chart
  • **สัญญาณซื้อ (Call Option):** เมื่อเกิดรูปแบบ Triple Bottom บน Renko Chart

กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากรูปแบบกราฟที่ชัดเจน

      1. 4. Renko with Moving Average

กลยุทธ์นี้ใช้ Renko Chart ร่วมกับ Moving Average เพื่อยืนยันสัญญาณ

  • **สัญญาณซื้อ (Call Option):** เมื่อราคา Breakout เหนือแนวต้านบน Renko Chart และราคาอยู่เหนือเส้น Moving Average
  • **สัญญาณขาย (Put Option):** เมื่อราคา Breakout ลงต่ำกว่าแนวรับบน Renko Chart และราคาอยู่ต่ำกว่าเส้น Moving Average

กลยุทธ์นี้ช่วยลดสัญญาณหลอกและเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจ

      1. 5. Renko with RSI

กลยุทธ์นี้ใช้ Renko Chart ร่วมกับ Relative Strength Index (RSI) เพื่อยืนยันสัญญาณ

  • **สัญญาณซื้อ (Call Option):** เมื่อราคา Breakout เหนือแนวต้านบน Renko Chart และ RSI อยู่ในโซน Oversold (ต่ำกว่า 30)
  • **สัญญาณขาย (Put Option):** เมื่อราคา Breakout ลงต่ำกว่าแนวรับบน Renko Chart และ RSI อยู่ในโซน Overbought (สูงกว่า 70)

กลยุทธ์นี้ช่วยระบุสภาวะการซื้อมากเกินไป (Overbought) และการขายมากเกินไป (Oversold) เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร

    1. การใช้ Indicator อื่นๆ ร่วมกับ Renko Chart

การใช้ Renko Chart ร่วมกับ Indicator อื่นๆ สามารถช่วยเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์และลดสัญญาณหลอกได้ ตัวอย่าง Indicator ที่นิยมใช้ร่วมกับ Renko Chart ได้แก่:

  • **MACD (Moving Average Convergence Divergence):** ใช้เพื่อระบุแนวโน้มและโมเมนตัมของราคา
  • **Stochastic Oscillator:** ใช้เพื่อระบุสภาวะการซื้อมากเกินไปและขายมากเกินไป
  • **Bollinger Bands:** ใช้เพื่อวัดความผันผวนของราคา
  • **Fibonacci Retracement:** ใช้เพื่อระบุแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ
  • **Volume:** ใช้เพื่อยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้ม
    1. ข้อดีและข้อเสียของกลยุทธ์ Renko
    • ข้อดี:**
  • **ลดสัญญาณรบกวน:** Renko Chart ช่วยลดสัญญาณรบกวนที่ไม่จำเป็น ทำให้ง่ายต่อการระบุแนวโน้มที่แท้จริง
  • **ง่ายต่อการใช้งาน:** Renko Chart มีความเรียบง่ายและเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ทุกระดับ
  • **เพิ่มความแม่นยำ:** การใช้ Renko Chart ร่วมกับ Indicator อื่นๆ สามารถเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์
  • **เหมาะสำหรับ Binary Options:** Renko Chart ช่วยให้เทรดเดอร์ตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับ Binary Options
    • ข้อเสีย:**
  • **พลาดโอกาส:** การใช้ Brick Size ใหญ่เกินไปอาจทำให้พลาดโอกาสในการทำกำไรบางครั้ง
  • **สัญญาณหลอก:** การใช้ Brick Size เล็กเกินไปอาจทำให้เกิดสัญญาณหลอกมากขึ้น
  • **การตั้งค่าที่เหมาะสม:** การกำหนด Brick Size ที่เหมาะสมต้องใช้การทดลองและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
  • **ไม่เหมาะกับตลาด Sideways:** Renko Chart อาจไม่ทำงานได้ดีในตลาด Sideways หรือตลาดที่ไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจน
    1. ตัวอย่างตารางเปรียบเทียบ Brick Size และผลกระทบ
เปรียบเทียบ Brick Size และผลกระทบต่อ Renko Chart
! ความไวต่อราคา |! จำนวนสัญญาณ |! สัญญาณหลอก |! เหมาะสำหรับ |
! สูง |! มาก |! มาก |! ตลาดที่มีความผันผวนสูง |
! ปานกลาง |! ปานกลาง |! ปานกลาง |! ตลาดทั่วไป |
! ต่ำ |! น้อย |! น้อย |! ตลาดที่มีแนวโน้มชัดเจน |
    1. การบริหารความเสี่ยง (Risk Management)

การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเทรด Binary Options ไม่ว่าคุณจะใช้กลยุทธ์ใดก็ตาม

  • **กำหนดขนาดการลงทุน:** กำหนดขนาดการลงทุนต่อการเทรดแต่ละครั้งอย่างเหมาะสม โดยไม่ควรลงทุนเกิน 5% ของเงินทุนทั้งหมด
  • **ใช้ Stop Loss:** ใช้ Stop Loss เพื่อจำกัดความเสี่ยงในการขาดทุน
  • **Diversification:** กระจายความเสี่ยงโดยการเทรดสินทรัพย์หลายประเภท
  • **Emotional Control:** ควบคุมอารมณ์และหลีกเลี่ยงการตัดสินใจที่ผิดพลาด
    1. สรุป

กลยุทธ์ Renko เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับเทรดเดอร์ Binary Options ที่ต้องการวิเคราะห์ตลาดอย่างเรียบง่ายและแม่นยำ การทำความเข้าใจหลักการทำงานและการตั้งค่าที่เหมาะสม รวมถึงการใช้ Indicator อื่นๆ ร่วมด้วย จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงได้ อย่างไรก็ตาม การบริหารความเสี่ยงที่ดีเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเทรด ไม่ว่าคุณจะใช้กลยุทธ์ใดก็ตาม

Technical Analysis Trend Following Price Action Candlestick Patterns Support and Resistance Fibonacci Moving Averages MACD RSI Bollinger Bands Binary Options Trading Risk Management in Binary Options Forex Trading Strategies Day Trading Strategies Swing Trading Strategies Scalping Strategies (Category:Trading Strategies)

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер