Pivot Points and RSI

1. 1. Pivot Points and RSI

บทความนี้มุ่งเน้นไปที่การทำความเข้าใจและการประยุกต์ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคสองชนิดที่สำคัญในโลกของการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น (Binary Options): Pivot Points และ Relative Strength Index (RSI) การผสมผสานเครื่องมือทั้งสองนี้เข้าด้วยกันสามารถช่วยให้เทรดเดอร์ระบุโอกาสในการซื้อขายที่มีศักยภาพและจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น บทความนี้จะครอบคลุมตั้งแต่แนวคิดพื้นฐานของแต่ละเครื่องมือ วิธีการคำนวณ การตีความสัญญาณ และกลยุทธ์การซื้อขายที่สามารถนำไปใช้ได้จริง

1. 1. 1. Pivot Points: รากฐานของการวิเคราะห์ทางเทคนิค

Pivot Points เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้ในตลาด โดยอิงจากราคาของช่วงเวลาการซื้อขายก่อนหน้า (โดยทั่วไปคือวันก่อนหน้า) แนวคิดพื้นฐานคือ ราคามักจะเคลื่อนไหวรอบๆ ระดับเหล่านี้ และสามารถใช้เป็นจุดอ้างอิงในการตัดสินใจซื้อขาย

1. 1. 1. 1. การคำนวณ Pivot Points

Pivot Points ถูกคำนวณโดยใช้สูตรดังต่อไปนี้:

• **Pivot Point (PP):** (High + Low + Close) / 3
• **Resistance Level 1 (R1):** (2 * PP) - Low
• **Resistance Level 2 (R2):** PP + (High - Low)
• **Support Level 1 (S1):** (2 * PP) - High
• **Support Level 2 (S2):** PP - (High - Low)

โดยที่:

• High คือราคาสูงสุดของช่วงเวลาที่กำหนด
• Low คือราคาต่ำสุดของช่วงเวลาที่กำหนด
• Close คือราคาปิดของช่วงเวลาที่กำหนด

ตารางแสดงการคำนวณ Pivot Points:

การคำนวณ Pivot Points

High	Low	Close	PP	S1	S2	R1	R2
1.1050	1.0980	1.1020	1.1017	1.0957	1.0897	1.1077	1.1137

1. 1. 1. 1. การตีความ Pivot Points

• **Pivot Point (PP):** ระดับที่สำคัญที่ราคามีแนวโน้มที่จะตอบสนอง
• **Support Levels (S1, S2):** ระดับที่ราคามีแนวโน้มที่จะหยุดลดลงและเด้งกลับขึ้นไป
• **Resistance Levels (R1, R2):** ระดับที่ราคามีแนวโน้มที่จะหยุดเพิ่มขึ้นและปรับตัวลงมา

เทรดเดอร์มักใช้ Pivot Points เพื่อ:

• **ระบุจุดเข้าและออก:** ซื้อเมื่อราคาเด้งกลับจาก Support Level และขายเมื่อราคาปรับตัวลงจาก Resistance Level
• **ตั้ง Stop-Loss:** วาง Stop-Loss ใต้ Support Level หรือเหนือ Resistance Level เพื่อจำกัดความเสี่ยง
• **ระบุแนวโน้ม:** หากราคาทะลุ Resistance Level สำคัญ แสดงว่าแนวโน้มเป็นขาขึ้น หากราคาทะลุ Support Level สำคัญ แสดงว่าแนวโน้มเป็นขาลง

1. 1. 1. Relative Strength Index (RSI): การวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้ม

Relative Strength Index (RSI) เป็นเครื่องมือโมเมนตัมที่ใช้วัดความเร็วและขนาดของการเปลี่ยนแปลงราคา เพื่อประเมินว่าสินทรัพย์นั้นอยู่ในสภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold) RSI มีค่าระหว่าง 0 ถึง 100

1. 1. 1. 1. การคำนวณ RSI

RSI คำนวณโดยใช้สูตรที่ซับซ้อนเล็กน้อย ซึ่งเกี่ยวข้องกับการคำนวณค่าเฉลี่ยของ Gains (ราคาที่เพิ่มขึ้น) และ Losses (ราคาที่ลดลง) ในช่วงเวลาที่กำหนด โดยทั่วไปคือ 14 วัน

RSI = 100 - [100 / (1 + (Average Gain / Average Loss))]

1. 1. 1. 1. การตีความ RSI

• **RSI > 70:** บ่งชี้ว่าสินทรัพย์อยู่ในสภาวะซื้อมากเกินไป และอาจมีการปรับตัวลดลงในอนาคต
• **RSI < 30:** บ่งชี้ว่าสินทรัพย์อยู่ในสภาวะขายมากเกินไป และอาจมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต
• **Divergence:** การที่ราคาทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ RSI ไม่ทำจุดสูงสุดใหม่ตาม (Bearish Divergence) หรือราคาทำจุดต่ำสุดใหม่ แต่ RSI ไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่ตาม (Bullish Divergence) เป็นสัญญาณเตือนถึงการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้น

1. 1. 1. การผสมผสาน Pivot Points และ RSI เพื่อการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น

การใช้ Pivot Points และ RSI ร่วมกันจะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจซื้อขายได้อย่างมาก

1. 1. 1. 1. กลยุทธ์การซื้อขาย

1. **การซื้อเมื่อ RSI Oversold และราคาอยู่ที่ Support Level:** รอให้ RSI ต่ำกว่า 30 และราคาเข้าใกล้หรือแตะ Support Level (S1 หรือ S2) ของ Pivot Points จากนั้นพิจารณาเปิดสถานะซื้อ (Call Option) 2. **การขายเมื่อ RSI Overbought และราคาอยู่ที่ Resistance Level:** รอให้ RSI สูงกว่า 70 และราคาเข้าใกล้หรือแตะ Resistance Level (R1 หรือ R2) ของ Pivot Points จากนั้นพิจารณาเปิดสถานะขาย (Put Option) 3. **การยืนยันสัญญาณ Divergence:** หากเกิด Bearish Divergence (ราคาทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ RSI ไม่ทำตาม) บริเวณ Resistance Level ให้พิจารณาเปิดสถานะขาย (Put Option) หากเกิด Bullish Divergence (ราคาทำจุดต่ำสุดใหม่ แต่ RSI ไม่ทำตาม) บริเวณ Support Level ให้พิจารณาเปิดสถานะซื้อ (Call Option) 4. **การใช้ Pivot Points เป็นเป้าหมาย:** เมื่อเปิดสถานะซื้อจาก Support Level ให้ตั้งเป้าหมายทำกำไรที่ Resistance Level ถัดไป และเมื่อเปิดสถานะขายจาก Resistance Level ให้ตั้งเป้าหมายทำกำไรที่ Support Level ถัดไป

1. 1. 1. 1. ตัวอย่างการใช้งาน

สมมติว่า:

• Pivot Point (PP) = 1.1000
• Support Level 1 (S1) = 1.0950
• RSI = 28 (Oversold)

ในกรณีนี้ เราสามารถพิจารณาเปิดสถานะซื้อ (Call Option) เมื่อราคาเข้าใกล้ 1.0950 เนื่องจาก RSI อยู่ในสภาวะ Oversold และราคาอยู่ที่ Support Level

1. 1. 1. ข้อควรระวังและความเสี่ยง

• **ไม่มีเครื่องมือใดที่แม่นยำ 100%:** Pivot Points และ RSI เป็นเพียงเครื่องมือช่วยในการวิเคราะห์ และไม่สามารถรับประกันผลกำไรได้
• **การตีความสัญญาณที่ผิดพลาด:** การตีความสัญญาณจาก RSI หรือ Pivot Points ที่ผิดพลาดอาจนำไปสู่การตัดสินใจซื้อขายที่ไม่ถูกต้อง
• **ความผันผวนของตลาด:** ตลาดที่มีความผันผวนสูงอาจทำให้ Pivot Points และ RSI ให้สัญญาณที่ไม่น่าเชื่อถือ
• **การจัดการความเสี่ยง:** การจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม (เช่น การตั้ง Stop-Loss) เป็นสิ่งสำคัญในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น

1. 1. 1. การวิเคราะห์เพิ่มเติมและเครื่องมือเสริม

นอกเหนือจาก Pivot Points และ RSI แล้ว เทรดเดอร์ยังสามารถใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อยืนยันสัญญาณและเพิ่มความแม่นยำในการซื้อขายได้ เช่น:

• **Moving Averages:** ช่วยระบุแนวโน้มและระดับ Support/Resistance
• **MACD:** เครื่องมือโมเมนตัมที่ช่วยระบุการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม
• **Bollinger Bands:** ช่วยวัดความผันผวนของตลาด
• **Fibonacci Retracements:** ช่วยระบุระดับ Support/Resistance ที่อาจเกิดขึ้น
• **Volume Analysis:** การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายเพื่อยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้ม Volume Spread Analysis
• **Candlestick Patterns:** รูปแบบแท่งเทียนที่ช่วยระบุสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้ม Candlestick Patterns
• **Trend Lines:** เส้นแนวโน้มที่ช่วยระบุทิศทางของราคา Trend Following

1. 1. 1. กลยุทธ์การซื้อขายที่เกี่ยวข้อง

• Straddle Strategy: ใช้เมื่อคาดว่าราคาจะมีความผันผวนสูง
• Butterfly Spread: ใช้เมื่อคาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ
• Iron Condor: ใช้เมื่อคาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ และต้องการจำกัดความเสี่ยง
• Breakout Strategy: ใช้เมื่อคาดว่าราคาจะทะลุแนวรับหรือแนวต้าน
• Reversal Strategy: ใช้เมื่อคาดว่าแนวโน้มจะกลับตัว
• Scalping: การซื้อขายระยะสั้นเพื่อทำกำไรเล็กน้อย
• Day Trading: การซื้อขายภายในวันเดียว
• Swing Trading: การถือครองตำแหน่งนานหลายวันหรือหลายสัปดาห์
• News Trading: การซื้อขายตามข่าวสารเศรษฐกิจและการเมือง
• Pattern Day Trading: การซื้อขายตามรูปแบบทางเทคนิคที่เกิดขึ้นซ้ำๆ
• Algorithmic Trading: การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อทำการซื้อขายอัตโนมัติ
• High-Frequency Trading: การซื้อขายด้วยความเร็วสูงและปริมาณมาก
• Arbitrage: การหาประโยชน์จากความแตกต่างของราคาในตลาดต่างๆ
• Pair Trading: การซื้อขายคู่สกุลเงินหรือสินทรัพย์ที่สัมพันธ์กัน
• Momentum Trading: การซื้อขายตามแรงผลักดันของแนวโน้ม

1. 1. 1. สรุป

Pivot Points และ RSI เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถช่วยให้เทรดเดอร์ไบนารี่ออปชั่นระบุโอกาสในการซื้อขายที่มีศักยภาพและจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำความเข้าใจวิธีการทำงานของเครื่องมือทั้งสองนี้ และการนำไปประยุกต์ใช้ร่วมกันอย่างเหมาะสม จะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการซื้อขาย

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น