Pair trading strategy

1. 1. Pair Trading Strategy

Pair Trading Strategy หรือ กลยุทธ์การซื้อขายแบบคู่ เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ทางสถิติระหว่างสินทรัพย์สองรายการที่มีความสัมพันธ์กัน โดยมีเป้าหมายที่จะทำกำไรจากความผิดปกติของการกำหนดราคา (mispricing) ที่เกิดขึ้นเมื่อความสัมพันธ์นี้เบี่ยงเบนไปจากค่าเฉลี่ยในอดีต กลยุทธ์นี้ได้รับความนิยมทั้งในตลาดหุ้น Forex และ Binary Options เนื่องจากมีความเสี่ยงที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับกลยุทธ์อื่นๆ และสามารถสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอได้

1. 1. 1. หลักการพื้นฐานของ Pair Trading

แนวคิดหลักของ Pair Trading คือการระบุสินทรัพย์สองรายการที่มักจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน แม้จะไม่จำเป็นต้องเป็นในอัตราส่วนที่เท่ากันเสมอไป สินทรัพย์เหล่านี้อาจอยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน (เช่น โค้กและเป๊ปซี่) หรือมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงกัน (เช่น น้ำมันดิบและบริษัทสายการบิน) เมื่อราคาของสินทรัพย์ทั้งสองเบี่ยงเบนไปจากความสัมพันธ์ปกติ กลยุทธ์นี้จะทำการซื้อสินทรัพย์ที่ราคาต่ำเกินไป (undervalued) และขายสินทรัพย์ที่ราคาสูงเกินไป (overvalued) โดยคาดหวังว่าราคาจะกลับสู่สมดุลเดิมในที่สุด

1. 1. 1. ขั้นตอนการดำเนินงาน Pair Trading

การดำเนินงาน Pair Trading สามารถแบ่งออกเป็นขั้นตอนหลักๆ ดังนี้:

1. **การคัดเลือกสินทรัพย์คู่ (Pair Selection):** ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดคือการค้นหาคู่สินทรัพย์ที่มีความสัมพันธ์ทางสถิติที่แข็งแกร่ง ซึ่งสามารถทำได้โดยใช้การวิเคราะห์ทางสถิติ เช่น Correlation (สหสัมพันธ์) และ Cointegration (ความสัมพันธ์ร่วม) สหสัมพันธ์วัดความสัมพันธ์เชิงเส้นระหว่างสินทรัพย์สองรายการ ในขณะที่ความสัมพันธ์ร่วมวัดความสัมพันธ์ในระยะยาว แม้ว่าราคาจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในระยะสั้น 2. **การกำหนดเกณฑ์การเข้าซื้อขาย (Entry Rules):** กำหนดเกณฑ์ที่ชัดเจนสำหรับการเข้าซื้อขาย เมื่อราคาของสินทรัพย์ทั้งสองเบี่ยงเบนไปจากความสัมพันธ์ปกติ เกณฑ์นี้อาจอิงตามค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (standard deviation) หรือ Z-score ซึ่งวัดจำนวนค่าเบี่ยงเบนจากค่าเฉลี่ย 3. **การกำหนดเกณฑ์การออกจากการซื้อขาย (Exit Rules):** กำหนดเกณฑ์สำหรับการออกจากการซื้อขาย เมื่อราคาของสินทรัพย์ทั้งสองกลับสู่สมดุล หรือเมื่อกลยุทธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง เกณฑ์นี้อาจอิงตามเป้าหมายกำไร (profit target) หรือระดับการตัดขาดทุน (stop-loss) 4. **การบริหารความเสี่ยง (Risk Management):** กำหนดขนาดของตำแหน่ง (position size) และระดับการตัดขาดทุน เพื่อจำกัดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการซื้อขาย

1. 1. 1. การวิเคราะห์ทางสถิติที่ใช้ใน Pair Trading

• **Correlation (สหสัมพันธ์):** วัดความสัมพันธ์เชิงเส้นระหว่างสินทรัพย์สองรายการ ค่าสหสัมพันธ์มีค่าระหว่าง -1 ถึง +1 โดย +1 หมายถึงความสัมพันธ์เชิงบวกที่สมบูรณ์แบบ -1 หมายถึงความสัมพันธ์เชิงลบที่สมบูรณ์แบบ และ 0 หมายถึงไม่มีความสัมพันธ์เชิงเส้น
• **Cointegration (ความสัมพันธ์ร่วม):** ทดสอบว่าสินทรัพย์สองรายการมีความสัมพันธ์ในระยะยาว แม้ว่าราคาจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในระยะสั้น หากสินทรัพย์สองรายการมีความสัมพันธ์ร่วม จะมีแนวโน้มที่จะกลับสู่สมดุลในระยะยาว
• **Z-score:** วัดจำนวนค่าเบี่ยงเบนจากค่าเฉลี่ย ใช้เพื่อระบุว่าราคาของสินทรัพย์ทั้งสองเบี่ยงเบนไปจากความสัมพันธ์ปกติมากน้อยเพียงใด Z-score ที่สูงหรือต่ำบ่งชี้ว่าสินทรัพย์ทั้งสองอาจมีการกำหนดราคาที่ผิดปกติ
• **Half-life of Mean Reversion:** ระยะเวลาโดยเฉลี่ยที่ราคาจะกลับสู่ค่าเฉลี่ย ช่วยในการกำหนดระยะเวลาในการถือครองตำแหน่ง

1. 1. 1. ตัวอย่าง Pair Trading ใน Binary Options

สมมติว่าเราพบว่าหุ้นของบริษัท A และบริษัท B มีความสัมพันธ์ร่วมกันอย่างแข็งแกร่ง บริษัท A เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ และบริษัท B เป็นผู้ประกอบรถยนต์ หากราคาหุ้นของบริษัท A เพิ่มขึ้น แต่ราคาหุ้นของบริษัท B ไม่เพิ่มขึ้นตาม อาจเป็นสัญญาณของการกำหนดราคาที่ผิดปกติ เราสามารถใช้ Pair Trading Strategy โดยการซื้อ Binary Options ที่คาดว่าราคาหุ้นของบริษัท B จะเพิ่มขึ้น และขาย Binary Options ที่คาดว่าราคาหุ้นของบริษัท A จะลดลง

ตัวอย่าง Pair Trading ใน Binary Options

สินทรัพย์	สถานการณ์	การซื้อขาย	เหตุผล
บริษัท A (ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์)	ราคาเพิ่มขึ้น	ขาย Binary Options (Put Option)	คาดว่าราคาจะลดลงเพื่อกลับสู่สมดุล
บริษัท B (ผู้ประกอบรถยนต์)	ราคาไม่เพิ่มขึ้น	ซื้อ Binary Options (Call Option)	คาดว่าราคาจะเพิ่มขึ้นเพื่อกลับสู่สมดุล

1. 1. 1. กลยุทธ์การซื้อขายที่เกี่ยวข้อง

• **Mean Reversion Strategy:** Mean Reversion เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ประโยชน์จากแนวโน้มที่ราคาจะกลับสู่ค่าเฉลี่ย เป็นพื้นฐานของ Pair Trading
• **Statistical Arbitrage:** Statistical Arbitrage เป็นกลยุทธ์ที่ใช้แบบจำลองทางสถิติเพื่อระบุโอกาสในการทำกำไรจากการกำหนดราคาที่ผิดปกติ
• **Trend Following Strategy:** Trend Following เป็นกลยุทธ์ที่ตามแนวโน้มของราคา ซึ่งอาจใช้ร่วมกับ Pair Trading เพื่อยืนยันแนวโน้ม
• **Breakout Strategy:** Breakout Strategy เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ประโยชน์จากการทะลุแนวต้านหรือแนวรับ ซึ่งอาจใช้เพื่อออกจากตำแหน่ง Pair Trading เมื่อราคาเบี่ยงเบนไปจากความสัมพันธ์ปกติ
• **Scalping Strategy:** Scalping เป็นกลยุทธ์ที่ทำกำไรจากความผันผวนของราคาในระยะสั้น ซึ่งอาจใช้เพื่อทำกำไรจากความผิดปกติของการกำหนดราคาเล็กน้อย

1. 1. 1. การวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้ใน Pair Trading

• **Moving Averages:** Moving Averages ใช้เพื่อระบุแนวโน้มของราคา และช่วยในการกำหนดจุดเข้าซื้อขาย
• **Relative Strength Index (RSI):** RSI ใช้เพื่อวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้ม และช่วยในการระบุภาวะซื้อมากเกินไป (overbought) หรือขายมากเกินไป (oversold)
• **Bollinger Bands:** Bollinger Bands ใช้เพื่อวัดความผันผวนของราคา และช่วยในการระบุช่วงราคาที่อาจมีการกลับตัว
• **Fibonacci Retracements:** Fibonacci Retracements ใช้เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้น
• **MACD (Moving Average Convergence Divergence):** MACD ใช้เพื่อวัดความสัมพันธ์ระหว่าง Moving Averages สองเส้น และช่วยในการระบุสัญญาณการซื้อขาย

1. 1. 1. การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis)

การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายสามารถช่วยยืนยันสัญญาณการซื้อขายที่ได้จากการวิเคราะห์ทางสถิติและทางเทคนิค ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นในขณะที่ราคากำลังเคลื่อนไหวในทิศทางที่คาดหวังเป็นสัญญาณที่ดีว่าแนวโน้มนั้นแข็งแกร่ง และมีโอกาสที่จะทำกำไรได้สูง

• **On Balance Volume (OBV):** OBV ใช้เพื่อวัดแรงกดดันในการซื้อขาย โดยการเพิ่มปริมาณการซื้อขายเมื่อราคาเพิ่มขึ้น และลดปริมาณการซื้อขายเมื่อราคาลดลง
• **Accumulation/Distribution Line:** ใช้เพื่อระบุว่านักลงทุนกำลังสะสมหรือกระจายหุ้น

1. 1. 1. ข้อดีและข้อเสียของ Pair Trading

• • ข้อดี:**

• ความเสี่ยงต่ำ: เนื่องจากกลยุทธ์นี้เป็นการซื้อขายแบบคู่ ความเสี่ยงจึงกระจายออกไป
• ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ: สามารถสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอได้หากเลือกคู่สินทรัพย์ที่ถูกต้อง
• ความยืดหยุ่น: สามารถปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับสภาวะตลาดที่แตกต่างกันได้

• • ข้อเสีย:**

• การคัดเลือกสินทรัพย์คู่ที่ยาก: การค้นหาคู่สินทรัพย์ที่มีความสัมพันธ์ทางสถิติที่แข็งแกร่งอาจเป็นเรื่องยาก
• ความซับซ้อน: ต้องมีความรู้ความเข้าใจในการวิเคราะห์ทางสถิติและการวิเคราะห์ทางเทคนิค
• ต้นทุนในการซื้อขาย: อาจมีต้นทุนในการซื้อขายที่สูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการซื้อขายบ่อยครั้ง

1. 1. 1. ข้อควรระวังในการใช้ Pair Trading

• **Backtesting:** ทดสอบกลยุทธ์ย้อนหลังด้วยข้อมูลในอดีต เพื่อประเมินประสิทธิภาพและความเสี่ยง
• **Diversification:** กระจายความเสี่ยงโดยการซื้อขายหลายคู่สินทรัพย์
• **Monitoring:** ติดตามผลการดำเนินงานของกลยุทธ์อย่างใกล้ชิด และปรับกลยุทธ์ตามความเหมาะสม
• **Market Conditions:** สภาพตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้นควรปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับสภาวะตลาดปัจจุบัน

1. 1. 1. สรุป

Pair Trading Strategy เป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอด้วยความเสี่ยงที่ค่อนข้างต่ำ อย่างไรก็ตาม การดำเนินงาน Pair Trading ต้องมีความรู้ความเข้าใจในการวิเคราะห์ทางสถิติ การวิเคราะห์ทางเทคนิค และการบริหารความเสี่ยง การทดสอบกลยุทธ์อย่างละเอียดก่อนที่จะนำไปใช้จริงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

Binary Options Trading Risk Management in Trading Technical Analysis Fundamental Analysis Trading Psychology (Category:Trading strategies)

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น