OBV Strategy

1. 1. กลยุทธ์ OBV (On Balance Volume) สำหรับไบนารี่ออปชั่น: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับผู้เริ่มต้น

บทนำ

การเทรด ไบนารี่ออปชั่น นั้นต้องอาศัยความเข้าใจในตลาดและการวิเคราะห์ที่แม่นยำ หนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่นักเทรดใช้ในการวิเคราะห์คือ On Balance Volume หรือ OBV ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่ใช้ประเมินแรงกดดันในการซื้อขาย โดยพิจารณาจากปริมาณการซื้อขายและราคา กลยุทธ์ OBV สามารถช่วยให้นักเทรดระบุแนวโน้มของตลาดและจุดเข้า/ออกที่มีศักยภาพ บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับ OBV, วิธีการคำนวณ, การตีความสัญญาณ และวิธีการนำไปใช้ในกลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นอย่างมีประสิทธิภาพ

OBV คืออะไร?

OBV ถูกพัฒนาขึ้นโดย **Joe Granville** ในช่วงทศวรรษ 1960 เป็นตัวบ่งชี้ที่สะสมหรือลดปริมาณการซื้อขาย (Volume) โดยอิงจากราคาปัจจุบันของสินทรัพย์ หากราคาปิดสูงกว่าราคาปิดของวันก่อนหน้า ปริมาณการซื้อขายจะถูกบวกเข้ากับ OBV แต่ถ้าหากราคาปิดต่ำกว่าราคาปิดของวันก่อนหน้า ปริมาณการซื้อขายจะถูกลบออกจาก OBV แนวคิดเบื้องหลังคือ ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นเมื่อราคาเพิ่มขึ้น บ่งบอกถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่ง ในขณะที่ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นเมื่อราคาลดลง บ่งบอกถึงแรงขายที่แข็งแกร่ง

วิธีการคำนวณ OBV

สูตรการคำนวณ OBV มีดังนี้:

OBV = OBV ก่อนหน้า + (ปริมาณการซื้อขายวันนี้) * (ทิศทางของราคา)

โดยที่:

• OBV ก่อนหน้า คือ ค่า OBV ของวันก่อนหน้า
• ปริมาณการซื้อขายวันนี้ คือ ปริมาณการซื้อขายในวันนี้
• ทิศทางของราคา คือ +1 หากราคาปิดสูงกว่าราคาปิดของวันก่อนหน้า และ -1 หากราคาปิดต่ำกว่าราคาปิดของวันก่อนหน้า

ตัวอย่างการคำนวณ OBV

วันที่	ราคาปิด	ปริมาณการซื้อขาย	ทิศทางของราคา	OBV
1	100	1000	+1	1000
2	102	1200	+1	2200
3	101	800	-1	1400
4	105	1500	+1	2900
5	103	900	-1	2000

การตีความสัญญาณ OBV

การตีความสัญญาณ OBV มีความสำคัญอย่างยิ่งในการนำไปใช้ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น สัญญาณที่สำคัญมีดังนี้:

• **OBV ที่เพิ่มขึ้น:** แสดงถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่ง และเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) หาก OBV ทำจุดสูงสุดใหม่ (Higher High) พร้อมกับราคาที่ทำจุดสูงสุดใหม่เช่นกัน แสดงว่าแนวโน้มขาขึ้นยังคงแข็งแกร่ง
• **OBV ที่ลดลง:** แสดงถึงแรงขายที่แข็งแกร่ง และเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงแนวโน้มขาลง (Downtrend) หาก OBV ทำจุดต่ำสุดใหม่ (Lower Low) พร้อมกับราคาที่ทำจุดต่ำสุดใหม่เช่นกัน แสดงว่าแนวโน้มขาลงยังคงแข็งแกร่ง
• **Divergence (การเบี่ยงเบน):** เป็นสัญญาณที่สำคัญมากในการบ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม

   *   **Bullish Divergence:** เกิดขึ้นเมื่อราคาทำจุดต่ำสุดใหม่ แต่ OBV ไม่ได้ทำจุดต่ำสุดใหม่ แสดงว่าแรงขายเริ่มอ่อนตัวลง และมีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวขึ้น
   *   **Bearish Divergence:** เกิดขึ้นเมื่อราคาทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ OBV ไม่ได้ทำจุดสูงสุดใหม่ แสดงว่าแรงซื้อเริ่มอ่อนตัวลง และมีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวลง

• **OBV Breakout:** OBV ที่ทะลุแนวต้านหรือแนวรับที่สำคัญ สามารถบ่งบอกถึงการเริ่มต้นของแนวโน้มใหม่

การนำกลยุทธ์ OBV ไปใช้ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น

มีหลายวิธีในการนำกลยุทธ์ OBV ไปใช้ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น นี่คือตัวอย่างบางส่วน:

1. **OBV และ แนวโน้ม (Trend Following):** ใช้ OBV เพื่อยืนยันแนวโน้มที่เกิดขึ้น หาก OBV กำลังเพิ่มขึ้น แสดงว่าแนวโน้มขาขึ้นยังคงแข็งแกร่ง และสามารถเปิดออปชั่น Call หาก OBV กำลังลดลง แสดงว่าแนวโน้มขาลงยังคงแข็งแกร่ง และสามารถเปิดออปชั่น Put 2. **OBV และ Divergence:** เมื่อเกิด Bullish Divergence ให้เปิดออปชั่น Call และเมื่อเกิด Bearish Divergence ให้เปิดออปชั่น Put 3. **OBV Breakout Strategy:** เมื่อ OBV ทะลุแนวต้านที่สำคัญ ให้เปิดออปชั่น Call และเมื่อ OBV ทะลุแนวรับที่สำคัญ ให้เปิดออปชั่น Put 4. **การผสมผสานกับตัวบ่งชี้อื่น ๆ:** การใช้ OBV ร่วมกับตัวบ่งชี้ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น Moving Average, RSI, หรือ MACD สามารถเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจเทรดได้

ข้อดีและข้อเสียของกลยุทธ์ OBV

ข้อดี:

• **ระบุแนวโน้ม:** ช่วยในการระบุแนวโน้มของตลาดได้ดี
• **สัญญาณเตือนล่วงหน้า:** Divergence สามารถให้สัญญาณเตือนล่วงหน้าเกี่ยวกับการกลับตัวของแนวโน้ม
• **ใช้งานง่าย:** การคำนวณและการตีความค่อนข้างง่าย

ข้อเสีย:

• **สัญญาณหลอก (False Signals):** อาจเกิดสัญญาณหลอกได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่มีความผันผวนสูง
• **Lagging Indicator:** เป็นตัวบ่งชี้ที่ตามหลังราคา (Lagging Indicator) ซึ่งหมายความว่าสัญญาณอาจมาถึงช้าเกินไป
• **ต้องใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่น ๆ:** การใช้ OBV เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ และควรใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่น ๆ เพื่อยืนยันสัญญาณ

การจัดการความเสี่ยง (Risk Management)

การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเทรดไบนารี่ออปชั่น ไม่ว่าคุณจะใช้กลยุทธ์ใดก็ตาม:

• **กำหนดขนาดการเดิมพัน:** กำหนดขนาดการเดิมพันที่เหมาะสมกับเงินทุนและความเสี่ยงที่คุณรับได้
• **ใช้ Stop Loss:** แม้ว่าไบนารี่ออปชั่นจะไม่มี Stop Loss แบบดั้งเดิม แต่คุณสามารถจำกัดความเสี่ยงได้โดยการเลือกระยะเวลาหมดอายุ (Expiry Time) ที่สั้นลง
• **กระจายความเสี่ยง:** อย่าลงทุนทั้งหมดในออปชั่นเดียว กระจายความเสี่ยงโดยการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย

กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องและการวิเคราะห์เพิ่มเติม

• **Volume Spread Analysis (VSA):** Volume Spread Analysis เป็นการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างราคา, ปริมาณการซื้อขาย และช่วงราคา เพื่อระบุสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้ม
• **Accumulation/Distribution Line (A/D Line):** Accumulation/Distribution Line คล้ายกับ OBV แต่ใช้สูตรการคำนวณที่แตกต่างกัน
• **Chaikin Money Flow (CMF):** Chaikin Money Flow เป็นตัวบ่งชี้ที่วัดแรงกดดันในการซื้อขายในช่วงระยะเวลาที่กำหนด
• **Fibonacci Retracement:** Fibonacci Retracement ใช้เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่มีศักยภาพ
• **Elliott Wave Theory:** Elliott Wave Theory วิเคราะห์รูปแบบของราคาเพื่อคาดการณ์แนวโน้มในอนาคต
• **Bollinger Bands:** Bollinger Bands ใช้เพื่อวัดความผันผวนของตลาด
• **Ichimoku Cloud:** Ichimoku Cloud เป็นระบบการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ครอบคลุม
• **Support and Resistance Levels:** Support and Resistance Levels ระบุระดับราคาที่แนวโน้มมีแนวโน้มที่จะหยุดหรือกลับตัว
• **Moving Average Convergence Divergence (MACD):** MACD เป็นตัวบ่งชี้โมเมนตัมที่ใช้เพื่อระบุแนวโน้มและจุดเข้า/ออก
• **Relative Strength Index (RSI):** RSI วัดความเร็วและขนาดของการเปลี่ยนแปลงราคาเพื่อประเมินสภาวะซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป
• **Stochastic Oscillator:** Stochastic Oscillator เป็นตัวบ่งชี้โมเมนตัมที่เปรียบเทียบราคาปิดปัจจุบันกับช่วงราคาสูงสุดและต่ำสุดในช่วงเวลาที่กำหนด
• **Triangular Consolidation:** รูปแบบกราฟที่บ่งบอกถึงการสะสมหรือการกระจายตัวของสินทรัพย์
• **Flag and Pennant Patterns:** รูปแบบกราฟต่อเนื่องที่บ่งบอกถึงการพักตัวชั่วคราวในแนวโน้ม
• **Head and Shoulders Pattern:** รูปแบบกราฟกลับตัวที่บ่งบอกถึงการสิ้นสุดของแนวโน้มขาขึ้น
• **Double Top and Double Bottom Patterns:** รูปแบบกราฟกลับตัวที่บ่งบอกถึงการสิ้นสุดของแนวโน้ม

สรุป

กลยุทธ์ OBV เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับนักเทรดไบนารี่ออปชั่นในการวิเคราะห์แนวโน้มและระบุจุดเข้า/ออกที่มีศักยภาพ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจข้อดีและข้อเสียของกลยุทธ์นี้ และใช้ร่วมกับการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม การผสมผสาน OBV กับตัวบ่งชี้ทางเทคนิคอื่นๆ และการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน สามารถเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจเทรดของคุณได้

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น