Market Order

Market Order ในไบนารี่ออปชั่น: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับผู้เริ่มต้น

Market Order หรือคำสั่งซื้อขายตามราคาตลาด เป็นหนึ่งในคำสั่งซื้อขายที่พื้นฐานและใช้กันมากที่สุดในตลาดการเงิน รวมถึงตลาด ไบนารี่ออปชั่น ด้วย บทความนี้จะอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับ Market Order ในบริบทของไบนารี่ออปชั่น ครอบคลุมตั้งแต่ความหมาย ข้อดีข้อเสีย ความแตกต่างจากคำสั่งซื้อขายประเภทอื่นๆ วิธีใช้งาน และกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้เริ่มต้นสามารถเข้าใจและนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Market Order คืออะไร?

Market Order คือคำสั่งให้โบรกเกอร์ดำเนินการซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิง (Asset) ทันทีในราคาที่ดีที่สุดที่มีอยู่ในตลาด ณ ขณะนั้น คำว่า “ราคาที่ดีที่สุด” หมายถึงราคาที่สามารถทำการซื้อขายได้จริงในตลาด โดยคำสั่ง Market Order จะไม่กำหนดราคาที่แน่นอนในการซื้อขาย แต่จะขึ้นอยู่กับสภาพตลาดในขณะนั้น

ในบริบทของไบนารี่ออปชั่น Market Order ไม่ได้หมายถึงการซื้อขายสินทรัพย์อ้างอิงโดยตรง แต่หมายถึงการเปิด Position หรือสถานะการซื้อขาย โดยเลือกประเภทของออปชั่น (Call หรือ Put) และระยะเวลาการหมดอายุ (Expiry Time) ในขณะที่ราคาของสินทรัพย์อ้างอิง ณ เวลาที่เปิด Position จะถูกกำหนดโดยราคาตลาด ณ ขณะนั้น

ข้อดีและข้อเสียของ Market Order

เช่นเดียวกับคำสั่งซื้อขายทุกประเภท Market Order มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่นักเทรดควรพิจารณาก่อนใช้งาน

ข้อดี:

ความรวดเร็วในการดำเนินการ: Market Order เป็นคำสั่งที่ดำเนินการอย่างรวดเร็วที่สุด เนื่องจากไม่จำเป็นต้องรอให้ราคาถึงระดับที่กำหนดไว้
ความง่ายในการใช้งาน: เป็นคำสั่งที่ง่ายที่สุดในการทำความเข้าใจและใช้งาน เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
ลดความเสี่ยงจากการพลาดโอกาส: หากนักเทรดคาดการณ์ทิศทางราคาอย่างมั่นใจ Market Order จะช่วยให้สามารถเปิด Position ได้ทันที โดยไม่ต้องกังวลว่าราคาจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่ไม่ต้องการก่อนที่จะทำการซื้อขาย

ข้อเสีย:

ความไม่แน่นอนของราคา: เนื่องจาก Market Order ไม่กำหนดราคาที่แน่นอนในการซื้อขาย อาจได้รับราคาที่ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง (Volatility)
Slippage: ในบางกรณี อาจเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Slippage ซึ่งหมายถึงราคาที่ได้จริงในการซื้อขายแตกต่างจากราคาที่แสดงอยู่บนแพลตฟอร์ม เนื่องจากความล่าช้าในการส่งคำสั่ง หรือสภาพคล่องในตลาดไม่เพียงพอ
ไม่เหมาะสำหรับการควบคุมความเสี่ยงอย่างเข้มงวด: หากนักเทรดต้องการควบคุมราคาซื้อขายอย่างแม่นยำ Market Order อาจไม่เหมาะสม

Market Order vs. คำสั่งซื้อขายประเภทอื่นๆ

เพื่อให้เข้าใจ Market Order ได้ดียิ่งขึ้น เรามาเปรียบเทียบกับคำสั่งซื้อขายประเภทอื่นๆ ที่ใช้กันทั่วไปในตลาดการเงิน

Limit Order: Limit Order คือคำสั่งให้ซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิงเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนดไว้ หากราคาไม่ถึงระดับที่กำหนด คำสั่งซื้อขายจะไม่ถูกดำเนินการ ข้อดีของ Limit Order คือสามารถควบคุมราคาซื้อขายได้ แต่ข้อเสียคืออาจพลาดโอกาสในการซื้อขายหากราคาไม่ถึงระดับที่กำหนด
Stop-Loss Order: Stop-Loss Order คือคำสั่งให้ขายสินทรัพย์อ้างอิงเมื่อราคาลดลงถึงระดับที่กำหนดไว้ เพื่อจำกัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการเคลื่อนที่ของราคาในทิศทางที่ไม่ต้องการ
Trailing Stop Order: Trailing Stop Order คือคำสั่ง Stop-Loss ที่ปรับระดับราคาตามการเคลื่อนที่ของราคาในทิศทางที่ต้องการ

ในบริบทของไบนารี่ออปชั่น การเลือกประเภทของออปชั่น (Call หรือ Put) และระยะเวลาการหมดอายุ (Expiry Time) สามารถเปรียบเสมือนการใช้ Limit Order ได้ในระดับหนึ่ง เนื่องจากเป็นการกำหนดเงื่อนไขบางอย่างในการซื้อขาย

วิธีใช้งาน Market Order ในไบนารี่ออปชั่น

การใช้งาน Market Order ในไบนารี่ออปชั่นนั้นง่ายมาก โดยทั่วไปขั้นตอนจะเป็นดังนี้:

1. เลือกสินทรัพย์อ้างอิง (Asset): เลือกสินทรัพย์ที่ต้องการเทรด เช่น สกุลเงิน (Currency Pair), ดัชนีหุ้น (Stock Index), สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) 2. วิเคราะห์ตลาด: ทำการวิเคราะห์ตลาดเพื่อคาดการณ์ทิศทางราคาของสินทรัพย์อ้างอิง โดยใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis), การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis) และ การวิเคราะห์ความรู้สึกของตลาด (Sentiment Analysis) 3. เลือกประเภทของออปชั่น: เลือกประเภทของออปชั่น (Call หรือ Put) ตามทิศทางราคาที่คาดการณ์ไว้

   *   Call Option: เลือก Call Option หากคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะสูงขึ้น
   *   Put Option: เลือก Put Option หากคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะลดลง

4. กำหนดระยะเวลาการหมดอายุ (Expiry Time): กำหนดระยะเวลาที่ต้องการให้ Position หมดอายุ โดยระยะเวลาที่สั้นจะมีความเสี่ยงสูง แต่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูง ในขณะที่ระยะเวลาที่ยาวจะมีความเสี่ยงต่ำ แต่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนต่ำ 5. กำหนดจำนวนเงินทุน: กำหนดจำนวนเงินทุนที่ต้องการลงทุนใน Position นั้น 6. เปิด Position: กดปุ่ม “Buy” หรือ “Call” (สำหรับการซื้อ Call Option) หรือ “Put” (สำหรับการซื้อ Put Option) เพื่อเปิด Position

ระบบจะดำเนินการเปิด Position ทันที โดยใช้ราคาตลาด ณ ขณะนั้น

กลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นที่ใช้ Market Order

Market Order สามารถใช้ร่วมกับกลยุทธ์การเทรดต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร ตัวอย่างกลยุทธ์ที่น่าสนใจมีดังนี้:

Trend Following: การเทรดตามแนวโน้ม (Trend) ของราคา โดยใช้ Market Order เพื่อเปิด Position ในทิศทางเดียวกับแนวโน้ม
Breakout Trading: การเทรดเมื่อราคา breakout หรือทะลุแนวต้านทาน (Resistance) หรือแนวรับ (Support) โดยใช้ Market Order เพื่อเปิด Position ทันทีที่ราคา breakout
Reversal Trading: การเทรดเมื่อราคาเกิดการกลับตัว (Reversal) โดยใช้ Market Order เพื่อเปิด Position ในทิศทางตรงกันข้ามกับแนวโน้มเดิม
News Trading: การเทรดตามข่าวสารหรือเหตุการณ์สำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิง โดยใช้ Market Order เพื่อเปิด Position ทันทีที่ข่าวสารถูกเผยแพร่
Bollinger Bands Strategy: ใช้ Bollinger Bands เพื่อระบุช่วงราคาที่ผันผวน และใช้ Market Order เพื่อเปิด Position เมื่อราคาแตะขอบบนหรือขอบล่างของ Bollinger Bands
Moving Average Crossover Strategy: ใช้ Moving Averages เพื่อระบุแนวโน้มของราคา และใช้ Market Order เพื่อเปิด Position เมื่อเส้น Moving Average เส้นสั้นตัดเส้น Moving Average เส้นยาว
RSI Divergence Strategy: ใช้ Relative Strength Index (RSI) เพื่อระบุสัญญาณ Divergence และใช้ Market Order เพื่อเปิด Position เมื่อเกิด Divergence
Fibonacci Retracement Strategy: ใช้ Fibonacci Retracement เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านทาน และใช้ Market Order เพื่อเปิด Position เมื่อราคาเข้าใกล้ระดับ Fibonacci
Elliott Wave Theory: ใช้ Elliott Wave Theory เพื่อวิเคราะห์รูปแบบของราคา และใช้ Market Order เพื่อเปิด Position ตามรูปแบบที่คาดการณ์ไว้
Candlestick Pattern Strategy: ใช้ Candlestick Patterns เพื่อระบุสัญญาณการกลับตัวหรือการต่อเนื่องของแนวโน้ม และใช้ Market Order เพื่อเปิด Position ตามสัญญาณที่ได้
Price Action Trading: การวิเคราะห์และเทรดโดยดูจากรูปแบบราคาโดยตรง (Price Action) โดยใช้ Market Order เพื่อเปิด Position เมื่อเห็นรูปแบบราคาที่บ่งบอกถึงโอกาสในการทำกำไร
High-Low Strategy: การเทรดโดยพิจารณาจากจุดสูงสุด (High) และจุดต่ำสุด (Low) ของราคา และใช้ Market Order เพื่อเปิด Position เมื่อราคาเข้าใกล้จุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุด
Support and Resistance Levels Strategy: การเทรดโดยพิจารณาจากระดับแนวรับและแนวต้านทาน และใช้ Market Order เพื่อเปิด Position เมื่อราคาเข้าใกล้ระดับแนวรับหรือแนวต้านทาน
Chart Pattern Strategy: การเทรดโดยพิจารณาจากรูปแบบกราฟ (Chart Pattern) เช่น Head and Shoulders, Double Top/Bottom และใช้ Market Order เพื่อเปิด Position เมื่อเห็นรูปแบบกราฟที่บ่งบอกถึงโอกาสในการทำกำไร
Time-Based Strategy: การเทรดโดยพิจารณาจากช่วงเวลาที่กำหนด และใช้ Market Order เพื่อเปิด Position ในช่วงเวลาที่คาดการณ์ว่าราคาจะเคลื่อนที่ในทิศทางที่ต้องการ

การจัดการความเสี่ยงเมื่อใช้ Market Order

ถึงแม้ว่า Market Order จะใช้งานง่ายและรวดเร็ว แต่ก็มีความเสี่ยงที่นักเทรดควรระมัดระวัง การจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมจะช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้

กำหนดขนาด Position: กำหนดขนาด Position ให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่รับได้ โดยไม่ควรลงทุนเกินกว่า 2-5% ของเงินทุนทั้งหมดในแต่ละ Position
ใช้ Stop-Loss: แม้ว่า Market Order จะไม่มี Stop-Loss ในตัว แต่สามารถใช้กลยุทธ์การบริหารเงินทุน (Money Management) เพื่อจำกัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้
วิเคราะห์ตลาดอย่างรอบคอบ: ก่อนที่จะเปิด Position ควรทำการวิเคราะห์ตลาดอย่างรอบคอบ เพื่อประเมินความเสี่ยงและโอกาสในการทำกำไร
ติดตามข่าวสาร: ติดตามข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิง
ฝึกฝนการเทรด: ฝึกฝนการเทรดด้วยบัญชี Demo ก่อนที่จะทำการเทรดด้วยบัญชีจริง

สรุป

Market Order เป็นคำสั่งซื้อขายที่พื้นฐานและใช้งานง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นในตลาด ไบนารี่ออปชั่น การเข้าใจข้อดีข้อเสีย วิธีใช้งาน และกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง จะช่วยให้นักเทรดสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประสบความสำเร็จในการเทรด อย่างไรก็ตาม การจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเสมอ

การวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน การวิเคราะห์ความรู้สึกของตลาด Volatility Position Call Option Put Option Expiry Time Trend Following Breakout Trading Reversal Trading News Trading Bollinger Bands Moving Averages Relative Strength Index (RSI) Fibonacci Retracement Elliott Wave Theory Candlestick Patterns Price Action Trading Money Management

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น