Investopedia - Short Selling

1. 1. Investopedia - Short Selling

• • Short Selling (การขายชอร์ต)** คือกลยุทธ์การซื้อขายหลักทรัพย์ที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์นั้นจะลดลงในอนาคต โดยนักลงทุนจะทำการ "ยืม" หลักทรัพย์จากโบรกเกอร์มาขายในตลาด จากนั้นเมื่อราคาลดลงตามที่คาดการณ์ไว้ นักลงทุนจะทำการ "ซื้อคืน" หลักทรัพย์นั้นในราคาที่ต่ำกว่า และส่งคืนให้กับโบรกเกอร์ ผลต่างของราคาขายและราคาซื้อคืนคือผลกำไรของนักลงทุน

บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการขายชอร์ต รวมถึงความเสี่ยง, กลไกการทำงาน, ตัวอย่าง, และความเกี่ยวข้องกับการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น (Binary Options)

1. 1. 1. กลไกการทำงานของการขายชอร์ต

การขายชอร์ตมีขั้นตอนดังนี้:

1. **ยืมหลักทรัพย์:** นักลงทุนติดต่อโบรกเกอร์เพื่อยืมหลักทรัพย์ที่ต้องการขายชอร์ต โบรกเกอร์จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการยืม (Borrow Fee) ซึ่งอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาด 2. **ขายหลักทรัพย์:** นักลงทุนขายหลักทรัพย์ที่ยืมมาในตลาดหลักทรัพย์ 3. **รอราคาลดลง:** นักลงทุนรอให้ราคาของหลักทรัพย์นั้นลดลงตามที่คาดการณ์ไว้ 4. **ซื้อคืนหลักทรัพย์:** เมื่อราคาลดลง นักลงทุนจะซื้อหลักทรัพย์เดียวกันในตลาดกลับมา (Covering the Short) 5. **คืนหลักทรัพย์:** นักลงทุนส่งคืนหลักทรัพย์ที่ซื้อคืนให้กับโบรกเกอร์ พร้อมจ่ายค่าธรรมเนียมในการยืม

• • ตัวอย่าง:**

สมมติว่าคุณเชื่อว่าหุ้น XYZ ซึ่งปัจจุบันมีราคา 100 บาท จะมีราคาลดลงในอนาคต คุณจึงทำการยืมหุ้น XYZ จำนวน 100 หุ้นจากโบรกเกอร์ และขายในตลาดในราคา 100 บาทต่อหุ้น ได้เงิน 10,000 บาท

ต่อมา หุ้น XYZ ราคาลดลงเหลือ 80 บาทต่อหุ้น คุณจึงซื้อหุ้น XYZ จำนวน 100 หุ้นกลับมาในราคา 80 บาทต่อหุ้น เสียเงิน 8,000 บาท

ผลกำไรของคุณคือ 10,000 บาท (เงินที่ได้จากการขาย) - 8,000 บาท (เงินที่เสียไปจากการซื้อคืน) - ค่าธรรมเนียมในการยืม = 2,000 บาท (ก่อนหักภาษี)

1. 1. 1. ความเสี่ยงของการขายชอร์ต

การขายชอร์ตมีความเสี่ยงที่สูงกว่าการซื้อขายแบบปกติ เนื่องจาก:

• **ความเสี่ยงที่ไม่จำกัด:** หากราคาของหลักทรัพย์ที่ขายชอร์ตสูงขึ้นอย่างไม่จำกัด นักลงทุนจะต้องซื้อคืนในราคาที่สูงขึ้น ซึ่งอาจทำให้ขาดทุนได้ไม่จำกัด (Unlimited Loss Potential) ต่างจากการซื้อแบบปกติที่ความเสี่ยงจำกัดอยู่ที่เงินลงทุนทั้งหมด
• **Margin Call:** โบรกเกอร์อาจเรียกร้องให้คุณเพิ่มเงินทุนในบัญชี (Margin Call) หากราคาของหลักทรัพย์ที่ขายชอร์ตสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อให้มั่นใจว่าคุณยังมีความสามารถในการซื้อคืนหลักทรัพย์ได้
• **Short Squeeze:** หากมีนักลงทุนจำนวนมากทำการขายชอร์ตหลักทรัพย์เดียวกัน และราคาของหลักทรัพย์นั้นเริ่มสูงขึ้น อาจเกิดปรากฏการณ์ "Short Squeeze" ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่นักลงทุนที่ขายชอร์ตต้องรีบซื้อคืนหลักทรัพย์เพื่อจำกัดความเสียหาย ทำให้ราคาของหลักทรัพย์สูงขึ้นไปอีก ซึ่งอาจทำให้ขาดทุนอย่างหนัก
• **Dividend Risk:** หากบริษัทจ่ายเงินปันผล (Dividend) ในขณะที่คุณขายชอร์ตอยู่ คุณจะต้องจ่ายเงินปันผลนั้นให้กับผู้ที่ยืมหลักทรัพย์มา

1. 1. 1. การขายชอร์ตกับการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น

แม้ว่าการขายชอร์ตเป็นการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โดยตรง แต่แนวคิดของการคาดการณ์ทิศทางราคา (Price Direction) สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น ได้

ในไบนารี่ออปชั่น นักลงทุนจะทำนายว่าราคาของสินทรัพย์จะสูงขึ้น (Call Option) หรือต่ำลง (Put Option) ภายในระยะเวลาที่กำหนด หากการคาดการณ์ถูกต้อง นักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนตามที่กำหนดไว้ แต่หากการคาดการณ์ผิดพลาด นักลงทุนจะเสียเงินลงทุนทั้งหมด

ดังนั้น นักลงทุนที่ใช้กลยุทธ์การขายชอร์ตในการซื้อขายหุ้น อาจพิจารณาใช้ Put Option ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น หากพวกเขาเชื่อว่าราคาของสินทรัพย์นั้นจะลดลง

1. 1. 1. กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการขายชอร์ต

• **Pair Trading:** เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ระหว่างหุ้นสองตัว โดยขายชอร์ตหุ้นตัวที่คาดว่าจะปรับตัวลดลง และซื้อหุ้นตัวที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้น
• **Hedging:** การขายชอร์ตสามารถใช้เพื่อป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ในกรณีที่นักลงทุนถือครองหลักทรัพย์จำนวนมาก และต้องการป้องกันความเสี่ยงจากราคาที่อาจลดลง
• **Arbitrage:** การขายชอร์ตสามารถใช้ในการทำ Arbitrage ซึ่งเป็นการหากำไรจากความแตกต่างของราคาในตลาดที่แตกต่างกัน
• **Bearish Reversal Patterns:** การใช้รูปแบบกราฟที่บ่งบอกถึงการกลับตัวเป็นขาลง (Bearish Reversal) เช่น Head and Shoulders, Double Top, หรือ Triple Top เพื่อยืนยันสัญญาณขายชอร์ต
• **Moving Average Crossover:** การใช้ Moving Average Crossover ที่บ่งบอกถึงแนวโน้มขาลง เช่น การตัดลงของเส้น Moving Average ระยะสั้นต่ำกว่าเส้น Moving Average ระยะยาว
• **Relative Strength Index (RSI):** การใช้ RSI เพื่อระบุสภาวะ Overbought ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการปรับตัวลงของราคา
• **MACD:** การใช้ MACD เพื่อระบุสัญญาณขายที่เกิดขึ้นเมื่อเส้น MACD ตัดลงต่ำกว่าเส้น Signal Line
• **Bollinger Bands:** การใช้ Bollinger Bands เพื่อระบุการเบี่ยงเบนของราคาจากค่าเฉลี่ย ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการปรับตัวลง
• **Fibonacci Retracement:** การใช้ Fibonacci Retracement เพื่อระบุแนวรับแนวต้านที่อาจเป็นจุดขายชอร์ต
• **Elliott Wave Theory:** การใช้ Elliott Wave Theory เพื่อระบุคลื่นขาลงที่อาจเกิดขึ้น
• **Volume Spread Analysis (VSA):** การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายและช่วงราคาเพื่อระบุแรงกดดันในการขาย
• **Ichimoku Cloud:** การใช้ Ichimoku Cloud เพื่อระบุแนวโน้มขาลงและจุดขายชอร์ต
• **Candlestick Patterns:** การใช้รูปแบบแท่งเทียนที่บ่งบอกถึงการขายชอร์ต เช่น Bearish Engulfing, Dark Cloud Cover, หรือ Shooting Star
• **Gap Trading:** การใช้ Gap Down เป็นสัญญาณของการขายชอร์ต
• **News-Based Trading:** การขายชอร์ตตามข่าวสารเชิงลบที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาของหลักทรัพย์

1. 1. 1. การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis)

การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายมีความสำคัญอย่างยิ่งในการขายชอร์ต การเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อขายพร้อมกับการลดลงของราคา เป็นสัญญาณยืนยันที่แข็งแกร่งว่าแนวโน้มขาลงกำลังเกิดขึ้น

• **On Balance Volume (OBV):** ใช้เพื่อยืนยันแนวโน้มขาลง
• **Accumulation/Distribution Line:** ใช้เพื่อระบุแรงกดดันในการขาย

1. 1. 1. ข้อควรพิจารณาก่อนทำการขายชอร์ต

• **ศึกษาข้อมูล:** ทำความเข้าใจเกี่ยวกับบริษัทและอุตสาหกรรมของหลักทรัพย์ที่คุณต้องการขายชอร์ต
• **ประเมินความเสี่ยง:** พิจารณาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการขายชอร์ต และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณสามารถรับมือกับความเสี่ยงเหล่านั้นได้
• **วางแผนการจัดการความเสี่ยง:** กำหนดจุด Stop-Loss เพื่อจำกัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
• **ติดตามข่าวสาร:** ติดตามข่าวสารและเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาของหลักทรัพย์
• **ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ:** หากคุณไม่แน่ใจ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน

1. 1. 1. บทสรุป

การขายชอร์ตเป็นกลยุทธ์การซื้อขายที่ซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูง นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดก่อนที่จะทำการขายชอร์ต การประยุกต์ใช้แนวคิดของการคาดการณ์ทิศทางราคาในการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น สามารถเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการใช้ประโยชน์จากแนวโน้มขาลงของราคา

การซื้อขายหลักทรัพย์ | การวิเคราะห์ทางเทคนิค | การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน | การจัดการความเสี่ยง | ตลาดหลักทรัพย์ | โบรกเกอร์ | Margin Account | Short Squeeze | Put Option | Call Option | Derivative | Hedging | Arbitrage | Pair Trading | ตลาดทุน | การลงทุน | กลยุทธ์การลงทุน | การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย | Relative Strength Index | Moving Average

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น