Investopedia - Fibonacci Retracement

1. 1. Investopedia – Fibonacci Retracement

Fibonacci Retracement คือเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้ในการระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้ โดยอิงจากลำดับ Fibonacci ซึ่งเป็นลำดับตัวเลขที่ค้นพบโดยนักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลีชื่อ Leonardo Pisano หรือที่รู้จักกันในชื่อ Fibonacci ในช่วงต้นศตวรรษที่ 13 เครื่องมือนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้เทรดในตลาดการเงิน รวมถึงตลาด ไบนารี่ออปชั่น เนื่องจากสามารถช่วยในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาและตัดสินใจซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

1. 1. 1. ประวัติและความเป็นมาของ Fibonacci

Leonardo Fibonacci ไม่ได้เป็นคนแรกที่ค้นพบลำดับตัวเลขนี้ แต่เขาได้นำเสนอแนวคิดนี้ให้โลกตะวันตกได้รับรู้ผ่านหนังสือ Liber Abaci ในปี 1202 ลำดับ Fibonacci เริ่มต้นด้วย 0 และ 1 และตัวเลขถัดไปในลำดับคือผลรวมของตัวเลขสองตัวก่อนหน้า (0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, 55, 89, 144, ...)

สิ่งที่น่าสนใจคืออัตราส่วนระหว่างตัวเลขสองตัวที่อยู่ติดกันในลำดับ Fibonacci จะเข้าใกล้ค่าประมาณ 0.618 หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Golden Ratio” (อัตราส่วนทองคำ) มากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อตัวเลขมีขนาดใหญ่ขึ้น นอกจากนี้ อัตราส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับลำดับ Fibonacci เช่น 0.382 และ 0.236 ก็มีความสำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิคเช่นกัน

1. 1. 1. Fibonacci Retracement ในตลาดการเงิน

นักเทรดหลายคนเชื่อว่าลำดับ Fibonacci และอัตราส่วนทองคำมีความสัมพันธ์กับธรรมชาติและปรากฏในรูปแบบต่างๆ ในโลก รวมถึงตลาดการเงิน พวกเขาเชื่อว่าราคาของสินทรัพย์ต่างๆ จะเคลื่อนไหวตามรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับลำดับ Fibonacci และสามารถใช้ Fibonacci Retracement เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้

หลักการทำงานของ Fibonacci Retracement คือการวาดเส้นแนวตั้งจากจุดต่ำสุด (Swing Low) ไปยังจุดสูงสุด (Swing High) ของการเคลื่อนไหวของราคา หรือจากจุดสูงสุดไปยังจุดต่ำสุด แล้วเครื่องมือจะสร้างเส้นแนวนอนที่ระดับต่างๆ โดยอิงจากอัตราส่วน Fibonacci ที่สำคัญ ได้แก่:

• **23.6%:** ระดับนี้มักถูกมองว่าเป็นระดับการถดถอยที่อ่อนแอที่สุด
• **38.2%:** ระดับนี้ถือว่าเป็นระดับการถดถอยที่สำคัญ
• **50%:** แม้ว่าไม่ใช่ส่วนหนึ่งของลำดับ Fibonacci โดยตรง แต่ก็มักถูกรวมไว้ในเครื่องมือ Fibonacci Retracement เนื่องจากเป็นจุดกึ่งกลางของการเคลื่อนไหวของราคา
• **61.8%:** ระดับนี้ถือว่าเป็นระดับการถดถอยที่สำคัญที่สุด
• **78.6%:** ระดับนี้เป็นที่นิยมในหมู่ผู้เทรดบางราย และมักถูกใช้ร่วมกับระดับอื่นๆ

1. 1. 1. วิธีการใช้ Fibonacci Retracement ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น

ในการเทรด ไบนารี่ออปชั่น นักเทรดสามารถใช้ Fibonacci Retracement เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้ และใช้ระดับเหล่านี้เป็นจุดเข้าซื้อขาย

1. **ระบุแนวโน้ม:** ก่อนที่จะใช้ Fibonacci Retracement สิ่งสำคัญคือต้องระบุแนวโน้มของราคาก่อน หากราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ให้วาดเส้น Fibonacci Retracement จากจุดต่ำสุดไปยังจุดสูงสุด หากราคาอยู่ในแนวโน้มขาลง ให้วาดเส้นจากจุดสูงสุดไปยังจุดต่ำสุด 2. **ระบุระดับการถดถอย:** เมื่อวาดเส้น Fibonacci Retracement แล้ว เครื่องมือจะแสดงระดับการถดถอยต่างๆ ที่ 23.6%, 38.2%, 50%, 61.8% และ 78.6% 3. **รอการยืนยัน:** อย่าเข้าซื้อขายเพียงเพราะราคาเข้าใกล้ระดับ Fibonacci Retracement รอการยืนยันเพิ่มเติม เช่น รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns) หรือตัวบ่งชี้ทางเทคนิคอื่นๆ (MACD, RSI, Bollinger Bands) เพื่อยืนยันว่าระดับนั้นเป็นแนวรับหรือแนวต้านที่แข็งแกร่ง 4. **ตัดสินใจซื้อขาย:**

   *   **Call Option:** หากราคาถดถอยลงมาที่ระดับ Fibonacci Retracement และแสดงสัญญาณของการกลับตัวขึ้น (เช่น รูปแบบแท่งเทียน Bullish) ให้พิจารณาซื้อ Call Option
   *   **Put Option:** หากราคาดีดตัวขึ้นไปที่ระดับ Fibonacci Retracement และแสดงสัญญาณของการกลับตัวลง (เช่น รูปแบบแท่งเทียน Bearish) ให้พิจารณาซื้อ Put Option

1. 1. 1. ข้อดีและข้อเสียของ Fibonacci Retracement

• • ข้อดี:**

• **ใช้งานง่าย:** Fibonacci Retracement เป็นเครื่องมือที่ใช้งานง่ายและสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว
• **ระบุระดับแนวรับ/แนวต้าน:** ช่วยในการระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้
• **ใช้ได้กับทุก Timeframe:** สามารถใช้ได้กับทุก Timeframe ตั้งแต่กราฟรายวันไปจนถึงกราฟรายนาที
• **ใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ:** สามารถใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยำ

• • ข้อเสีย:**

• **ไม่ใช่เครื่องมือที่สมบูรณ์แบบ:** Fibonacci Retracement ไม่ใช่เครื่องมือที่สมบูรณ์แบบ และบางครั้งอาจให้สัญญาณที่ผิดพลาด
• **ต้องใช้การยืนยัน:** ต้องใช้การยืนยันเพิ่มเติมจากเครื่องมืออื่นๆ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ
• **การตีความที่เป็นอัตวิสัย:** การวาดเส้น Fibonacci Retracement อาจมีความเป็นอัตวิสัย และผู้เทรดแต่ละคนอาจตีความแตกต่างกัน

1. 1. 1. กลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นที่ใช้ Fibonacci Retracement

• **Fibonacci Pullback Strategy:** รอให้ราคามีการปรับฐาน (Pullback) ไปยังระดับ Fibonacci Retracement และเข้าซื้อขายเมื่อมีการกลับตัวตามแนวโน้มเดิม
• **Fibonacci Breakout Strategy:** รอให้ราคาทะลุระดับ Fibonacci Retracement และเข้าซื้อขายในทิศทางของการทะลุ
• **Fibonacci Confluence Strategy:** ใช้ Fibonacci Retracement ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น แนวรับแนวต้าน (Support and Resistance) หรือเส้นแนวโน้ม (Trend Lines) เพื่อหาจุดที่สัญญาณต่างๆ บรรจบกัน (Confluence) และเข้าซื้อขาย

1. 1. 1. ตัวอย่างการใช้งาน Fibonacci Retracement ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น

สมมติว่าราคาของสินทรัพย์หนึ่งมีการเคลื่อนไหวจาก 100 ไป 150 ในแนวโน้มขาขึ้น เราวาดเส้น Fibonacci Retracement จาก 100 ไป 150 ระดับ Fibonacci ที่สำคัญคือ:

• 23.6% = 126.4
• 38.2% = 111.8
• 50% = 100
• 61.8% = 88.2

หากราคาถดถอยลงมาที่ระดับ 38.2% (111.8) และแสดงรูปแบบแท่งเทียน Bullish เช่น Hammer หรือ Engulfing Pattern เราอาจพิจารณาซื้อ Call Option โดยคาดหวังว่าราคาจะกลับตัวขึ้นไปต่อ

1. 1. 1. การรวม Fibonacci Retracement กับการวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ

เพื่อให้การวิเคราะห์มีความแม่นยำยิ่งขึ้น ควรใช้ Fibonacci Retracement ร่วมกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น:

• **แนวรับแนวต้าน (Support and Resistance):** มองหาระดับ Fibonacci ที่ตรงกับระดับแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญ
• **เส้นแนวโน้ม (Trend Lines):** วาดเส้นแนวโน้มเพื่อยืนยันแนวโน้มของราคา และใช้ระดับ Fibonacci เพื่อหาจุดเข้าซื้อขายที่แม่นยำยิ่งขึ้น
• **รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns):** ใช้รูปแบบแท่งเทียนเพื่อยืนยันสัญญาณการกลับตัวของราคาที่ระดับ Fibonacci
• **ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค (Technical Indicators):** ใช้ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค เช่น Moving Averages, MACD, RSI, Stochastic Oscillator เพื่อยืนยันสัญญาณการซื้อขาย

1. 1. 1. การจัดการความเสี่ยงในการเทรดด้วย Fibonacci Retracement

เช่นเดียวกับการเทรดรูปแบบอื่นๆ การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญในการเทรดด้วย Fibonacci Retracement:

• **กำหนด Stop-Loss:** ตั้งค่า Stop-Loss เพื่อจำกัดความเสี่ยงหากราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงกันข้ามกับที่คุณคาดการณ์
• **บริหารเงินทุน (Money Management):** อย่าเสี่ยงเงินทุนมากเกินไปในการซื้อขายแต่ละครั้ง
• **ใช้ Leverage อย่างระมัดระวัง:** หากใช้ Leverage ควรทำความเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด

1. 1. 1. สรุป

Fibonacci Retracement เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีประโยชน์ในการระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้ในตลาดการเงิน รวมถึงตลาด ไบนารี่ออปชั่น อย่างไรก็ตาม ไม่ควรใช้เครื่องมือนี้เพียงอย่างเดียว ควรใช้ร่วมกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ และการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร

ตัวอย่างระดับ Fibonacci Retracement

ระดับ Fibonacci ! คำอธิบาย	23.6%	ระดับการถดถอยที่อ่อนแอที่สุด มักใช้เป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าเทรด	38.2%	ระดับการถดถอยที่สำคัญ มักเป็นจุดที่ราคามีการหยุดพัก	50%	จุดกึ่งกลางของการเคลื่อนไหวของราคา ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของลำดับ Fibonacci แต่ก็มีความสำคัญ	61.8%	ระดับการถดถอยที่สำคัญที่สุด มักเป็นจุดที่ราคามีการกลับตัว	78.6%	ระดับที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้เทรดบางราย มักใช้ร่วมกับระดับอื่นๆ

การวิเคราะห์ทางเทคนิค | แนวโน้มของตลาด | รูปแบบแท่งเทียน | ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค | การจัดการความเสี่ยง | กลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่น | MACD | RSI | Bollinger Bands | Moving Averages | Stochastic Oscillator | Support and Resistance | Trend Lines | Fibonacci Extension | Elliott Wave Theory | Harmonic Patterns | Trading Volume Analysis | Candlestick Patterns | Binary Options Trading Strategies | Forex Trading

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น