Investopedia - Butterfly Chart Pattern
- Investopedia – รูปแบบผีเสื้อ (Butterfly Chart Pattern)
รูปแบบผีเสื้อ (Butterfly Chart Pattern) เป็นรูปแบบการกลับตัวของแนวโน้มที่พบได้บ่อยในการวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์ทางเทคนิค ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในช่วงท้ายของแนวโน้มที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มขาขึ้น แนวโน้มขาขึ้น หรือแนวโน้มขาลง แนวโน้มขาลง รูปแบบนี้มีความคล้ายคลึงกับรูปแบบ Double Top/Bottom Double Top และ Double Bottom แต่มีความซับซ้อนกว่าเล็กน้อย และมักจะให้สัญญาณที่น่าเชื่อถือมากขึ้นหากได้รับการยืนยันอย่างถูกต้อง บทความนี้จะนำเสนอรายละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบผีเสื้อ รวมถึงวิธีการระบุ การตีความ และวิธีการนำไปใช้ในการซื้อขาย การซื้อขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของ ไบนารี่ออปชั่น
- ความหมายของรูปแบบผีเสื้อ
รูปแบบผีเสื้อได้รับชื่อมาจากรูปร่างที่คล้ายกับผีเสื้อที่กำลังบินอยู่ รูปแบบนี้ประกอบด้วยสี่จุดสำคัญ (swing highs และ swing lows) ที่เกิดขึ้นตามลำดับ ดังนี้:
1. **จุดเริ่มต้น:** เริ่มต้นด้วยการเคลื่อนไหวของราคาในทิศทางหนึ่ง (ขึ้นหรือลง) 2. **จุดที่สอง:** ราคาเคลื่อนที่สวนทางกับทิศทางเดิม แต่ไม่ไกลเท่าจุดเริ่มต้น 3. **จุดที่สาม:** ราคาเคลื่อนที่กลับไปยังทิศทางเดิม และทะลุจุดเริ่มต้นขึ้นไป (ในกรณีขาขึ้น) หรือลงมา (ในกรณีขาลง) 4. **จุดที่สี่:** ราคาเคลื่อนที่สวนทางกับทิศทางล่าสุด และกลับมาใกล้เคียงกับจุดที่สอง
ลักษณะสำคัญของรูปแบบผีเสื้อคือ การที่จุดที่สาม (จุดสูงสุดหรือต่ำสุดที่ทะลุ) มีความโดดเด่นและมักจะมาพร้อมกับ ปริมาณการซื้อขาย ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของแนวโน้มเดิมก่อนที่จะมีการกลับตัว
- การระบุรูปแบบผีเสื้อ
การระบุรูปแบบผีเสื้อให้ถูกต้องนั้นต้องอาศัยความละเอียดและประสบการณ์ในการอ่านกราฟ การสังเกตลักษณะสำคัญดังต่อไปนี้จะช่วยให้คุณสามารถระบุรูปแบบนี้ได้อย่างแม่นยำ:
- **สี่จุดสำคัญ:** มองหาการก่อตัวของสี่จุดสำคัญตามลำดับที่กล่าวมาข้างต้น
- **ความสมมาตร:** แม้จะไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ แต่รูปแบบผีเสื้อที่ดีมักจะมีความสมมาตรในแง่ของระยะทางระหว่างจุดต่างๆ
- **ปริมาณการซื้อขาย:** สังเกตปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ราคาทะลุจุดเริ่มต้น (จุดที่สาม) และลดลงในช่วงที่ราคากลับตัว (จุดที่สี่)
- **แนวรับ/แนวต้าน:** พิจารณาตำแหน่งของแนวรับ แนวรับ และแนวต้าน แนวต้าน ที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบผีเสื้อ แนวรับและแนวต้านเหล่านี้สามารถช่วยยืนยันความถูกต้องของรูปแบบได้
- รูปแบบผีเสื้อขาขึ้น (Bullish Butterfly)
รูปแบบผีเสื้อขาขึ้นเกิดขึ้นในช่วงแนวโน้มขาลง และเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้มไปเป็นขาขึ้น รูปแบบนี้จะประกอบด้วย:
1. **จุดเริ่มต้น:** จุดต่ำสุดที่ 1 (Low 1) 2. **จุดที่สอง:** จุดสูงสุดที่ 1 (High 1) ซึ่งสูงกว่า Low 1 3. **จุดที่สาม:** จุดต่ำสุดที่ 2 (Low 2) ซึ่งต่ำกว่า Low 1 4. **จุดที่สี่:** จุดสูงสุดที่ 2 (High 2) ซึ่งสูงกว่า High 1 และ Low 2
การยืนยันรูปแบบผีเสื้อขาขึ้นมักจะเกิดขึ้นเมื่อราคาทะลุแนวต้านที่เกิดจาก High 2 ขึ้นไป และมาพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น
- รูปแบบผีเสื้อขาลง (Bearish Butterfly)
รูปแบบผีเสื้อขาลงเกิดขึ้นในช่วงแนวโน้มขาขึ้น และเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้มไปเป็นขาลง รูปแบบนี้จะประกอบด้วย:
1. **จุดเริ่มต้น:** จุดสูงสุดที่ 1 (High 1) 2. **จุดที่สอง:** จุดต่ำสุดที่ 1 (Low 1) ซึ่งต่ำกว่า High 1 3. **จุดที่สาม:** จุดสูงสุดที่ 2 (High 2) ซึ่งสูงกว่า High 1 4. **จุดที่สี่:** จุดต่ำสุดที่ 2 (Low 2) ซึ่งต่ำกว่า Low 1 และ High 2
การยืนยันรูปแบบผีเสื้อขาลงมักจะเกิดขึ้นเมื่อราคาทะลุแนวรับที่เกิดจาก Low 2 ลงไป และมาพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น
- การนำรูปแบบผีเสื้อไปใช้ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น
รูปแบบผีเสื้อสามารถนำไปใช้ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่ยอมรับได้และกลยุทธ์การซื้อขายส่วนบุคคล:
- **การซื้อ Call Option (ในกรณีผีเสื้อขาขึ้น):** เมื่อรูปแบบผีเสื้อขาขึ้นได้รับการยืนยัน (ราคาทะลุแนวต้าน High 2) ให้ซื้อ Call Option โดยมีราคาเป้าหมายที่สูงกว่า High 2
- **การซื้อ Put Option (ในกรณีผีเสื้อขาลง):** เมื่อรูปแบบผีเสื้อขาลงได้รับการยืนยัน (ราคาทะลุแนวรับ Low 2) ให้ซื้อ Put Option โดยมีราคาเป้าหมายที่ต่ำกว่า Low 2
- **การใช้ Stop Loss:** กำหนดจุด Stop Loss เพื่อจำกัดความเสี่ยงในกรณีที่รูปแบบไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้
- **การพิจารณา Time Frame:** รูปแบบผีเสื้อสามารถเกิดขึ้นได้ในทุก Time Frame แต่ Time Frame ที่ใหญ่ขึ้นมักจะให้สัญญาณที่น่าเชื่อถือมากกว่า
- ข้อควรระวังในการใช้รูปแบบผีเสื้อ
แม้ว่ารูปแบบผีเสื้อจะเป็นรูปแบบการกลับตัวที่น่าเชื่อถือ แต่ก็มีข้อควรระวังบางประการที่ควรพิจารณา:
- **สัญญาณหลอก (False Signals):** รูปแบบผีเสื้ออาจเกิดสัญญาณหลอกได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่มีความผันผวนสูง
- **การยืนยัน:** การยืนยันรูปแบบเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง อย่ารีบตัดสินใจซื้อขายจนกว่าจะได้รับการยืนยันจากปัจจัยอื่นๆ เช่น ปริมาณการซื้อขาย หรือตัวชี้วัดทางเทคนิค ตัวชี้วัดทางเทคนิค
- **การบริหารความเสี่ยง:** การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญเสมอ ไม่ว่าคุณจะใช้รูปแบบการวิเคราะห์ทางเทคนิคใดก็ตาม
- ตัวอย่างตารางสรุปรูปแบบผีเสื้อ
| รูปแบบ | ลักษณะ | การยืนยัน | การซื้อขายในไบนารี่ออปชั่น |
|---|---|---|---|
| ผีเสื้อขาขึ้น (Bullish Butterfly) | Low 1 -> High 1 -> Low 2 -> High 2 (High 2 > High 1) | ราคาทะลุ High 2 พร้อมปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น | ซื้อ Call Option |
| ผีเสื้อขาลง (Bearish Butterfly) | High 1 -> Low 1 -> High 2 -> Low 2 (Low 2 < Low 1) | ราคาทะลุ Low 2 พร้อมปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น | ซื้อ Put Option |
- กลยุทธ์และแนวคิดที่เกี่ยวข้อง
- Fibonacci Retracement: สามารถใช้เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบผีเสื้อ
- Moving Averages: สามารถใช้เพื่อยืนยันแนวโน้มและกรองสัญญาณหลอก
- Relative Strength Index (RSI): สามารถใช้เพื่อวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้มและระบุภาวะซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป
- MACD: สามารถใช้เพื่อยืนยันการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม
- Bollinger Bands: สามารถใช้เพื่อวัดความผันผวนของราคาและระบุจุดกลับตัวที่อาจเกิดขึ้น
- Japanese Candlestick Patterns: การรวมรูปแบบแท่งเทียนเข้ากับรูปแบบผีเสื้อสามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือของสัญญาณได้
- Support and Resistance Levels: การระบุแนวรับและแนวต้านที่สำคัญเป็นสิ่งสำคัญในการยืนยันรูปแบบผีเสื้อ
- Trend Lines: การวาดเส้นแนวโน้มสามารถช่วยระบุทิศทางของแนวโน้มและยืนยันรูปแบบผีเสื้อ
- Volume Analysis: การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายสามารถช่วยยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้มและกรองสัญญาณหลอก
- Price Action Trading: การสังเกตการเคลื่อนไหวของราคาโดยตรงสามารถช่วยระบุรูปแบบผีเสื้อได้
- Swing Trading: รูปแบบผีเสื้อเหมาะสำหรับการซื้อขายแบบ Swing Trading ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มในระยะสั้น
- Day Trading: รูปแบบผีเสื้อสามารถใช้ในการซื้อขายแบบ Day Trading ได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเนื่องจากความผันผวนของราคาสูง
- Scalping: รูปแบบผีเสื้อไม่ค่อยเหมาะสำหรับการ Scalping เนื่องจากต้องใช้เวลาในการก่อตัวและยืนยัน
- Risk Management: การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้รูปแบบผีเสื้อ
- บทสรุป
รูปแบบผีเสื้อเป็นรูปแบบการกลับตัวของแนวโน้มที่มีประโยชน์สำหรับนักเทรดไบนารี่ออปชั่น การทำความเข้าใจลักษณะสำคัญ การระบุรูปแบบ และการนำไปใช้ในการซื้อขายอย่างถูกต้องจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไร อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าไม่มีรูปแบบใดที่สามารถรับประกันผลกำไรได้ และการบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญเสมอ การวิเคราะห์ทางเทคนิค ไบนารี่ออปชั่น แนวโน้มขาขึ้น แนวโน้มขาลง Double Top Double Bottom ปริมาณการซื้อขาย ตัวชี้วัดทางเทคนิค Fibonacci Retracement Moving Averages Relative Strength Index (RSI) MACD Bollinger Bands Japanese Candlestick Patterns Support and Resistance Levels Trend Lines Volume Analysis Price Action Trading Swing Trading Day Trading Risk Management แนวรับ แนวต้าน
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
