GRIDERS

1. 1. G R I D E R S: กลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นแบบอัตโนมัติที่เข้าใจง่าย

บทความนี้จะนำเสนอความรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นที่เรียกว่า “GRIDERS” ซึ่งเป็นระบบที่ได้รับความนิยมในกลุ่มนักเทรดที่ต้องการสร้างรายได้แบบ Passive Income จากตลาดไบนารี่ออปชั่น โดยจะอธิบายหลักการทำงาน ความเสี่ยง ข้อดีข้อเสีย และวิธีการใช้งานอย่างละเอียด เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการทำความเข้าใจและนำไปประยุกต์ใช้

G R I D E R S คืออะไร?

GRIDERS เป็นตัวย่อที่มาจาก “Grid and Reinvest System” ซึ่งเป็นกลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นที่ใช้หลักการของการวางคำสั่งซื้อขาย (Trade) เป็น “Grid” หรือตาราง โดยจะแบ่งช่วงราคาออกเป็นช่วงย่อยๆ และวางคำสั่งซื้อขายในแต่ละช่วงราคา เมื่อราคาเคลื่อนที่ไปถึงจุดที่กำหนด คำสั่งซื้อขายจะถูกเปิด และเมื่อผลลัพธ์ออกมา (ชนะหรือแพ้) เงินทุนจะถูกนำไป Reinvest เพื่อวางคำสั่งซื้อขายใหม่ใน Grid เดิม หรือปรับขนาดของ Grid ให้เหมาะสมกับสถานการณ์

แนวคิดหลักของ GRIDERS คือการใช้ประโยชน์จากความผันผวนของราคา (Volatility) ในตลาด โดยไม่จำเป็นต้องคาดการณ์ทิศทางของราคาที่ถูกต้องเสมอไป แต่เน้นการทำกำไรจากความผันผวนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง กลยุทธ์นี้เหมาะกับการเทรดในตลาดที่มีแนวโน้ม Sideways หรือไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจน

หลักการทำงานของ GRIDERS

การทำงานของ GRIDERS สามารถแบ่งออกเป็นขั้นตอนหลักๆ ดังนี้:

1. **การกำหนด Grid:** ผู้เทรดจะต้องกำหนดขนาดของ Grid (จำนวนช่วงราคา) และระยะห่างระหว่างแต่ละช่วงราคา ระยะห่างนี้จะขึ้นอยู่กับความผันผวนของสินทรัพย์ที่เทรด และระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ยิ่งระยะห่างน้อย Grid จะยิ่งละเอียดและไวต่อการเปลี่ยนแปลงของราคา แต่ก็มีความเสี่ยงสูงขึ้น 2. **การวางคำสั่งซื้อขาย:** วางคำสั่งซื้อขาย (Call หรือ Put) ในแต่ละช่วงราคาของ Grid โดยปกติจะวางคำสั่งซื้อขายทั้ง Call และ Put เพื่อให้สามารถทำกำไรได้ไม่ว่าราคาจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางใด 3. **การ Reinvest:** เมื่อคำสั่งซื้อขายใดคำสั่งหนึ่งชนะ เงินรางวัลที่ได้จะถูกนำไป Reinvest เพื่อวางคำสั่งซื้อขายใหม่ใน Grid เดิม โดยอาจจะเพิ่มขนาดของคำสั่งซื้อขายเพื่อให้ได้กำไรมากขึ้น หรือคงขนาดเดิมไว้เพื่อลดความเสี่ยง 4. **การปรับ Grid:** เมื่อราคาเคลื่อนที่ไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างต่อเนื่อง อาจจำเป็นต้องปรับขนาดของ Grid เพื่อให้ครอบคลุมช่วงราคาที่กว้างขึ้น หรือปรับระยะห่างระหว่างแต่ละช่วงราคาให้เหมาะสมกับสถานการณ์

ตัวอย่างการใช้งาน GRIDERS

สมมติว่าเราต้องการเทรดคู่เงิน EUR/USD โดยใช้ GRIDERS และกำหนดค่าดังนี้:

• **สินทรัพย์:** EUR/USD
• **ระยะเวลา:** 5 นาที
• **จำนวน Grid:** 5
• **ระยะห่างระหว่าง Grid:** 10 Pips
• **เงินลงทุนเริ่มต้น:** 100 USD
• **ขนาดคำสั่งซื้อขาย:** 10 USD (1% ของเงินลงทุน)

หากราคา EUR/USD อยู่ที่ 1.1000 เราจะวางคำสั่งซื้อขายดังนี้:

• Grid 1: Call ที่ 1.1010
• Grid 2: Put ที่ 1.0990
• Grid 3: Call ที่ 1.1020
• Grid 4: Put ที่ 1.0980
• Grid 5: Call ที่ 1.1030

เมื่อราคา EUR/USD เคลื่อนที่ไปถึง 1.1010 คำสั่งซื้อขาย Call ที่ Grid 1 จะถูกเปิด หากราคาขึ้นไปและหมดอายุเป็น Call (ชนะ) เราจะได้กำไรตามอัตราการจ่ายที่กำหนดไว้ (เช่น 80%) จากนั้นเราจะนำเงินรางวัล (8 USD) มา Reinvest เพื่อวางคำสั่งซื้อขาย Call ที่ Grid 1 อีกครั้ง หรือเพิ่มขนาดคำสั่งซื้อขายเป็น 11 USD

หากราคา EUR/USD เคลื่อนที่ไปถึง 1.0990 คำสั่งซื้อขาย Put ที่ Grid 2 จะถูกเปิด หากราคาลงและหมดอายุเป็น Put (ชนะ) เราจะได้กำไรตามอัตราการจ่ายที่กำหนดไว้ จากนั้นเราจะนำเงินรางวัลมา Reinvest หรือเพิ่มขนาดคำสั่งซื้อขาย

ข้อดีของ GRIDERS

• **สร้างรายได้แบบ Passive Income:** GRIDERS สามารถทำงานได้โดยอัตโนมัติ ทำให้ผู้เทรดไม่ต้องนั่งเฝ้าหน้าจอตลอดเวลา
• **ลดความเสี่ยงจากการคาดการณ์ทิศทางราคา:** ไม่จำเป็นต้องคาดการณ์ทิศทางของราคาที่ถูกต้องเสมอไป แต่เน้นการทำกำไรจากความผันผวน
• **เหมาะกับตลาด Sideways:** GRIDERS ทำงานได้ดีในตลาดที่ไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจน
• **สามารถปรับแต่งได้:** ผู้เทรดสามารถปรับแต่งค่าต่างๆ เช่น จำนวน Grid ระยะห่างระหว่าง Grid และขนาดคำสั่งซื้อขาย ให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

ข้อเสียของ GRIDERS

• **ต้องใช้เงินทุนจำนวนหนึ่ง:** การวางคำสั่งซื้อขายในหลาย Grid จำเป็นต้องใช้เงินทุนจำนวนหนึ่ง
• **ความเสี่ยงจากการ Drawdown:** หากราคาเคลื่อนที่ไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้เกิด Drawdown (การขาดทุน) ได้
• **ต้องมีการติดตามและปรับปรุง:** แม้ว่า GRIDERS จะทำงานได้โดยอัตโนมัติ แต่ผู้เทรดก็ต้องมีการติดตามและปรับปรุงค่าต่างๆ ให้เหมาะสมกับสถานการณ์อยู่เสมอ
• **ไม่ใช่ระบบที่ได้กำไร 100%:** ไม่มีระบบการเทรดใดที่สามารถรับประกันผลกำไรได้ 100% GRIDERS ก็เช่นกัน

การจัดการความเสี่ยงในการใช้ GRIDERS

การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการใช้ GRIDERS เพื่อป้องกันการขาดทุนที่เกินกว่าที่ยอมรับได้ ต่อไปนี้เป็นแนวทางในการจัดการความเสี่ยง:

• **กำหนดขนาดคำสั่งซื้อขายที่เหมาะสม:** ไม่ควรลงทุนเกิน 1-2% ของเงินทุนทั้งหมดในแต่ละคำสั่งซื้อขาย
• **ใช้ Stop Loss:** แม้ว่า GRIDERS จะไม่ได้ใช้ Stop Loss แบบดั้งเดิม แต่ผู้เทรดสามารถกำหนดจุดที่ยอมรับการขาดทุนสูงสุดได้ และเมื่อราคาเคลื่อนที่ไปถึงจุดนั้น ให้หยุดการเทรด
• **Diversification:** กระจายความเสี่ยงโดยการเทรดในสินทรัพย์หลายประเภท
• **ติดตามผลการเทรดอย่างสม่ำเสมอ:** วิเคราะห์ผลการเทรดเพื่อปรับปรุงกลยุทธ์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
• **เลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ:** เลือกโบรกเกอร์ที่มีความมั่นคงทางการเงิน และมีระบบการจ่ายเงินที่รวดเร็วและโปร่งใส

การเลือกโบรกเกอร์สำหรับ GRIDERS

การเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการเทรดไบนารี่ออปชั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้กลยุทธ์ GRIDERS สิ่งที่ควรพิจารณาในการเลือกโบรกเกอร์ ได้แก่:

• **อัตราการจ่าย:** เลือกโบรกเกอร์ที่ให้อัตราการจ่ายที่สูง
• **สินทรัพย์ที่เทรดได้:** ตรวจสอบว่าโบรกเกอร์มีสินทรัพย์ที่ต้องการเทรดให้เลือกหรือไม่
• **ระยะเวลาการหมดอายุ:** เลือกโบรกเกอร์ที่มีระยะเวลาการหมดอายุที่หลากหลาย
• **แพลตฟอร์มการเทรด:** เลือกโบรกเกอร์ที่มีแพลตฟอร์มการเทรดที่ใช้งานง่าย และมีเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิค
• **การบริการลูกค้า:** เลือกโบรกเกอร์ที่มีการบริการลูกค้าที่ดี และสามารถติดต่อได้ง่าย

เครื่องมือและทรัพยากรเพิ่มเติม

• **การวิเคราะห์ทางเทคนิค:** การวิเคราะห์ทางเทคนิค เป็นเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์ตลาดและหาจุดเข้าซื้อขาย
• **การวิเคราะห์พื้นฐาน:** การวิเคราะห์พื้นฐาน ช่วยให้เข้าใจปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาของสินทรัพย์
• **ข่าวสารเศรษฐกิจ:** ข่าวสารเศรษฐกิจ สามารถส่งผลกระทบต่อตลาดไบนารี่ออปชั่นอย่างมาก
• **การบริหารเงินทุน:** การบริหารเงินทุน เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาเงินทุนและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
• **Bollinger Bands:** Bollinger Bands เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวัดความผันผวนของราคา
• **Moving Averages:** Moving Averages เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการระบุแนวโน้มของราคา
• **Fibonacci Retracement:** Fibonacci Retracement เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการหาจุดกลับตัวของราคา
• **RSI (Relative Strength Index):** RSI เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้มราคา
• **MACD (Moving Average Convergence Divergence):** MACD เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการระบุสัญญาณซื้อขาย
• **การใช้ Expert Advisor (EA):** Expert Advisor สามารถช่วยในการดำเนินการเทรดอัตโนมัติ
• **กลยุทธ์ Martingale:** กลยุทธ์ Martingale เป็นกลยุทธ์การเพิ่มขนาดคำสั่งซื้อขายหลังจากการแพ้
• **กลยุทธ์ Anti-Martingale:** กลยุทธ์ Anti-Martingale เป็นกลยุทธ์การลดขนาดคำสั่งซื้อขายหลังจากการชนะ
• **กลยุทธ์ Hedging:** กลยุทธ์ Hedging เป็นกลยุทธ์การลดความเสี่ยงโดยการเปิดสถานะที่ตรงกันข้าม
• **การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis):** การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย ช่วยให้เข้าใจแรงซื้อขายในตลาด
• **Price Action Trading:** Price Action Trading เป็นการเทรดโดยดูจากรูปแบบราคาที่เกิดขึ้น

สรุป

GRIDERS เป็นกลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นที่น่าสนใจสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการสร้างรายได้แบบ Passive Income อย่างไรก็ตาม การใช้ GRIDERS ก็มีความเสี่ยงที่ต้องระมัดระวัง ผู้เทรดควรศึกษาหลักการทำงานของ GRIDERS อย่างละเอียด และมีการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงในการขาดทุน

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น