Future Contract

1. Future Contract

สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Future Contract) คือข้อตกลงระหว่างสองฝ่ายในการซื้อหรือขายสินทรัพย์ในวันที่กำหนดในอนาคต ในราคาที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้า สัญญาเหล่านี้มีการซื้อขายในตลาดซื้อขายล่วงหน้า (Futures Exchange) ซึ่งเป็นตลาดที่มีการควบคุมและกำกับดูแลโดยหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงิน สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็นเครื่องมือทางการเงินที่สำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการป้องกันความเสี่ยง (Hedging) หรือเก็งกำไร (Speculation) จากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์

ประวัติความเป็นมาของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

รากฐานของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสามารถย้อนกลับไปได้ถึงสมัยโบราณ โดยเริ่มจากการตกลงซื้อขายผลผลิตทางการเกษตรในอนาคตระหว่างเกษตรกรและผู้ซื้อ ในสมัยก่อน สิ่งเหล่านี้มักเป็นข้อตกลงแบบปากเปล่าที่ไม่มีการรับประกันความถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ตลาดซื้อขายล่วงหน้าเริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นในสหรัฐอเมริกา โดยเริ่มจากการซื้อขายข้าวโพดและข้าวสาลีในตลาด Chicago Board of Trade (CBOT) จุดประสงค์หลักในช่วงแรกคือการช่วยให้เกษตรกรและผู้แปรรูปสามารถจัดการความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาได้

สินทรัพย์อ้างอิงในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าสามารถอ้างอิงกับสินทรัพย์ได้หลากหลายประเภท ได้แก่:

สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities): เช่น น้ำมันดิบ ทองคำ เงิน ข้าวโพด ข้าวสาลี กาแฟ น้ำตาล
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (Stock Indices): เช่น S&P 500, Nasdaq 100, Dow Jones Industrial Average
อัตราแลกเปลี่ยน (Currency): เช่น EUR/USD, GBP/USD, USD/JPY
อัตราดอกเบี้ย (Interest Rates): เช่น พันธบัตรรัฐบาล
คริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrencies): เช่น Bitcoin, Ethereum (แม้ว่าตลาดนี้จะใหม่กว่าและมีความผันผวนสูงกว่า)

โครงสร้างของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

สัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีองค์ประกอบหลักดังนี้:

ราคาซื้อขายล่วงหน้า (Future Price): ราคาที่ตกลงกันไว้ในการซื้อหรือขายสินทรัพย์ในวันที่กำหนด
วันที่หมดอายุ (Expiration Date): วันที่สัญญาหมดอายุและต้องทำการชำระหนี้ (Settlement)
ขนาดสัญญา (Contract Size): ปริมาณสินทรัพย์ที่ระบุในสัญญาแต่ละฉบับ (เช่น 1 สัญญาอาจหมายถึง 5,000 บาร์เรลของน้ำมันดิบ)
หน่วยการซื้อขายขั้นต่ำ (Tick Size): การเปลี่ยนแปลงราคาขั้นต่ำที่สามารถเกิดขึ้นได้ (เช่น 0.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล)
หลักประกัน (Margin): เงินจำนวนหนึ่งที่ผู้ซื้อและผู้ขายต้องฝากไว้กับโบรกเกอร์เพื่อเป็นหลักประกันความเสี่ยง หลักประกันนี้ไม่ได้เป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อขาย แต่เป็นเงินประกันความเสี่ยงหากราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อผู้ถือสัญญา

กลไกการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

การซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าจะเกิดขึ้นในตลาดซื้อขายล่วงหน้า ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถทำการซื้อขายผ่านโบรกเกอร์ ตลาดซื้อขายล่วงหน้าจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการจับคู่คำสั่งซื้อและคำสั่งขาย ราคาของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าจะถูกกำหนดโดยอุปสงค์และอุปทาน เมื่อมีผู้ต้องการซื้อมากกว่าผู้ต้องการขาย ราคาก็จะสูงขึ้น ในทางกลับกัน เมื่อมีผู้ต้องการขายมากกว่าผู้ต้องการซื้อ ราคาก็จะลดลง

การชำระหนี้สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Settlement)

เมื่อถึงวันที่หมดอายุ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าจะต้องทำการชำระหนี้ การชำระหนี้สามารถทำได้สองวิธีหลัก:

การชำระหนี้ด้วยเงินสด (Cash Settlement): ผู้ถือสัญญาจะได้รับหรือจ่ายเงินตามส่วนต่างระหว่างราคาซื้อขายล่วงหน้าและราคาตลาด ณ วันที่หมดอายุ วิธีนี้มักใช้กับดัชนีตลาดหลักทรัพย์และอัตราแลกเปลี่ยน
การชำระหนี้ด้วยการส่งมอบสินทรัพย์ (Physical Delivery): ผู้ขายจะต้องส่งมอบสินทรัพย์ให้กับผู้ซื้อตามเงื่อนไขที่ระบุในสัญญา วิธีนี้มักใช้กับสินค้าโภคภัณฑ์

การป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

การป้องกันความเสี่ยงคือการใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคา ตัวอย่างเช่น:

เกษตรกร (Farmer): เกษตรกรสามารถขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสำหรับผลผลิตทางการเกษตรของตน เพื่อล็อกราคาขายล่วงหน้าและป้องกันความเสี่ยงจากราคาที่ลดลง
สายการบิน (Airline): สายการบินสามารถซื้อสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ เพื่อล็อกราคาเชื้อเพลิงและป้องกันความเสี่ยงจากราคาที่สูงขึ้น
ผู้ผลิต (Manufacturer): ผู้ผลิตสามารถป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต

การเก็งกำไร (Speculation) ด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

การเก็งกำไรคือการใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อทำกำไรจากการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของราคา ผู้เก็งกำไรจะซื้อสัญญาหากคาดว่าราคาจะสูงขึ้น และขายสัญญาหากคาดว่าราคาจะลดลง การเก็งกำไรมีความเสี่ยงสูง แต่ก็มีโอกาสทำกำไรสูงเช่นกัน

ความเสี่ยงในการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

การซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีความเสี่ยงหลายประการที่ผู้ซื้อขายควรตระหนักถึง:

ความเสี่ยงด้านราคา (Price Risk): ราคาของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วและคาดเดาไม่ได้
ความเสี่ยงด้านเลเวอเรจ (Leverage Risk): สัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีเลเวอเรจสูง ซึ่งหมายความว่าผู้ซื้อขายสามารถควบคุมสินทรัพย์จำนวนมากได้ด้วยเงินทุนเพียงเล็กน้อย แม้ว่าเลเวอเรจจะสามารถเพิ่มผลกำไรได้ แต่ก็สามารถเพิ่มการขาดทุนได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน
ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง (Liquidity Risk): บางสัญญาซื้อขายล่วงหน้าอาจมีสภาพคล่องต่ำ ซึ่งหมายความว่าอาจยากต่อการซื้อหรือขายสัญญาในราคาที่ต้องการ
ความเสี่ยงด้านการผิดนัด (Default Risk): มีความเสี่ยงที่คู่สัญญาจะไม่สามารถปฏิบัติตามข้อผูกพันในสัญญาได้

การวิเคราะห์สัญญาซื้อขายล่วงหน้า

การวิเคราะห์สัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีความซับซ้อนและต้องใช้ความรู้และความเชี่ยวชาญ ผู้ซื้อขายสามารถใช้เครื่องมือและเทคนิคต่างๆ ในการวิเคราะห์สัญญาซื้อขายล่วงหน้า ได้แก่:

การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis): การวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์และอุปทานของสินทรัพย์อ้างอิง เช่น สภาพอากาศ เศรษฐกิจ และนโยบายรัฐบาล
การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis): การวิเคราะห์รูปแบบราคาและปริมาณการซื้อขายเพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns), เส้นแนวโน้ม (Trend Lines), ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) และ ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (Relative Strength Index - RSI) เป็นเครื่องมือที่ใช้กันทั่วไป
การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis): การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายเพื่อยืนยันแนวโน้มและระบุสัญญาณการกลับตัว
การวิเคราะห์ Sentiment (Sentiment Analysis): การวัดความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อตลาด

กลยุทธ์การซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

มีกลยุทธ์การซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามากมายที่ผู้ซื้อขายสามารถใช้ได้ ตัวอย่างเช่น:

Trend Following: การซื้อเมื่อราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น และขายเมื่อราคาอยู่ในแนวโน้มขาลง การ Breakout Trading และ การใช้ Moving Average Crossover เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์นี้
Mean Reversion: การซื้อเมื่อราคาต่ำกว่าค่าเฉลี่ย และขายเมื่อราคาสูงกว่าค่าเฉลี่ย Bollinger Bands เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการระบุภาวะ Overbought และ Oversold
Scalping: การทำกำไรจากความแตกต่างของราคาเล็กน้อยในระยะเวลาสั้นๆ
Day Trading: การเปิดและปิดสถานะทั้งหมดภายในวันเดียวกัน
Swing Trading: การถือครองสถานะเป็นเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์
Spread Trading: การซื้อและขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสองฉบับที่เกี่ยวข้องเพื่อทำกำไรจากความแตกต่างของราคา

สัญญาซื้อขายล่วงหน้ากับไบนารี่ออปชั่น

แม้ว่าทั้งสัญญาซื้อขายล่วงหน้าและ ไบนารี่ออปชั่น (Binary Options) เป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีความเสี่ยง แต่ก็มีความแตกต่างกันอย่างมาก สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อขายทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคาในทิศทางใดก็ได้ ในขณะที่ไบนารี่ออปชั่นจำกัดให้ผู้ซื้อขายทำกำไรได้เฉพาะเมื่อคาดการณ์ทิศทางของราคาได้อย่างถูกต้องเท่านั้น นอกจากนี้ สัญญาซื้อขายล่วงหน้ายังมีความซับซ้อนมากกว่าและต้องใช้ความรู้และความเชี่ยวชาญมากกว่าในการซื้อขาย

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

Chicago Mercantile Exchange (CME): [[1]]
Intercontinental Exchange (ICE): [[2]]
Investopedia: [[3]]

ตัวอย่างสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
สินทรัพย์อ้างอิง	ขนาดสัญญา	หน่วยการซื้อขายขั้นต่ำ	วันที่หมดอายุ		น้ำมันดิบ WTI	1,000 บาร์เรล	$0.01 ต่อบาร์เรล	ทุกเดือน (ยกเว้นเดือนกุมภาพันธ์)	ทองคำ Comex	100 ออนซ์	$0.01 ต่อออนซ์	ทุกเดือน	S&P 500 E-mini	50 ดัชนี	0.25 จุดดัชนี	ทุกเดือน

ข้อควรจำ

การซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีความเสี่ยงสูง ผู้ซื้อขายควรศึกษาและทำความเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องก่อนทำการซื้อขาย ควรเริ่มต้นด้วยการซื้อขายในบัญชีทดลอง (Demo Account) เพื่อฝึกฝนและทดสอบกลยุทธ์ต่างๆ ก่อนที่จะลงทุนด้วยเงินจริง การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ควรตั้ง Stop-Loss เพื่อจำกัดการขาดทุน และไม่ควรลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถรับได้

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น