Forex Trading Strategies for Reversal Trading with Divergence

1. 1. Forex Trading Strategies for Reversal Trading with Divergence

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้เริ่มต้นในการซื้อขาย Forex โดยเน้นที่กลยุทธ์การซื้อขายแบบกลับตัว (Reversal Trading) โดยใช้การวิเคราะห์ความแตกต่าง (Divergence) เป็นเครื่องมือสำคัญ เราจะเจาะลึกถึงแนวคิดพื้นฐานของทั้งสองอย่าง วิธีการระบุสัญญาณ และวิธีการนำไปประยุกต์ใช้ในการซื้อขายจริง รวมถึงการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม

1. 1. 1. บทนำสู่การซื้อขาย Forex

Forex หรือ Foreign Exchange คือตลาดการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดและมีสภาพคล่องสูงที่สุดในโลก การซื้อขาย Forex เกี่ยวข้องกับการซื้อและขายสกุลเงินต่างๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อทำกำไรจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ซื้อขาย Forex หรือที่เรียกว่าเทรดเดอร์ สามารถซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์

1. 1. 1. กลยุทธ์การซื้อขายแบบกลับตัว (Reversal Trading)

การซื้อขายแบบกลับตัว คือกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงทิศทางของแนวโน้ม (Trend) เดิม กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่เชื่อว่าแนวโน้มปัจจุบันกำลังจะสิ้นสุดลงและมีการกลับตัวเกิดขึ้น การระบุสัญญาณการกลับตัวที่แม่นยำเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการใช้กลยุทธ์นี้ให้ประสบความสำเร็จ กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ Double Top/Bottom, Head and Shoulders, Triple Top/Bottom, และ Pin Bar Reversal.

1. 1. 1. การวิเคราะห์ความแตกต่าง (Divergence)

Divergence คือสถานการณ์ที่ราคาของสินทรัพย์และตัวบ่งชี้ทางเทคนิค (Technical Indicator) เคลื่อนที่ในทิศทางตรงกันข้าม ซึ่งบ่งชี้ถึงความอ่อนแอของแนวโน้มปัจจุบันและอาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวที่กำลังจะเกิดขึ้น มีสองประเภทหลักของ Divergence:

• **Regular Divergence:** เกิดขึ้นเมื่อราคาทำจุดสูงสุดใหม่ (Higher High) แต่ตัวบ่งชี้ทำจุดสูงสุดที่ต่ำกว่า (Lower High) หรือราคาทำจุดต่ำสุดใหม่ (Lower Low) แต่ตัวบ่งชี้ทำจุดต่ำสุดที่สูงกว่า (Higher Low).
• **Hidden Divergence:** เกิดขึ้นเมื่อราคาทำจุดสูงสุดที่ต่ำกว่า (Lower High) แต่ตัวบ่งชี้ทำจุดสูงสุดที่สูงกว่า (Higher High) หรือราคาทำจุดต่ำสุดที่สูงกว่า (Higher Low) แต่ตัวบ่งชี้ทำจุดต่ำสุดที่ต่ำกว่า (Lower Low). Hidden Divergence บ่งบอกถึงการต่อเนื่องของแนวโน้มเดิม

1. 1. 1. ตัวบ่งชี้ที่นิยมใช้ในการวิเคราะห์ Divergence

ตัวบ่งชี้หลายตัวสามารถนำมาใช้ในการวิเคราะห์ Divergence ได้ ตัวบ่งชี้ที่นิยม ได้แก่:

• **Relative Strength Index (RSI):** RSI เป็นตัวบ่งชี้โมเมนตัมที่วัดความเร็วและขนาดของการเปลี่ยนแปลงของราคา
• **Moving Average Convergence Divergence (MACD):** MACD เป็นตัวบ่งชี้ที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สองเส้น
• **Stochastic Oscillator:** Stochastic Oscillator เป็นตัวบ่งชี้โมเมนตัมที่เปรียบเทียบราคาปิดปัจจุบันกับช่วงราคาในช่วงเวลาที่กำหนด
• **Williams %R:** คล้ายกับ Stochastic Oscillator แต่มีการคำนวณที่แตกต่างกันเล็กน้อย
• **Commodity Channel Index (CCI):** CCI เป็นตัวบ่งชี้โมเมนตัมที่วัดระดับราคาปัจจุบันเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยทางสถิติ

1. 1. 1. การรวมกลยุทธ์ Reversal Trading กับ Divergence

การรวมกลยุทธ์การซื้อขายแบบกลับตัวเข้ากับการวิเคราะห์ Divergence สามารถเพิ่มความแม่นยำในการระบุสัญญาณการกลับตัวได้อย่างมาก ขั้นตอนโดยละเอียดมีดังนี้:

1. **ระบุแนวโน้ม:** เริ่มต้นด้วยการระบุแนวโน้มปัจจุบันของคู่สกุลเงิน ตัวอย่างเช่น แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) หรือแนวโน้มขาลง (Downtrend) สามารถใช้ Trend Lines, Moving Averages, หรือ Channel Trading เพื่อช่วยในการระบุแนวโน้ม 2. **เลือกตัวบ่งชี้:** เลือกตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่เหมาะสมสำหรับการวิเคราะห์ Divergence RSI, MACD, และ Stochastic Oscillator เป็นตัวเลือกที่นิยม 3. **มองหาสัญญาณ Divergence:** มองหาสัญญาณ Regular Divergence หรือ Hidden Divergence ระหว่างราคาและตัวบ่งชี้ที่เลือก 4. **ยืนยันสัญญาณ:** ยืนยันสัญญาณ Divergence ด้วยรูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns) หรือเครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ เช่น Fibonacci Retracement หรือ Support and Resistance Levels. 5. **เข้าสู่ตลาด:** เมื่อสัญญาณได้รับการยืนยัน ให้เข้าสู่ตลาดด้วยคำสั่งซื้อขายที่เหมาะสม

1. 1. 1. ตัวอย่างการซื้อขายด้วย Divergence และ Reversal Trading

สมมติว่าเรากำลังวิเคราะห์คู่สกุลเงิน EUR/USD และสังเกตเห็นแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง จากนั้นเราสังเกตเห็น Regular Divergence โดยที่ราคาทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ RSI ทำจุดสูงสุดที่ต่ำกว่า นี่เป็นสัญญาณเตือนว่าแนวโน้มขาขึ้นอาจกำลังจะสิ้นสุดลง

เรายังสังเกตเห็นรูปแบบ Bearish Engulfing Bearish Engulfing ซึ่งเป็นรูปแบบแท่งเทียนที่บ่งบอกถึงการกลับตัวที่เป็นไปได้ เมื่อสัญญาณ Divergence และรูปแบบแท่งเทียนได้รับการยืนยัน เราสามารถเข้าสู่ตลาดด้วยคำสั่งขาย (Sell Order) โดยตั้ง Stop Loss เหนือจุดสูงสุดล่าสุด และตั้ง Take Profit ที่ระดับ Support ที่สำคัญ

1. 1. 1. การบริหารความเสี่ยง (Risk Management)

การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการซื้อขาย Forex ไม่ว่าคุณจะใช้กลยุทธ์ใดก็ตาม หลักการสำคัญในการบริหารความเสี่ยง ได้แก่:

• **กำหนดขนาด Position:** กำหนดขนาด Position ที่เหมาะสม โดยพิจารณาจากความเสี่ยงที่คุณสามารถยอมรับได้ โดยทั่วไปแล้ว ไม่ควรเสี่ยงเกิน 1-2% ของเงินทุนทั้งหมดในการซื้อขายแต่ละครั้ง
• **ตั้ง Stop Loss:** ตั้ง Stop Loss เสมอเพื่อจำกัดความเสี่ยงหากราคาเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันข้ามกับที่คุณคาดการณ์ไว้
• **ใช้ Take Profit:** ใช้ Take Profit เพื่อล็อกกำไรเมื่อราคาถึงเป้าหมายของคุณ
• **อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk/Reward Ratio):** พยายามรักษาสัดส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่เหมาะสม โดยทั่วไปแล้ว ควรมีอัตราส่วนอย่างน้อย 1:2 หรือมากกว่า

1. 1. 1. กลยุทธ์เพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง

• **Elliott Wave Theory:** Elliott Wave Theory สามารถช่วยระบุรูปแบบการเคลื่อนที่ของราคาและคาดการณ์การกลับตัวของแนวโน้ม
• **Harmonic Patterns:** Harmonic Patterns เช่น Gartley, Butterfly, และ Crab สามารถช่วยระบุจุดกลับตัวที่แม่นยำ
• **Ichimoku Cloud:** Ichimoku Cloud เป็นเครื่องมือวิเคราะห์แนวโน้มที่สามารถช่วยระบุสัญญาณการกลับตัว
• **Price Action Trading:** Price Action Trading เป็นกลยุทธ์ที่เน้นการวิเคราะห์รูปแบบแท่งเทียนและรูปแบบราคาเพื่อคาดการณ์การเคลื่อนที่ของราคา
• **Scalping:** Scalping เป็นกลยุทธ์การซื้อขายระยะสั้นที่มุ่งเน้นการทำกำไรจากความผันผวนของราคาเล็กน้อย
• **Day Trading:** Day Trading เป็นกลยุทธ์การซื้อขายที่เปิดและปิด Position ภายในวันเดียวกัน

1. 1. 1. การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis)

การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายสามารถช่วยยืนยันสัญญาณ Divergence และ Reversal Trading ได้ หาก Divergence เกิดขึ้นพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่ลดลง อาจเป็นสัญญาณที่แข็งแกร่งของการกลับตัวที่กำลังจะเกิดขึ้น

ตัวอย่างสัญญาณ Divergence และการยืนยันด้วยปริมาณการซื้อขาย

สัญญาณ Divergence	การยืนยันด้วยปริมาณการซื้อขาย	ความน่าจะเป็นของการกลับตัว
Regular Bearish Divergence (ราคาทำ Higher High, RSI ทำ Lower High)	ปริมาณการซื้อขายลดลง	สูง
Regular Bullish Divergence (ราคาทำ Lower Low, RSI ทำ Higher Low)	ปริมาณการซื้อขายลดลง	สูง
Hidden Bearish Divergence (ราคาทำ Lower High, RSI ทำ Higher High)	ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น	ปานกลาง
Hidden Bullish Divergence (ราคาทำ Higher Low, RSI ทำ Lower Low)	ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น	ปานกลาง

1. 1. 1. ข้อควรระวัง

• Divergence ไม่ได้เป็นสัญญาณการันตีการกลับตัวเสมอไป อาจมีสัญญาณหลอก (False Signal) เกิดขึ้นได้
• การยืนยันสัญญาณด้วยเครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ และการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ
• การฝึกฝนและประสบการณ์เป็นสิ่งจำเป็นในการพัฒนาทักษะการซื้อขายด้วยกลยุทธ์นี้

1. 1. 1. สรุป

กลยุทธ์การซื้อขายแบบกลับตัวโดยใช้การวิเคราะห์ Divergence เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับเทรดเดอร์ Forex แต่ต้องใช้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้และการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ การรวมกลยุทธ์นี้เข้ากับการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงในการขาดทุน

Forex Brokers | Trading Psychology | Market Sentiment | Economic Calendar | News Trading | Binary Options

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น