Forex Trading Strategies for Day Trading with Candlestick Patterns

Forex Trading Strategies for Day Trading with Candlestick Patterns

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้เริ่มต้นเกี่ยวกับการใช้กลยุทธ์การซื้อขาย Forex แบบ Day Trading โดยอาศัยรูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns) ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) และการคาดการณ์แนวโน้มราคา การซื้อขาย Forex (Foreign Exchange) เป็นการซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างๆ ในตลาดการเงินทั่วโลก และ Day Trading คือการเปิดและปิดสถานะการซื้อขายทั้งหมดภายในวันเดียว เพื่อทำกำไรจากความผันผวนของราคาในระยะสั้น

ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ Forex และ Day Trading

ก่อนที่จะเจาะลึกเรื่องรูปแบบแท่งเทียน เรามาทำความเข้าใจพื้นฐานของ Forex และ Day Trading กันก่อน

Forex คืออะไร? Forex หรือ Foreign Exchange คือตลาดการเงินที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินมากที่สุดในโลก โดยมีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันมากกว่า 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตลาด Forex เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ ทำให้เป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนทั่วโลก
Day Trading คืออะไร? Day Trading คือกลยุทธ์การซื้อขายที่มุ่งเน้นการทำกำไรจากความผันผวนของราคาในระยะสั้น โดยผู้ที่ทำการ Day Trading จะเปิดและปิดสถานะการซื้อขายทั้งหมดภายในวันเดียว ไม่ถือข้ามคืน เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากข่าวสารที่ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างคืน
คู่สกุลเงิน (Currency Pairs) การซื้อขาย Forex จะเป็นการซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินเป็นคู่ เช่น EUR/USD (ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐฯ), GBP/JPY (ปอนด์สเตอร์ลิง/เยนญี่ปุ่น) เป็นต้น
Pips และ Leverage Pips (Percentage in Point) คือหน่วยวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาใน Forex และ Leverage คือการใช้เงินทุนจำนวนน้อยเพื่อควบคุมสถานะการซื้อขายที่มีมูลค่าสูงขึ้น ซึ่งสามารถเพิ่มผลกำไรหรือผลขาดทุนได้อย่างมาก การทำความเข้าใจเรื่อง [Leverage](https://www.investopedia.com/terms/l/leverage.asp) จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

ทำความเข้าใจรูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns)

แท่งเทียนเป็นเครื่องมือที่ใช้แสดงข้อมูลราคาของสินทรัพย์ในช่วงเวลาหนึ่ง โดยทั่วไปแล้ว แท่งเทียนประกอบด้วยส่วนประกอบหลักๆ ดังนี้:

Body (ลำตัว) แสดงความแตกต่างระหว่างราคาเปิด (Open) และราคาปิด (Close) หากราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด จะเป็นแท่งเทียนเขียว (Bullish) แสดงถึงแนวโน้มขาขึ้น หากราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด จะเป็นแท่งเทียนแดง (Bearish) แสดงถึงแนวโน้มขาลง
Wicks/Shadows (ไส้/เงา) แสดงช่วงราคาสูงสุด (High) และราคาต่ำสุด (Low) ในช่วงเวลาที่กำหนด

รูปแบบแท่งเทียนต่างๆ เกิดจากการรวมตัวของแท่งเทียนหลายแท่ง ซึ่งแต่ละรูปแบบมีความหมายและสามารถใช้ในการคาดการณ์แนวโน้มราคาได้

รูปแบบแท่งเทียนที่สำคัญสำหรับ Day Trading

มีรูปแบบแท่งเทียนมากมายที่นักเทรด Forex ใช้ในการวิเคราะห์ตลาด ต่อไปนี้เป็นรูปแบบที่สำคัญและนิยมใช้กันในการ Day Trading:

Doji (โดจิ) เกิดขึ้นเมื่อราคาเปิดและราคาปิดใกล้เคียงกัน แสดงถึงความไม่แน่นอนในตลาด และอาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวของแนวโน้ม
Hammer (ค้อน) เกิดขึ้นในแนวโน้มขาลง โดยมี Body ขนาดเล็กและ Wick ด้านล่างยาว แสดงถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่ง และอาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวเป็นขาขึ้น
Hanging Man (คนแขวนคอ) มีลักษณะคล้ายกับ Hammer แต่เกิดขึ้นในแนวโน้มขาขึ้น แสดงถึงแรงขายที่แข็งแกร่ง และอาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวเป็นขาลง
Engulfing Pattern (รูปแบบกลืนกิน) ประกอบด้วยแท่งเทียนสองแท่ง โดยแท่งเทียนที่สองมี Body ที่กลืน Body ของแท่งเทียนแรกทั้งหมด หากเป็น Bullish Engulfing Pattern จะเป็นสัญญาณของการกลับตัวเป็นขาขึ้น หากเป็น Bearish Engulfing Pattern จะเป็นสัญญาณของการกลับตัวเป็นขาลง
Morning Star (ดาวรุ่งอรุณ) เกิดขึ้นในแนวโน้มขาลง ประกอบด้วยสามแท่งเทียน โดยแท่งเทียนแรกเป็น Bearish, แท่งเทียนที่สองเป็น Doji, และแท่งเทียนที่สามเป็น Bullish แสดงถึงแรงซื้อที่กำลังเพิ่มขึ้น และอาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวเป็นขาขึ้น
Evening Star (ดาวดับ) เกิดขึ้นในแนวโน้มขาขึ้น ประกอบด้วยสามแท่งเทียน โดยแท่งเทียนแรกเป็น Bullish, แท่งเทียนที่สองเป็น Doji, และแท่งเทียนที่สามเป็น Bearish แสดงถึงแรงขายที่กำลังเพิ่มขึ้น และอาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวเป็นขาลง
Piercing Line (เส้นแทงทะลุ) เกิดขึ้นในแนวโน้มขาลง โดยมีแท่งเทียน Bullish ที่แทงทะลุ Body ของแท่งเทียน Bearish ก่อนหน้า
Dark Cloud Cover (เมฆดำปกคลุม) เกิดขึ้นในแนวโน้มขาขึ้น โดยมีแท่งเทียน Bearish ที่ปกคลุม Body ของแท่งเทียน Bullish ก่อนหน้า

กลยุทธ์ Day Trading โดยใช้รูปแบบแท่งเทียน

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างกลยุทธ์ Day Trading ที่ใช้รูปแบบแท่งเทียน:

กลยุทธ์ Hammer/Hanging Man เมื่อพบรูปแบบ Hammer ในแนวโน้มขาลง ให้รอการยืนยันด้วยแท่งเทียน Bullish ถัดไป หากมีการยืนยัน ให้เข้าซื้อ (Long) โดยตั้ง Stop Loss ไว้ใต้ Wick ของ Hammer และตั้ง Take Profit ตามอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่เหมาะสม เช่น 1:2 หรือ 1:3 ในทางกลับกัน หากพบรูปแบบ Hanging Man ในแนวโน้มขาขึ้น ให้รอการยืนยันด้วยแท่งเทียน Bearish ถัดไป หากมีการยืนยัน ให้เข้าขาย (Short) โดยตั้ง Stop Loss ไว้เหนือ Body ของ Hanging Man และตั้ง Take Profit ตามอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่เหมาะสม
กลยุทธ์ Engulfing Pattern เมื่อพบรูปแบบ Bullish Engulfing Pattern ให้เข้าซื้อ (Long) โดยตั้ง Stop Loss ไว้ใต้ Low ของแท่งเทียน Engulfing และตั้ง Take Profit ตามอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่เหมาะสม ในทางกลับกัน เมื่อพบรูปแบบ Bearish Engulfing Pattern ให้เข้าขาย (Short) โดยตั้ง Stop Loss ไว้เหนือ High ของแท่งเทียน Engulfing และตั้ง Take Profit ตามอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่เหมาะสม
กลยุทธ์ Morning Star/Evening Star เมื่อพบรูปแบบ Morning Star ให้เข้าซื้อ (Long) โดยตั้ง Stop Loss ไว้ใต้ Low ของแท่งเทียนที่สาม และตั้ง Take Profit ตามอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่เหมาะสม ในทางกลับกัน เมื่อพบรูปแบบ Evening Star ให้เข้าขาย (Short) โดยตั้ง Stop Loss ไว้เหนือ High ของแท่งเทียนที่สาม และตั้ง Take Profit ตามอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่เหมาะสม

การยืนยันรูปแบบแท่งเทียนด้วยเครื่องมืออื่นๆ

แม้ว่ารูปแบบแท่งเทียนจะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ แต่ไม่ควรใช้เพียงอย่างเดียว ควรยืนยันสัญญาณที่ได้จากรูปแบบแท่งเทียนด้วยเครื่องมืออื่นๆ เช่น:

แนวรับและแนวต้าน (Support and Resistance) ใช้เพื่อระบุระดับราคาที่แนวโน้มมีแนวโน้มที่จะหยุดหรือกลับตัว
เส้นแนวโน้ม (Trendlines) ใช้เพื่อระบุทิศทางของแนวโน้ม
Moving Averages (ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่) ใช้เพื่อกรองสัญญาณรบกวนและระบุแนวโน้ม
Relative Strength Index (RSI) ใช้เพื่อวัดความแรงของแนวโน้มและระบุภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold)
MACD (Moving Average Convergence Divergence) ใช้เพื่อระบุการเปลี่ยนแปลงของโมเมนตัม
Volume Analysis (การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย) ใช้เพื่อยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้ม

การจัดการความเสี่ยง (Risk Management)

การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการซื้อขาย Forex โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการ Day Trading เนื่องจากมีความผันผวนสูง:

Stop Loss (จุดตัดขาดทุน) ตั้ง Stop Loss ทุกครั้งที่เปิดสถานะการซื้อขาย เพื่อจำกัดผลขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น
Take Profit (จุดทำกำไร) ตั้ง Take Profit เพื่อล็อคผลกำไรเมื่อราคาถึงระดับที่ต้องการ
Position Sizing (ขนาดสถานะ) กำหนดขนาดสถานะการซื้อขายให้เหมาะสมกับเงินทุนและความเสี่ยงที่ยอมรับได้
Risk/Reward Ratio (อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน) พยายามเลือกการซื้อขายที่มีอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่เหมาะสม เช่น 1:2 หรือ 1:3
อย่าเสี่ยงเกินกว่าที่คุณสามารถจะเสียได้

การฝึกฝนและการพัฒนา

การเป็นนักเทรด Forex ที่ประสบความสำเร็จต้องใช้เวลาและการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง:

บัญชีทดลอง (Demo Account) ใช้บัญชีทดลองเพื่อฝึกฝนกลยุทธ์ต่างๆ โดยไม่ต้องเสี่ยงเงินจริง
Backtesting (การทดสอบย้อนหลัง) ทดสอบกลยุทธ์ต่างๆ กับข้อมูลราคาในอดีต เพื่อประเมินประสิทธิภาพ
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวของตลาด
เรียนรู้จากความผิดพลาด
พัฒนาแผนการซื้อขายของคุณอย่างต่อเนื่อง

สรุป

การซื้อขาย Forex แบบ Day Trading โดยใช้รูปแบบแท่งเทียนเป็นกลยุทธ์ที่สามารถทำกำไรได้หากใช้ถูกต้องและมีการจัดการความเสี่ยงที่ดี การทำความเข้าใจรูปแบบแท่งเทียนต่างๆ การยืนยันสัญญาณด้วยเครื่องมืออื่นๆ และการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในตลาด Forex

ตัวอย่างรูปแบบแท่งเทียนและการตีความ
รูปแบบแท่งเทียน	การตีความ	สัญญาณ
Doji	ความไม่แน่นอนในตลาด	อาจเป็นสัญญาณของการกลับตัว
Hammer	แรงซื้อที่แข็งแกร่งในแนวโน้มขาลง	สัญญาณของการกลับตัวเป็นขาขึ้น
Hanging Man	แรงขายที่แข็งแกร่งในแนวโน้มขาขึ้น	สัญญาณของการกลับตัวเป็นขาลง
Bullish Engulfing	แรงซื้อที่แข็งแกร่ง	สัญญาณของการกลับตัวเป็นขาขึ้น
Bearish Engulfing	แรงขายที่แข็งแกร่ง	สัญญาณของการกลับตัวเป็นขาลง
Morning Star	แรงซื้อที่กำลังเพิ่มขึ้น	สัญญาณของการกลับตัวเป็นขาขึ้น
Evening Star	แรงขายที่กำลังเพิ่มขึ้น	สัญญาณของการกลับตัวเป็นขาลง

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น