Forex Trading Strategies for Breakout Trading with Volume Confirmation

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
  1. Forex Trading Strategies for Breakout Trading with Volume Confirmation
    1. บทนำ

การเทรด Forex หรือ Foreign Exchange คือการซื้อขายเงินตราต่างประเทศในตลาดการเงินทั่วโลก เป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูงที่สุดในโลก และเปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ หนึ่งในกลยุทธ์การเทรดที่ได้รับความนิยมคือ Breakout Trading หรือการเทรดตามการทะลุแนวต้านหรือแนวรับ กลยุทธ์นี้อาศัยการคาดการณ์ว่าเมื่อราคาทะลุแนวสำคัญนี้ จะเกิดการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องในทิศทางของการทะลุนั้น อย่างไรก็ตาม การยืนยันการทะลุด้วย Volume Confirmation หรือการยืนยันด้วยปริมาณการซื้อขาย ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยง

บทความนี้จะนำเสนอแนวคิดพื้นฐานของการเทรด Breakout พร้อมกับการยืนยันด้วยปริมาณการซื้อขายอย่างละเอียด เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ต้องการเรียนรู้กลยุทธ์นี้ รวมถึงนักลงทุนที่มีประสบการณ์ที่ต้องการปรับปรุงประสิทธิภาพในการเทรด

    1. ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการเทรด Breakout

การเทรด Breakout คือการเข้าซื้อ (Long) เมื่อราคาทะลุแนวต้าน (Resistance) หรือเข้าขาย (Short) เมื่อราคาทะลุแนวรับ (Support) แนวต้านและแนวรับเหล่านี้เป็นระดับราคาที่คาดว่าจะเกิดการหยุดชะงักหรือการกลับตัวของราคา การทะลุแนวสำคัญเหล่านี้บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของแนวโน้มเดิม หรือการเริ่มต้นของแนวโน้มใหม่

      1. แนวต้าน (Resistance)

แนวต้านคือระดับราคาที่คาดว่าจะมีการขายจำนวนมาก ทำให้ราคาไม่สามารถทะลุขึ้นไปได้ง่าย ๆ แนวต้านมักจะเกิดขึ้นจากการรวมตัวของจุดสูงสุดก่อนหน้า (Previous Highs) หรือระดับราคาที่ราคาเคยพยายามทะลุแต่ไม่สำเร็จ

      1. แนวรับ (Support)

แนวรับคือระดับราคาที่คาดว่าจะมีการซื้อจำนวนมาก ทำให้ราคาไม่สามารถลดลงต่ำกว่าระดับนี้ได้ง่าย ๆ แนวรับมักจะเกิดขึ้นจากการรวมตัวของจุดต่ำสุดก่อนหน้า (Previous Lows) หรือระดับราคาที่ราคาเคยพยายามลดลงแต่ไม่สำเร็จ

      1. การระบุแนวต้านและแนวรับ

การระบุแนวต้านและแนวรับสามารถทำได้โดยใช้เครื่องมือและเทคนิคต่างๆ ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) เช่น:

  • **เส้นแนวโน้ม (Trend Lines):** ลากเส้นเชื่อมต่อจุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุดเพื่อระบุแนวต้านและแนวรับ
  • **Moving Averages:** เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สามารถใช้เป็นแนวรับและแนวต้านแบบไดนามิกได้ Moving Averages
  • **Fibonacci Retracement:** ใช้ระดับ Fibonacci เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้น Fibonacci Retracement
  • **Pivot Points:** คำนวณระดับ Pivot Points เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านสำคัญ Pivot Points
  • **กราฟแท่งเทียน (Candlestick Patterns):** รูปแบบแท่งเทียนบางรูปแบบสามารถบ่งบอกถึงแนวต้านและแนวรับที่อาจเกิดขึ้นได้ Candlestick Patterns
    1. ความสำคัญของ Volume Confirmation

แม้ว่าการทะลุแนวต้านหรือแนวรับจะเป็นสัญญาณที่น่าสนใจ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าราคาจะเคลื่อนไหวในทิศทางของการทะลุนั้นเสมอไป บางครั้งการทะลุอาจเป็นเพียงการ "หลอก" (False Breakout) ที่เกิดขึ้นเนื่องจากความผันผวนของตลาด หรือปัจจัยอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับแนวโน้มหลัก

Volume Confirmation คือการตรวจสอบปริมาณการซื้อขาย (Trading Volume) ในช่วงเวลาที่เกิดการทะลุ เพื่อยืนยันว่าการทะลุนั้นมีความแข็งแกร่งและมีโอกาสที่จะต่อเนื่อง

      1. หลักการของ Volume Confirmation
  • **การทะลุแนวต้านด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น:** แสดงให้เห็นว่ามีผู้ซื้อจำนวนมากเข้ามาในตลาด ทำให้ราคาพุ่งทะลุแนวต้านขึ้นไปได้ และบ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง
  • **การทะลุแนวรับด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น:** แสดงให้เห็นว่ามีผู้ขายจำนวนมากเข้ามาในตลาด ทำให้ราคาดิ่งลงทะลุแนวรับลงไปได้ และบ่งบอกถึงแนวโน้มขาลงที่แข็งแกร่ง
  • **การทะลุแนวต้านหรือแนวรับด้วยปริมาณการซื้อขายที่ลดลง:** บ่งบอกถึงการทะลุที่อ่อนแอ และมีโอกาสสูงที่จะเป็น False Breakout
      1. การวัดปริมาณการซื้อขาย

ปริมาณการซื้อขายสามารถวัดได้จาก:

  • **Volume:** จำนวนสัญญาหรือหน่วยที่ซื้อขายในช่วงเวลาที่กำหนด
  • **On Balance Volume (OBV):** เครื่องมือที่ใช้ในการวัดแรงซื้อขายสะสม On Balance Volume
  • **Volume Weighted Average Price (VWAP):** ราคาเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักตามปริมาณการซื้อขาย VWAP
    1. กลยุทธ์การเทรด Breakout พร้อม Volume Confirmation
      1. กลยุทธ์ที่ 1: Breakout with Simple Moving Average (SMA) and Volume

1. **ระบุแนวต้านและแนวรับ:** ใช้เส้นแนวโน้ม หรือระดับราคาสำคัญเพื่อระบุแนวต้านและแนวรับ 2. **คำนวณ SMA:** คำนวณ Simple Moving Average (SMA) เช่น SMA 20 หรือ SMA 50 เพื่อใช้เป็นตัวกรองแนวโน้ม 3. **รอการทะลุ:** รอให้ราคาทะลุแนวต้านหรือแนวรับที่ระบุไว้ 4. **ยืนยันด้วย Volume:** ตรวจสอบปริมาณการซื้อขายในช่วงเวลาที่เกิดการทะลุ หากปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ให้พิจารณาเข้าเทรด 5. **ตั้ง Stop Loss:** ตั้ง Stop Loss ใต้แนวต้าน (สำหรับการซื้อ) หรือเหนือแนวรับ (สำหรับการขาย) 6. **ตั้ง Take Profit:** ตั้ง Take Profit ตามอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk/Reward Ratio) ที่เหมาะสม เช่น 1:2 หรือ 1:3

      1. กลยุทธ์ที่ 2: Breakout with Relative Strength Index (RSI) and Volume

1. **ระบุแนวต้านและแนวรับ:** เช่นเดียวกับกลยุทธ์ที่ 1 2. **คำนวณ RSI:** คำนวณ Relative Strength Index (RSI) เพื่อวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้ม Relative Strength Index 3. **รอการทะลุ:** รอให้ราคาทะลุแนวต้านหรือแนวรับ 4. **ยืนยันด้วย Volume และ RSI:** ตรวจสอบปริมาณการซื้อขายและค่า RSI หากปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นและ RSI อยู่เหนือระดับ 50 (สำหรับการซื้อ) หรือต่ำกว่าระดับ 50 (สำหรับการขาย) ให้พิจารณาเข้าเทรด 5. **ตั้ง Stop Loss และ Take Profit:** เช่นเดียวกับกลยุทธ์ที่ 1

      1. กลยุทธ์ที่ 3: False Breakout Reversal Strategy

1. **ระบุแนวต้านและแนวรับ:** เช่นเดิม 2. **รอการทะลุ:** รอให้ราคาพยายามทะลุแนวต้านหรือแนวรับ 3. **ตรวจสอบ Volume:** หากการทะลุเกิดขึ้นพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ให้สงสัยว่าเป็น False Breakout 4. **รอการกลับตัว:** รอให้ราคาเคลื่อนที่กลับเข้าสู่ช่วงเดิม (ใต้แนวต้าน หรือเหนือแนวรับ) 5. **เข้าเทรด:** เข้าเทรดในทิศทางตรงกันข้ามกับการทะลุ (Short หากทะลุแนวต้าน, Long หากทะลุแนวรับ) 6. **ตั้ง Stop Loss และ Take Profit:** ตั้ง Stop Loss เหนือจุดสูงสุดของการทะลุ (สำหรับการ Short) หรือใต้จุดต่ำสุดของการทะลุ (สำหรับการ Long) และตั้ง Take Profit ตาม Risk/Reward Ratio ที่เหมาะสม

    1. การจัดการความเสี่ยง (Risk Management)

การเทรด Forex มีความเสี่ยงสูง ดังนั้นการจัดการความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

  • **กำหนดขนาด Position:** กำหนดขนาด Position ที่เหมาะสมกับเงินทุนและความเสี่ยงที่ยอมรับได้
  • **ใช้ Stop Loss:** ตั้ง Stop Loss ทุกครั้งที่เข้าเทรด เพื่อจำกัดความเสี่ยง
  • **ใช้ Take Profit:** ตั้ง Take Profit เพื่อล็อคกำไร
  • **อย่าเทรดเกินตัว:** อย่าใช้ Leverage มากเกินไป
  • **ติดตามข่าวสาร:** ติดตามข่าวสารเศรษฐกิจและการเงินที่อาจมีผลกระทบต่อตลาด Forex
  • **ฝึกฝนและทดสอบ:** ฝึกฝนและทดสอบกลยุทธ์ต่างๆ ก่อนนำไปใช้จริง
    1. เครื่องมือและแหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
  • **TradingView:** แพลตฟอร์มสำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิคและซื้อขาย Forex TradingView
  • **Forex Factory:** เว็บไซต์ข่าวสารและปฏิทินเศรษฐกิจสำหรับนักเทรด Forex Forex Factory
  • **BabyPips:** เว็บไซต์การเรียนรู้เกี่ยวกับการเทรด Forex สำหรับผู้เริ่มต้น BabyPips
  • **Investopedia:** แหล่งข้อมูลทางการเงินที่ครอบคลุม Investopedia
  • **หนังสือและคอร์สเรียน:** มีหนังสือและคอร์สเรียนเกี่ยวกับการเทรด Forex มากมายให้เลือกศึกษา
    1. สรุป

การเทรด Breakout พร้อม Volume Confirmation เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการเทรด Forex อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจแนวคิดพื้นฐาน การเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสม และการจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการประสบความสำเร็จในตลาด Forex นี้ การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอและการปรับปรุงกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงในการเทรดของคุณ

Trend Following Scalping Day Trading Swing Trading Position Trading Elliott Wave Theory Chart Patterns Support and Resistance Bollinger Bands MACD Stochastic Oscillator Ichimoku Cloud Harmonic Patterns Price Action Trading Psychology

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер