Fibonacci Extension Target Strategy
- Fibonacci Extension Target Strategy
ไบนารี่ออปชั่น เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ด้วยความเรียบง่ายและความสามารถในการทำกำไรอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การทำกำไรอย่างสม่ำเสมอในตลาดไบนารี่ออปชั่นจำเป็นต้องมีกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง และความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับเครื่องมือในการวิเคราะห์ทางเทคนิค หนึ่งในเครื่องมือเหล่านั้นคือลำดับฟีโบนักชี (Fibonacci sequence) และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้ **Fibonacci Extension Target Strategy** ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยในการคาดการณ์เป้าหมายราคาที่อาจเกิดขึ้นหลังจากที่ราคาได้เคลื่อนที่ผ่านจุดสำคัญแล้ว
บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับกลยุทธ์ Fibonacci Extension Target Strategy สำหรับผู้เริ่มต้น รวมถึงวิธีการใช้งาน การตีความผลลัพธ์ และข้อควรระวังที่ควรทราบ
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับลำดับฟีโบนักชี
ก่อนที่จะเจาะลึกกลยุทธ์ เราจำเป็นต้องเข้าใจพื้นฐานของลำดับฟีโบนักชีเสียก่อน ลำดับฟีโบนักชีเริ่มต้นด้วยเลข 0 และ 1 จากนั้นเลขถัดไปในลำดับคือผลรวมของเลขสองตัวก่อนหน้า: 0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, 55, 89, 144…
อัตราส่วนที่ได้จากการหารเลขใดๆ ในลำดับด้วยเลขที่อยู่ก่อนหน้า จะเข้าใกล้ค่าประมาณ 0.618 (หรือ 61.8%) ซึ่งรู้จักกันในชื่อ "อัตราส่วนทองคำ" (golden ratio) นอกจากนี้ อัตราส่วนที่ได้จากการหารเลขใดๆ ด้วยเลขที่อยู่ถัดไป จะเข้าใกล้ค่าประมาณ 0.382 (หรือ 38.2%)
ในทางการเงิน เรามักใช้ระดับฟีโบนักชีที่สำคัญ ได้แก่:
- **23.6%:** ระดับการย่อตัวที่อ่อนแอ
- **38.2%:** ระดับการย่อตัวที่สำคัญ
- **50%:** ระดับกึ่งกลาง
- **61.8%:** ระดับการย่อตัวที่แข็งแกร่ง
- **78.6%:** ระดับการย่อตัวที่แข็งแกร่งมาก
ระดับเหล่านี้ถูกนำไปใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อระบุแนวรับ แนวต้าน และเป้าหมายราคาที่อาจเกิดขึ้น
Fibonacci Extension คืออะไร?
Fibonacci Extension เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการคาดการณ์ระดับราคาที่ราคาอาจเคลื่อนที่ไปถึง หลังจากที่ราคาได้ทะลุผ่านจุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุดก่อนหน้านั้นแล้ว โดยอิงจากอัตราส่วนฟีโบนักชี การใช้ Fibonacci Extension ช่วยให้นักเทรดสามารถระบุเป้าหมายราคาที่เป็นไปได้สำหรับ เทรนด์ ที่กำลังดำเนินอยู่
ระดับ Fibonacci Extension ที่สำคัญ ได้แก่:
- **61.8%:** ระดับที่มักถูกมองว่าเป็นเป้าหมายราคาหลัก
- **100%:** ระดับที่แสดงถึงระยะทางเท่ากับขนาดของการเคลื่อนไหวเดิม
- **161.8%:** ระดับที่แสดงถึงการขยายตัวของเทรนด์
- **261.8%:** ระดับที่แสดงถึงการขยายตัวของเทรนด์ที่แข็งแกร่ง
Fibonacci Extension Target Strategy: ขั้นตอนการใช้งาน
กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการใช้ Fibonacci Extension เพื่อระบุเป้าหมายราคาที่เป็นไปได้ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น นี่คือขั้นตอนการใช้งาน:
1. **ระบุเทรนด์:** เริ่มต้นด้วยการระบุเทรนด์ที่ชัดเจนในตลาด ไม่ว่าจะเป็น เทรนด์ขาขึ้น หรือ เทรนด์ขาลง กลยุทธ์นี้ทำงานได้ดีที่สุดในตลาดที่มีเทรนด์ที่แข็งแกร่ง 2. **ระบุ Swing High และ Swing Low:** ระบุจุดสูงสุด (Swing High) และจุดต่ำสุด (Swing Low) ที่สำคัญในทิศทางของเทรนด์ ตัวอย่างเช่น ในเทรนด์ขาขึ้น ให้ระบุ Swing Low และ Swing High ล่าสุด ในเทรนด์ขาลง ให้ระบุ Swing High และ Swing Low ล่าสุด 3. **วาด Fibonacci Extension:** ใช้เครื่องมือ Fibonacci Extension ที่มีอยู่ในแพลตฟอร์มการเทรดของคุณ วาดจาก Swing Low ไปยัง Swing High (สำหรับเทรนด์ขาขึ้น) หรือจาก Swing High ไปยัง Swing Low (สำหรับเทรนด์ขาลง) 4. **ระบุระดับเป้าหมาย:** ดูระดับ Fibonacci Extension ที่สำคัญ (61.8%, 100%, 161.8%, 261.8%) ระดับเหล่านี้จะแสดงถึงเป้าหมายราคาที่เป็นไปได้ 5. **เปิด Position:** เมื่อราคาเข้าใกล้ระดับ Fibonacci Extension ที่ระบุ ให้เปิด Position ไบนารี่ออปชั่น โดยเลือกทิศทางที่สอดคล้องกับเทรนด์ ตัวอย่างเช่น หากราคาเข้าใกล้ระดับ 61.8% ในเทรนด์ขาขึ้น ให้เปิด Position "Call" (ซื้อ) 6. **ตั้งค่า Expiry Time:** ตั้งค่า Expiry Time ของออปชั่นให้เหมาะสมกับกรอบเวลาที่คุณกำลังเทรด โดยทั่วไป Expiry Time ที่สั้นกว่ามักจะเหมาะสมกับกรอบเวลาที่สั้นกว่า 7. **บริหารความเสี่ยง:** กำหนดขนาด Position ที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่คุณรับได้ อย่าลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถเสียได้
ตัวอย่างการใช้งาน Fibonacci Extension Target Strategy
สมมติว่าคุณกำลังวิเคราะห์กราฟราคาของคู่สกุลเงิน EUR/USD และคุณสังเกตเห็นเทรนด์ขาขึ้นที่ชัดเจน คุณระบุ Swing Low ที่ 1.0800 และ Swing High ที่ 1.1000
คุณวาด Fibonacci Extension จาก 1.0800 ไปยัง 1.1000 คุณสังเกตเห็นว่าระดับ 61.8% อยู่ที่ 1.1090 ระดับ 100% อยู่ที่ 1.1200 และระดับ 161.8% อยู่ที่ 1.1310
หากราคาปรับตัวลงมาใกล้ระดับ 1.1090 (61.8%) คุณสามารถเปิด Position "Call" (ซื้อ) โดยตั้งค่า Expiry Time ที่เหมาะสม และบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ
การตีความผลลัพธ์และการยืนยันสัญญาณ
แม้ว่า Fibonacci Extension จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ แต่ก็ไม่ได้แม่นยำ 100% เสมอไป ดังนั้น การยืนยันสัญญาณด้วยเครื่องมืออื่นๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ
- **แนวรับและแนวต้าน:** ตรวจสอบว่าระดับ Fibonacci Extension สอดคล้องกับแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้น สัญญาณจะมีความแข็งแกร่งมากขึ้น
- **รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns):** มองหารูปแบบแท่งเทียนที่บ่งบอกถึงการกลับตัวของเทรนด์ที่ระดับ Fibonacci Extension ตัวอย่างเช่น รูปแบบ Bullish Engulfing ที่ระดับ 61.8% อาจเป็นสัญญาณซื้อที่แข็งแกร่ง
- **ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค (Technical Indicators):** ใช้ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น Moving Average, RSI, หรือ MACD เพื่อยืนยันสัญญาณ ตัวอย่างเช่น หาก RSI แสดงสัญญาณ Overbought ที่ระดับ Fibonacci Extension อาจเป็นสัญญาณขาย
ข้อควรระวังในการใช้ Fibonacci Extension Target Strategy
- **ไม่ใช่เครื่องมือที่สมบูรณ์แบบ:** Fibonacci Extension ไม่ได้ให้สัญญาณที่แม่นยำเสมอไป และอาจเกิดสัญญาณหลอกได้
- **ต้องใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ:** อย่าใช้ Fibonacci Extension เพียงอย่างเดียว ควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อยืนยันสัญญาณ
- **บริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ:** กำหนดขนาด Position ที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่คุณรับได้ และอย่าลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถเสียได้
- **เลือกกรอบเวลาที่เหมาะสม:** Fibonacci Extension สามารถใช้ได้กับกรอบเวลาที่หลากหลาย แต่ควรเลือกกรอบเวลาที่สอดคล้องกับสไตล์การเทรดของคุณ
- **ระวังข่าวสารและการประกาศทางเศรษฐกิจ:** ข่าวสารและการประกาศทางเศรษฐกิจอาจส่งผลกระทบต่อราคาอย่างรวดเร็ว และทำให้สัญญาณ Fibonacci Extension ไม่ถูกต้อง
กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง
- Fibonacci Retracement: การใช้ระดับ Fibonacci Retracement เพื่อระบุแนวรับและแนวต้าน
- Elliott Wave Theory: การวิเคราะห์รูปแบบคลื่นในตลาด
- Harmonic Patterns: การระบุรูปแบบราคาที่ซับซ้อนโดยใช้อัตราส่วน Fibonacci
- Support and Resistance: การระบุแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ
- Trend Following: การเทรดตามเทรนด์ที่กำลังดำเนินอยู่
- Breakout Trading: การเทรดเมื่อราคาทะลุผ่านแนวรับหรือแนวต้าน
- Reversal Trading: การเทรดเมื่อราคาเปลี่ยนทิศทาง
- Moving Average Crossover: การใช้การตัดกันของเส้น Moving Average เพื่อสร้างสัญญาณ
- RSI Divergence: การใช้ความแตกต่างระหว่างราคาและ RSI เพื่อระบุสัญญาณ
- MACD Crossover: การใช้การตัดกันของเส้น MACD เพื่อสร้างสัญญาณ
- Bollinger Bands: การใช้ Bollinger Bands เพื่อวัดความผันผวนของราคา
- Ichimoku Cloud: การใช้ Ichimoku Cloud เพื่อวิเคราะห์เทรนด์และแนวรับแนวต้าน
- Price Action Trading: การวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาโดยไม่ต้องใช้ตัวบ่งชี้
- Gap Trading: การเทรดเมื่อเกิด Gap ในราคา
- Volume Spread Analysis: การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายเพื่อยืนยันสัญญาณ
การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis)
การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายควบคู่ไปกับ Fibonacci Extension สามารถช่วยยืนยันความแข็งแกร่งของสัญญาณได้ ตัวอย่างเช่น หากปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นเมื่อราคาเข้าใกล้ระดับ Fibonacci Extension แสดงว่ามีความสนใจในการซื้อขายในระดับนั้น และสัญญาณอาจมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
| ปริมาณการซื้อขาย | การตีความ | |
| เพิ่มขึ้น | สัญญาณซื้อที่แข็งแกร่ง | |
| ลดลง | สัญญาณซื้อที่อ่อนแอ | |
| เพิ่มขึ้น | สัญญาณขายที่แข็งแกร่ง | |
| ลดลง | สัญญาณขายที่อ่อนแอ | |
สรุป
Fibonacci Extension Target Strategy เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับนักเทรดไบนารี่ออปชั่นในการระบุเป้าหมายราคาที่เป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม การใช้งานกลยุทธ์นี้อย่างมีประสิทธิภาพจำเป็นต้องมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับลำดับฟีโบนักชี การวิเคราะห์ทางเทคนิค และการบริหารความเสี่ยง อย่าลืมใช้กลยุทธ์นี้ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ และบริหารความเสี่ยงของคุณอย่างรอบคอบเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
