Fade the Breakout
- Fade the Breakout: กลยุทธ์สำหรับไบนารี่ออปชั่นสำหรับผู้เริ่มต้น
Fade the Breakout เป็นกลยุทธ์การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นที่อาศัยหลักการที่ว่าการทะลุแนวต้านทานหรือแนวรับ (Breakout) มักจะตามมาด้วยการปรับฐาน (Pullback) หรือการกลับตัว (Reversal) กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับผู้ที่เข้าใจการอ่าน แท่งเทียน และการระบุ แนวรับแนวต้าน รวมถึงการประเมิน โมเมนตัม ของตลาด
- หลักการทำงานของ Fade the Breakout
แนวคิดหลักของกลยุทธ์นี้คือ การเดิมพันว่าราคาจะไม่สามารถรักษาระดับราคาที่ทะลุออกมาได้ในระยะยาว โดยเชื่อว่าแรงซื้อหรือแรงขายที่ทำให้เกิดการทะลุนั้นมักจะไม่ยั่งยืน และจะมีการกลับตัวเกิดขึ้นในที่สุด นักเทรดที่ใช้กลยุทธ์นี้จะเข้าทำการซื้อขายในทิศทางตรงกันข้ามกับการทะลุ (Fade) โดยคาดหวังว่าราคาจะกลับเข้าสู่ช่วงราคาเดิม หรือปรับฐานลงมา
- ตัวอย่าง:** หากราคาของสินทรัพย์ทะลุแนวต้านทานขึ้นไป นักเทรดที่ใช้กลยุทธ์ Fade the Breakout จะเปิดออปชั่น "Put" (คาดว่าราคาจะลดลง) โดยคาดหวังว่าราคาจะปรับตัวลงมาในที่สุด
- ข้อดีและข้อเสียของกลยุทธ์ Fade the Breakout
| ข้อดี | ข้อเสีย | |---|---| | อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่ดี: หากการคาดการณ์ถูกต้อง ผลตอบแทนจะสูงกว่าความเสี่ยง | ความเสี่ยงสูง: การทะลุอาจเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นของเทรนด์ใหม่ที่แข็งแกร่ง | | เหมาะกับตลาดที่มีการเคลื่อนไหวรุนแรง: สามารถทำกำไรได้จากการปรับฐานในตลาดผันผวน | ต้องใช้การยืนยันสัญญาณ: การตัดสินใจที่ผิดพลาดอาจนำไปสู่การขาดทุนได้ | | สามารถใช้ได้กับกรอบเวลาที่หลากหลาย: ปรับใช้ได้ทั้งกรอบเวลาสั้นและยาว | ต้องระมัดระวังข่าวสาร: ข่าวสำคัญอาจทำให้การทะลุเป็นจริงและยั่งยืน |
- ขั้นตอนการใช้งานกลยุทธ์ Fade the Breakout
1. **ระบุแนวรับและแนวต้านทาน:** ใช้เครื่องมือ การวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น เส้นแนวโน้ม (Trend Lines), ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages), Fibonacci Retracement หรือ Pivot Points เพื่อระบุแนวรับและแนวต้านทานที่ชัดเจน 2. **รอการทะลุ:** เฝ้ารอให้ราคาของสินทรัพย์ทะลุแนวรับหรือแนวต้านทานที่ได้ระบุไว้ 3. **ยืนยันสัญญาณ:** อย่ารีบเปิดออปชั่นทันทีที่เกิดการทะลุ ให้รอการยืนยันสัญญาณเพิ่มเติม เช่น:
* **การปรับตัวของปริมาณการซื้อขาย (Volume):** หากการทะลุเกิดขึ้นพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น แสดงว่ามีความสนใจอย่างแท้จริงในการทะลุนั้น * **การเกิดรูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns):** มองหารูปแบบแท่งเทียนที่บ่งบอกถึงการกลับตัว เช่น Doji, Engulfing Pattern, หรือ Hammer * **ตัวชี้วัดทางเทคนิค (Technical Indicators):** ใช้ตัวชี้วัดเช่น RSI หรือ MACD เพื่อยืนยันสัญญาณการซื้อขาย
4. **เปิดออปชั่น:** เมื่อได้รับการยืนยันสัญญาณแล้ว ให้เปิดออปชั่นในทิศทางตรงกันข้ามกับการทะลุ
* หากทะลุแนวต้านทาน ให้เปิดออปชั่น "Put" * หากทะลุแนวรับ ให้เปิดออปชั่น "Call"
5. **ตั้งจุด Stop Loss:** กำหนดจุด Stop Loss เพื่อจำกัดความเสี่ยง หากการคาดการณ์ผิดพลาด 6. **ตั้งเป้าหมายกำไร (Take Profit):** กำหนดเป้าหมายกำไรที่เหมาะสม โดยพิจารณาจากอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน
- ตัวอย่างการซื้อขายโดยใช้กลยุทธ์ Fade the Breakout
สมมติว่าราคาของ EUR/USD อยู่ที่ 1.1000 และมีแนวต้านทานที่ 1.1020
1. ราคา EUR/USD ทะลุแนวต้านทานที่ 1.1020 ขึ้นไป 2. สังเกตว่าปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังไม่สูงมากนัก 3. เกิดรูปแบบแท่งเทียน Bearish Engulfing ใกล้กับแนวต้านทาน 4. ค่า RSI แสดงค่าที่สูงกว่า 70 (Overbought) 5. เปิดออปชั่น "Put" โดยคาดว่าราคาจะปรับตัวลง 6. ตั้งจุด Stop Loss ที่ 1.1030 7. ตั้งเป้าหมายกำไรที่ 1.0980
ในกรณีนี้ หากราคา EUR/USD ปรับตัวลงมาถึง 1.0980 คุณจะได้รับกำไรจากการซื้อขาย
- การปรับปรุงกลยุทธ์ Fade the Breakout
- **ใช้กรอบเวลาที่เหมาะสม:** การเลือกกรอบเวลาที่เหมาะสมมีความสำคัญ กรอบเวลาที่สั้นเกินไปอาจมีสัญญาณรบกวนมากเกินไป ในขณะที่กรอบเวลาที่ยาวเกินไปอาจทำให้พลาดโอกาสในการทำกำไร
- **รวมกลยุทธ์อื่น ๆ:** สามารถใช้กลยุทธ์ Fade the Breakout ร่วมกับกลยุทธ์อื่น ๆ เช่น Price Action Trading หรือ Scalping เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการซื้อขาย
- **พิจารณาปัจจัยพื้นฐาน:** อย่าละเลยปัจจัยพื้นฐาน เช่น ข่าวเศรษฐกิจ หรือเหตุการณ์สำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาสินทรัพย์
- **Backtesting:** ก่อนที่จะใช้กลยุทธ์นี้ในการซื้อขายจริง ควรทำการ Backtesting เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของกลยุทธ์กับข้อมูลในอดีต
- เครื่องมือและตัวชี้วัดที่ใช้ร่วมกับ Fade the Breakout
- **Bollinger Bands:** ใช้เพื่อวัดความผันผวนของราคา และระบุโอกาสในการซื้อขายเมื่อราคาออกจากช่วง Bollinger Bands
- **Ichimoku Cloud:** ใช้เพื่อระบุแนวรับแนวต้าน และทิศทางของเทรนด์
- **Parabolic SAR:** ใช้เพื่อระบุจุดกลับตัวของราคา
- **Stochastic Oscillator:** ใช้เพื่อวัดโมเมนตัมของราคา และระบุสภาวะ Overbought หรือ Oversold
- **Average True Range (ATR):** ใช้เพื่อวัดความผันผวนของราคา
- กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง
- Mean Reversion: คล้ายกับ Fade the Breakout โดยมุ่งเน้นการซื้อขายเมื่อราคาเบี่ยงเบนไปจากค่าเฉลี่ย
- Contrarian Investing: การซื้อขายในทิศทางตรงกันข้ามกับความคิดเห็นของตลาดส่วนใหญ่
- Pin Bar Strategy: ใช้รูปแบบ Pin Bar เพื่อระบุการกลับตัวของราคา
- Inside Bar Strategy: ใช้รูปแบบ Inside Bar เพื่อระบุช่วงพักตัวของราคา
- Support and Resistance Reversal: การซื้อขายเมื่อราคาเด้งกลับจากแนวรับหรือแนวต้านทาน
- Breakout Retest Strategy: รอการกลับไปทดสอบแนวรับ/ต้านทานหลังการทะลุ
- Channel Breakout Strategy: การซื้อขายเมื่อราคาออกจากช่องราคา (Channel)
- Flag and Pennant Patterns: ระบุรูปแบบ Flag และ Pennant เพื่อคาดการณ์การกลับตัว
- Head and Shoulders Pattern: ระบุรูปแบบ Head and Shoulders เพื่อคาดการณ์การกลับตัว
- Double Top/Bottom: ระบุรูปแบบ Double Top และ Double Bottom เพื่อคาดการณ์การกลับตัว
- Trend Following: การซื้อขายตามทิศทางของเทรนด์หลัก
- Momentum Trading: การซื้อขายโดยอาศัยโมเมนตัมของราคา
- Gap Trading: การซื้อขายโดยอาศัยช่องว่างราคา (Gap)
- News Trading: การซื้อขายโดยอาศัยข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญ
- Options Straddle: การซื้อออปชั่น Call และ Put พร้อมกันเพื่อทำกำไรจากความผันผวน
- ข้อควรระวัง
- กลยุทธ์ Fade the Breakout ไม่ได้ผลเสมอไป การทะลุอาจเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นของเทรนด์ใหม่ที่แข็งแกร่ง
- การยืนยันสัญญาณมีความสำคัญอย่างยิ่ง อย่ารีบเปิดออปชั่นโดยไม่มีการยืนยัน
- การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญ กำหนดจุด Stop Loss และเป้าหมายกำไรที่เหมาะสม
- สรุป
Fade the Breakout เป็นกลยุทธ์การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นที่สามารถทำกำไรได้หากใช้ได้อย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีความเข้าใจในการวิเคราะห์ทางเทคนิค การจัดการความเสี่ยง และการยืนยันสัญญาณอย่างรอบคอบ การฝึกฝนและการทดสอบกลยุทธ์นี้กับบัญชี Demo ก่อนที่จะใช้ในการซื้อขายจริงเป็นสิ่งสำคัญ
การซื้อขายไบนารี่ออปชั่น มีความเสี่ยง โปรดลงทุนด้วยความระมัดระวัง
| สินทรัพย์ ! กรอบเวลา ! Stop Loss ! Take Profit ! ตัวชี้วัดเพิ่มเติม |
|---|
| 15 นาที | 10-20 pips | 20-30 pips | RSI, MACD |
| 30 นาที | 20-30 pips | 40-60 pips | Bollinger Bands, Stochastic Oscillator |
| 1 ชั่วโมง | 30-50 pips | 60-80 pips | Ichimoku Cloud, Parabolic SAR |
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
