Broken Wing Butterfly

1. 1. Broken Wing Butterfly

บทความนี้จะอธิบายกลยุทธ์การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นที่เรียกว่า “Broken Wing Butterfly” อย่างละเอียดสำหรับผู้เริ่มต้น โดยจะครอบคลุมถึงหลักการทำงาน การตั้งค่า การจัดการความเสี่ยง และข้อควรระวังในการใช้งาน

หลักการพื้นฐานของ Broken Wing Butterfly

Broken Wing Butterfly เป็นกลยุทธ์การซื้อขายที่มีความซับซ้อนกว่ากลยุทธ์พื้นฐานอย่างเช่น High/Low หรือ Touch/No Touch กลยุทธ์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อทำกำไรจากช่วงราคาที่คาดหวังว่าจะแคบลง หรือเมื่อคาดการณ์ว่าราคาจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบที่จำกัด โดยชื่อ “Broken Wing Butterfly” มาจากลักษณะของกราฟราคาที่คล้ายกับปีกผีเสื้อที่หัก ซึ่งเกิดจากการรวมกันของออปชั่นหลายตัว

กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการเปิดออปชั่นหลายรายการพร้อมกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างผลกำไรจากความแตกต่างของราคาออปชั่น โดยทั่วไปแล้วจะประกอบด้วยการซื้อและขายออปชั่น Call และ Put ในราคา Strike ที่แตกต่างกันสามระดับ (three strike prices) ซึ่งจะสร้างรูปแบบคล้ายปีกผีเสื้อ

การตั้งค่า Broken Wing Butterfly

การตั้งค่า Broken Wing Butterfly จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ที่ทำการซื้อขายและสภาวะตลาด แต่โดยทั่วไปแล้วจะมีขั้นตอนดังนี้:

1. **เลือกสินทรัพย์:** เลือกสินทรัพย์ที่คุณคุ้นเคยและมีการเคลื่อนไหวของราคาที่คาดเดาได้ การเลือกสินทรัพย์ที่มี ความผันผวน (Volatility) ต่ำหรือปานกลางจะเหมาะสมกว่าสำหรับกลยุทธ์นี้ 2. **ระบุช่วงราคา:** วิเคราะห์กราฟราคาเพื่อระบุช่วงราคาที่คาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงเวลาที่กำหนด ใช้เครื่องมือ การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) เช่น แนวรับ (Support) และ แนวต้าน (Resistance) เพื่อช่วยในการระบุช่วงราคา 3. **เลือกราคา Strike:** เลือกราคา Strike สามระดับ:

   *   **Strike ต่ำสุด (K1):** ราคา Strike ที่ต่ำกว่าช่วงราคาที่คาดหวัง
   *   **Strike กลาง (K2):** ราคา Strike ที่อยู่ตรงกลางช่วงราคาที่คาดหวัง
   *   **Strike สูงสุด (K3):** ราคา Strike ที่สูงกว่าช่วงราคาที่คาดหวัง

4. **กำหนดจำนวนออปชั่น:** โดยทั่วไปแล้ว จะมีการซื้อออปชั่น Call หนึ่งรายการที่ Strike ต่ำสุด (K1) และออปชั่น Put หนึ่งรายการที่ Strike สูงสุด (K3) และขายออปชั่น Call และ Put อย่างละสองรายการที่ Strike กลาง (K2) 5. **เลือกวันหมดอายุ:** เลือกวันหมดอายุที่เหมาะสมกับช่วงเวลาที่คุณคาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงราคาที่กำหนด การเลือกวันหมดอายุที่สั้นเกินไปอาจทำให้คุณพลาดโอกาสในการทำกำไร ในขณะที่การเลือกวันหมดอายุที่ยาวเกินไปอาจทำให้คุณต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่สูงขึ้น

ตัวอย่างการตั้งค่า Broken Wing Butterfly

สมมติว่าคุณคาดการณ์ว่าราคาของทองคำ (Gold) จะเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงราคา 1,800 – 1,850 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงเวลาที่กำหนด คุณสามารถตั้งค่า Broken Wing Butterfly ได้ดังนี้:

• **ซื้อ Call Option ที่ Strike 1,800:** ซื้อ Call Option หนึ่งรายการที่ราคา Strike 1,800 ดอลลาร์สหรัฐฯ
• **ขาย Call Option ที่ Strike 1,825:** ขาย Call Option สองรายการที่ราคา Strike 1,825 ดอลลาร์สหรัฐฯ
• **ซื้อ Put Option ที่ Strike 1,850:** ซื้อ Put Option หนึ่งรายการที่ราคา Strike 1,850 ดอลลาร์สหรัฐฯ
• **ขาย Put Option ที่ Strike 1,825:** ขาย Put Option สองรายการที่ราคา Strike 1,825 ดอลลาร์สหรัฐฯ

ตัวอย่างการตั้งค่า Broken Wing Butterfly

Strike Price	Option Type	Quantity
1,800	Call	1
1,825	Call	-2
1,850	Put	1
1,825	Put	-2

การคำนวณกำไรและขาดทุน

การคำนวณกำไรและขาดทุนของ Broken Wing Butterfly ค่อนข้างซับซ้อน เนื่องจากเกี่ยวข้องกับราคาออปชั่นหลายรายการ อย่างไรก็ตาม หลักการพื้นฐานคือ:

• **กำไรสูงสุด:** จะเกิดขึ้นเมื่อราคาของสินทรัพย์อยู่ที่ Strike กลาง (K2) ในตัวอย่างข้างต้นคือ 1,825 ดอลลาร์สหรัฐฯ
• **ขาดทุนสูงสุด:** จะเกิดขึ้นเมื่อราคาของสินทรัพย์อยู่นอกช่วงราคาที่คาดหวัง คือต่ำกว่า Strike ต่ำสุด (K1) หรือสูงกว่า Strike สูงสุด (K3)
• **จุดคุ้มทุน:** มีสองจุดคุ้มทุน ซึ่งเป็นจุดที่กำไรเท่ากับขาดทุน

การจัดการความเสี่ยง

Broken Wing Butterfly เป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงจำกัด แต่ก็ยังมีความเสี่ยงอยู่บ้าง การจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ประสบความสำเร็จในการใช้กลยุทธ์นี้:

• **กำหนดขนาด Position:** กำหนดขนาด Position ที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ อย่าลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถเสียได้
• **ใช้ Stop-Loss:** พิจารณาใช้ Stop-Loss เพื่อจำกัดความเสียหายหากราคาเคลื่อนไหวในทิศทางที่ไม่เป็นไปตามที่คุณคาดหวัง
• **ติดตามตลาด:** ติดตามตลาดอย่างใกล้ชิดและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ของคุณหากจำเป็น
• **ทำความเข้าใจความผันผวน:** ความผันผวน (Volatility) มีผลกระทบอย่างมากต่อราคาออปชั่น ทำความเข้าใจว่าความผันผวนส่งผลต่อกลยุทธ์ของคุณอย่างไร
• **พิจารณาค่าธรรมเนียม:** ค่าธรรมเนียมการซื้อขายสามารถลดผลกำไรของคุณได้ พิจารณาค่าธรรมเนียมเมื่อวางแผนการซื้อขายของคุณ

ข้อดีและข้อเสียของ Broken Wing Butterfly

ข้อดีและข้อเสียของ Broken Wing Butterfly

ข้อดี	ข้อเสีย
ความเสี่ยงจำกัด	ความซับซ้อนในการตั้งค่า
สามารถทำกำไรได้แม้ราคาไม่เคลื่อนไหว	ต้องใช้เงินทุนค่อนข้างมาก
เหมาะสำหรับตลาดที่มีความผันผวนต่ำหรือปานกลาง	ผลกำไรสูงสุดถูกจำกัด
สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสภาวะตลาด	ต้องมีการติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด

กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง

• Straddle: กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อ Call และ Put Option พร้อมกัน
• Strangle: คล้ายกับ Straddle แต่ใช้ Strike Price ที่แตกต่างกัน
• Iron Condor: กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการขาย Call และ Put Option พร้อมกัน
• Butterfly Spread: กลยุทธ์ที่คล้ายกับ Broken Wing Butterfly แต่มีการซื้อและขายออปชั่นในสัดส่วนที่แตกต่างกัน
• Calendar Spread: กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อและขายออปชั่นที่มีวันหมดอายุที่แตกต่างกัน

การวิเคราะห์ทางเทคนิคที่เกี่ยวข้อง

• แนวรับ (Support) และ แนวต้าน (Resistance): ใช้เพื่อระบุช่วงราคาที่คาดหวัง
• Bollinger Bands: ใช้เพื่อวัดความผันผวนและระบุช่วงราคาที่อาจเกิดการกลับตัว
• Moving Averages: ใช้เพื่อระบุแนวโน้มของราคา
• Relative Strength Index (RSI): ใช้เพื่อวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้ม
• MACD: ใช้เพื่อระบุสัญญาณการซื้อขาย

การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายที่เกี่ยวข้อง

• Volume: ปริมาณการซื้อขายสามารถช่วยยืนยันแนวโน้มของราคา
• Open Interest: จำนวนสัญญาออปชั่นที่ยังไม่ได้ถูกชำระ สามารถบ่งบอกถึงความสนใจของตลาดในออปชั่นนั้นๆ
• Bid-Ask Spread: ความแตกต่างระหว่างราคาเสนอซื้อและราคาเสนอขาย สามารถบ่งบอกถึงสภาพคล่องของตลาด

คำแนะนำเพิ่มเติม

• ฝึกฝนด้วยบัญชี Demo ก่อนที่จะทำการซื้อขายด้วยเงินจริง
• เรียนรู้จากความผิดพลาดของคุณและปรับปรุงกลยุทธ์ของคุณอย่างต่อเนื่อง
• อย่าละโมบและพยายามทำกำไรมากเกินไป
• มีความอดทนและรอโอกาสที่เหมาะสม

Broken Wing Butterfly เป็นกลยุทธ์การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นที่สามารถทำกำไรได้หากใช้ได้อย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับหลักการทำงาน การตั้งค่า การจัดการความเสี่ยง และข้อควรระวังในการใช้งาน การศึกษาและการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ประสบความสำเร็จในการใช้กลยุทธ์นี้

การซื้อขายไบนารี่ออปชั่น (Binary Option Trading) การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) การวิเคราะห์ตลาด (Market Analysis) การลงทุน (Investment) กลยุทธ์การซื้อขาย (Trading Strategies) การวิเคราะห์ทางเทคนิคขั้นสูง (Advanced Technical Analysis) การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis) การจัดการเงินทุน (Money Management) จิตวิทยาการเทรด (Trading Psychology) ข่าวสารทางการเงิน (Financial News) เครื่องมือเทรด (Trading Tools) แพลตฟอร์มการเทรด (Trading Platforms) การเรียนรู้ไบนารี่ออปชั่น (Binary Option Learning) การเลือกโบรกเกอร์ (Broker Selection) การถอนเงิน (Withdrawal) การฝากเงิน (Deposit) การทำความเข้าใจสัญญาออปชั่น (Understanding Option Contracts) การซื้อขายระยะสั้น (Short-term Trading)

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น