Binary Options Glossary
- พจนานุกรมไบนารี่ออปชั่น สำหรับผู้เริ่มต้น
ไบนารี่ออปชั่น (Binary Options) เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ด้วยความเรียบง่ายในการทำความเข้าใจและศักยภาพในการทำกำไรที่สูง ทำให้ดึงดูดนักลงทุนทั้งมือใหม่และมืออาชีพ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะเริ่มต้นการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น สิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือการทำความเข้าใจศัพท์เฉพาะที่ใช้ในวงการนี้ เพื่อให้สามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ บทความนี้จะนำเสนอพจนานุกรมไบนารี่ออปชั่นที่ครอบคลุมสำหรับผู้เริ่มต้น โดยจะอธิบายคำศัพท์สำคัญต่างๆ อย่างละเอียด พร้อมยกตัวอย่างประกอบเพื่อให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจ
ออปชั่นพื้นฐาน (Basic Options)
- **ไบนารี่ออปชั่น (Binary Option):** สัญญาที่ให้ผลตอบแทนสองแบบ คือ กำไรที่กำหนดไว้ล่วงหน้า หรือขาดทุนทั้งหมด ขึ้นอยู่กับว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิง (Underlying Asset) เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้หรือไม่
- **ออปชั่นแบบดิจิทัล (Digital Option):** เป็นรูปแบบหนึ่งของไบนารี่ออปชั่น โดยผลตอบแทนจะได้รับเมื่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิงแตะหรือเกินระดับราคาที่กำหนดไว้
- **ออปชั่นแบบทัช/โนทัช (Touch/No-Touch Option):** ออปชั่นที่ผลตอบแทนจะขึ้นอยู่กับว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะแตะระดับราคาที่กำหนดไว้หรือไม่ (Touch) หรือไม่แตะ (No-Touch) ภายในระยะเวลาที่กำหนด
- **การหมดอายุ (Expiry):** ช่วงเวลาที่สัญญาไบนารี่ออปชั่นจะสิ้นสุดลง และผลตอบแทนจะถูกกำหนด
- **ระยะเวลาการซื้อขาย (Trade Duration):** ระยะเวลาที่นักลงทุนสามารถเปิดและปิดการซื้อขายได้ ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตั้งแต่ 60 วินาที, 5 นาที, 15 นาที, 30 นาที, 1 ชั่วโมง, หรืออื่นๆ
- **สินทรัพย์อ้างอิง (Underlying Asset):** สินทรัพย์ที่ราคาใช้ในการกำหนดผลตอบแทนของไบนารี่ออปชั่น เช่น หุ้น, คู่สกุลเงิน, สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities), หรือดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (Stock Indices)
คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขาย (Trading Terminology)
- **Call Option:** สัญญาที่คาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะ *สูงขึ้น* ก่อนการหมดอายุ หากการคาดการณ์ถูกต้อง นักลงทุนจะได้รับกำไร
- **Put Option:** สัญญาที่คาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะ *ลดลง* ก่อนการหมดอายุ หากการคาดการณ์ถูกต้อง นักลงทุนจะได้รับกำไร
- **พรีเมี่ยม (Premium):** จำนวนเงินที่นักลงทุนจ่ายเพื่อซื้อสัญญาไบนารี่ออปชั่น ซึ่งถือเป็นต้นทุนในการซื้อขาย
- **อัตราการจ่าย (Payout):** เปอร์เซ็นต์ของเงินลงทุนที่นักลงทุนจะได้รับเป็นกำไร หากการคาดการณ์ถูกต้อง โดยทั่วไปจะอยู่ในช่วง 70-95%
- **ความเสี่ยง (Risk):** จำนวนเงินที่นักลงทุนอาจสูญเสีย หากการคาดการณ์ไม่ถูกต้อง โดยทั่วไปจะเท่ากับจำนวนเงินลงทุนทั้งหมด
- **การจัดการความเสี่ยง (Risk Management):** กลยุทธ์ที่ใช้เพื่อลดความเสี่ยงในการซื้อขาย เช่น การกำหนดขนาดการซื้อขาย (Trade Size) ที่เหมาะสม และการใช้ Stop Loss
- **In-the-Money (ITM):** สัญญาที่ผลตอบแทนเป็นบวก ณ เวลาที่หมดอายุ
- **Out-of-the-Money (OTM):** สัญญาที่ผลตอบแทนเป็นลบ ณ เวลาที่หมดอายุ
- **At-the-Money (ATM):** สัญญาที่ราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเท่ากับราคา Strike Price ณ เวลาที่หมดอายุ
- **Strike Price:** ระดับราคาที่ใช้ในการตัดสินว่าสัญญาไบนารี่ออปชั่นจะได้รับผลตอบแทนหรือไม่
การวิเคราะห์ตลาด (Market Analysis)
- **การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis):** การศึกษาข้อมูลราคาและปริมาณการซื้อขายในอดีต เพื่อคาดการณ์แนวโน้มราคาในอนาคต โดยใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น Moving Averages, Relative Strength Index (RSI), MACD, Bollinger Bands, และ Fibonacci Retracements
- **การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis):** การวิเคราะห์ปัจจัยทางเศรษฐกิจ, การเงิน, และอุตสาหกรรม ที่มีผลต่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิง เช่น อัตราดอกเบี้ย, การเติบโตของ GDP, และผลประกอบการของบริษัท
- **แนวโน้ม (Trend):** ทิศทางโดยรวมของการเคลื่อนที่ของราคา ซึ่งอาจเป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend), แนวโน้มขาลง (Downtrend), หรือแนวโน้ม Sideways
- **การสนับสนุน (Support):** ระดับราคาที่คาดว่าจะเกิดการซื้อจำนวนมาก ทำให้ราคาไม่น่าจะลดลงต่ำกว่าระดับนั้น
- **แนวต้าน (Resistance):** ระดับราคาที่คาดว่าจะเกิดการขายจำนวนมาก ทำให้ราคาไม่น่าจะเพิ่มขึ้นสูงกว่าระดับนั้น
- **ปริมาณการซื้อขาย (Trading Volume):** จำนวนหุ้นหรือสัญญาที่ซื้อขายในช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งสามารถใช้เพื่อยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้ม
- **ความผันผวน (Volatility):** ระดับความผันผวนของราคา ซึ่งสามารถวัดได้ด้วยค่า Standard Deviation หรือ ATR (Average True Range) ATR Indicator
กลยุทธ์การซื้อขาย (Trading Strategies)
- **กลยุทธ์ Martingale:** การเพิ่มขนาดการซื้อขายเป็นสองเท่าทุกครั้งที่ขาดทุน เพื่อให้สามารถทำกำไรได้เมื่อชนะการซื้อขายครั้งต่อไป Martingale Strategy
- **กลยุทธ์ Anti-Martingale:** การเพิ่มขนาดการซื้อขายเมื่อชนะ และลดขนาดการซื้อขายเมื่อขาดทุน
- **กลยุทธ์ Straddle:** การซื้อทั้ง Call Option และ Put Option พร้อมกัน โดยคาดหวังว่าราคาจะเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง
- **กลยุทธ์ Butterfly:** การรวม Call Option และ Put Option หลายสัญญา เพื่อสร้างรูปแบบผลตอบแทนที่จำกัดความเสี่ยงและจำกัดกำไร
- **กลยุทธ์ Trend Following:** การซื้อขายตามแนวโน้มของราคา โดยซื้อเมื่อราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น และขายเมื่อราคาอยู่ในแนวโน้มขาลง Trend Following
- **กลยุทธ์ Range Trading:** การซื้อขายเมื่อราคาอยู่ในช่วง Sideways โดยซื้อเมื่อราคาแตะแนวรับ และขายเมื่อราคาแตะแนวต้าน Range Trading
- **กลยุทธ์ Breakout:** การซื้อขายเมื่อราคา Breakout จากแนวรับหรือแนวต้าน Breakout Trading
- **กลยุทธ์ News Trading:** การซื้อขายตามข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญที่มีผลต่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิง News Trading
- **กลยุทธ์ Pin Bar:** การใช้รูปแบบแท่งเทียน Pin Bar เพื่อระบุจุดกลับตัวของแนวโน้ม Pin Bar Strategy
- **กลยุทธ์ Engulfing:** การใช้รูปแบบแท่งเทียน Engulfing เพื่อระบุการเปลี่ยนแนวโน้ม Engulfing Strategy
- **กลยุทธ์ Morning Star/Evening Star:** การใช้รูปแบบแท่งเทียน Morning Star หรือ Evening Star เพื่อระบุการกลับตัวของแนวโน้ม Morning Star/Evening Star Strategy
- **กลยุทธ์ Fibonacci Retracement:** การใช้ระดับ Fibonacci Retracement เพื่อระบุแนวรับและแนวต้านที่มีศักยภาพ Fibonacci Retracement Strategy
- **กลยุทธ์ RSI Divergence:** การใช้ RSI Divergence เพื่อระบุการกลับตัวของแนวโน้ม RSI Divergence Strategy
- **กลยุทธ์ MACD Crossover:** การใช้ MACD Crossover เพื่อระบุสัญญาณซื้อขาย MACD Crossover Strategy
- **กลยุทธ์ Bollinger Bands Squeeze:** การใช้ Bollinger Bands Squeeze เพื่อระบุช่วงเวลาที่ความผันผวนต่ำ และคาดการณ์การ Breakout Bollinger Bands Squeeze Strategy
แพลตฟอร์มและเครื่องมือ (Platforms and Tools)
- **โบรกเกอร์ (Broker):** บริษัทที่ให้บริการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น
- **แพลตฟอร์มการซื้อขาย (Trading Platform):** ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น
- **บัญชีทดลอง (Demo Account):** บัญชีที่อนุญาตให้นักลงทุนฝึกฝนการซื้อขายโดยไม่ต้องใช้เงินจริง
- **เครื่องมือวิเคราะห์ (Analytical Tools):** เครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ตลาดและคาดการณ์แนวโน้มราคา
| สินทรัพย์อ้างอิง | อัตราการจ่าย (Call Option) | อัตราการจ่าย (Put Option) |
|---|---|---|
| คู่สกุลเงิน EUR/USD | 80% | 80% |
| หุ้น Apple (AAPL) | 75% | 75% |
| สินค้าโภคภัณฑ์ทองคำ (Gold) | 85% | 85% |
คำเตือน (Disclaimer)
การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นมีความเสี่ยงสูง นักลงทุนควรทำความเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดก่อนที่จะลงทุน และควรลงทุนเฉพาะเงินที่สามารถสูญเสียได้เท่านั้น การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นไม่เหมาะสำหรับทุกคน
การจัดการเงินทุน (Money Management) เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น การกำหนดขนาดการซื้อขายที่เหมาะสมและการใช้ Stop Loss สามารถช่วยลดความเสี่ยงได้
การศึกษา การวิเคราะห์ทางเทคนิคขั้นสูง (Advanced Technical Analysis) และ การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis) จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น
การเลือก โบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้ (Reliable Broker) เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าการซื้อขายเป็นไปอย่างโปร่งใสและปลอดภัย
การทำความเข้าใจจิตวิทยาการซื้อขาย (Trading Psychology) จะช่วยให้นักลงทุนสามารถควบคุมอารมณ์และตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล
การใช้ปฏิทินเศรษฐกิจ (Economic Calendar) จะช่วยให้นักลงทุนสามารถติดตามข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญที่มีผลต่อตลาด
การเรียนรู้เกี่ยวกับความเสี่ยงและผลตอบแทน (Risk and Reward) เป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจว่าจะลงทุนในสัญญาใด
การใช้เครื่องมือคำนวณผลตอบแทน (Payout Calculator) จะช่วยให้นักลงทุนสามารถคำนวณผลตอบแทนที่คาดหวังได้
การติดตามข่าวสารตลาด (Market News) จะช่วยให้นักลงทุนสามารถรับทราบข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับตลาด
การฝึกฝนด้วยบัญชีทดลอง (Demo Account Practice) เป็นวิธีที่ดีในการเรียนรู้และพัฒนาทักษะการซื้อขาย
การเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ (Expert Guidance) สามารถช่วยให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดทั่วไป
การปรับปรุงกลยุทธ์การซื้อขาย (Strategy Optimization) เป็นกระบวนการต่อเนื่องที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการซื้อขาย
การบันทึกการซื้อขาย (Trade Journaling) จะช่วยให้นักลงทุนสามารถวิเคราะห์ผลการซื้อขายและระบุจุดที่ต้องปรับปรุง
การทำความเข้าใจกฎระเบียบ (Regulatory Compliance) เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้มั่นใจว่าการซื้อขายเป็นไปตามกฎหมาย
การระบุและหลีกเลี่ยงการหลอกลวง (Scam Awareness) เป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันการสูญเสียเงิน
การใช้ประโยชน์จากเครื่องมือการซื้อขายอัตโนมัติ (Automated Trading Tools) อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการซื้อขาย แต่ควรใช้งานอย่างระมัดระวัง
การติดตามแนวโน้มตลาด (Market Trend Tracking) เป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจว่าจะซื้อขายในทิศทางใด
การเข้าใจผลกระทบของเหตุการณ์สำคัญ (Impact of Major Events) จะช่วยให้นักลงทุนสามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาได้
การใช้ประโยชน์จากกราฟราคา (Price Chart Analysis) เป็นสิ่งสำคัญในการวิเคราะห์แนวโน้มและรูปแบบราคา
การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Leverage (Leverage Understanding) เป็นสิ่งสำคัญในการประเมินความเสี่ยงและผลตอบแทน
การใช้ Stop Loss และ Take Profit (Stop Loss and Take Profit Usage) เป็นสิ่งสำคัญในการจัดการความเสี่ยงและล็อคกำไร
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
