Behavior-driven development

1. 1. Behavior-driven Development (การพัฒนาตามพฤติกรรม)

Behavior-driven Development (BDD) หรือ การพัฒนาตามพฤติกรรม คือ แนวทางการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เน้นการอธิบายพฤติกรรมที่คาดหวังของระบบจากมุมมองของผู้ใช้หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder) โดยใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ไม่ใช่ภาษาทางเทคนิค การพัฒนาตามพฤติกรรมเป็นส่วนหนึ่งของแนวคิดการพัฒนาซอฟต์แวร์แบบ Agile และ Test-driven Development (TDD) แต่ BDD มุ่งเน้นไปที่การสื่อสารและการทำความเข้าใจความต้องการของระบบมากกว่าการเขียนโค้ด

1. 1. 1. ความแตกต่างระหว่าง TDD และ BDD

แม้ว่า TDD และ BDD จะมีความคล้ายคลึงกัน แต่ก็มีความแตกต่างที่สำคัญ:

• **TDD (Test-driven Development):** เน้นการเขียน Unit Test ก่อนที่จะเขียนโค้ด เพื่อตรวจสอบว่าโค้ดทำงานตามที่คาดหวังในระดับย่อยๆ (Unit) ภาษาที่ใช้ในการเขียน Test มักเป็นภาษาโปรแกรมมิ่งโดยตรง
• **BDD (Behavior-driven Development):** เน้นการอธิบายพฤติกรรมของระบบในรูปแบบที่เข้าใจง่าย โดยใช้ภาษาธรรมชาติ (Plain Language) หรือภาษาที่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสามารถเข้าใจได้ ภาษาที่ใช้ในการเขียน BDD มักเป็น Gherkin (Given-When-Then) ซึ่งช่วยให้การสื่อสารระหว่างทีมพัฒนาและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

1. 1. 1. หลักการสำคัญของ BDD

1. **Discovery (การค้นพบ):** การทำความเข้าใจความต้องการของระบบจากมุมมองของผู้ใช้หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย การพูดคุยกับผู้ใช้ การสัมภาษณ์ หรือการรวบรวมข้อกำหนดต่างๆ เป็นส่วนสำคัญของขั้นตอนนี้ 2. **Formulation (การกำหนด):** การแปลงความต้องการที่ได้มาเป็นชุดของตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม (Concrete Examples) โดยใช้ภาษา Gherkin (Given-When-Then) ซึ่งจะช่วยให้ทุกคนในทีมเข้าใจตรงกันว่าระบบควรทำงานอย่างไร 3. **Automation (การทำให้เป็นอัตโนมัติ):** การเขียน Code ที่สามารถตรวจสอบพฤติกรรมของระบบตามตัวอย่างที่กำหนดไว้ โดยใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น Cucumber, SpecFlow หรือ Behat 4. **Verification (การตรวจสอบ):** การรัน Test ที่เขียนไว้เพื่อตรวจสอบว่าระบบทำงานตามที่คาดหวัง และทำการปรับปรุง Code จนกว่า Test จะผ่านทั้งหมด

1. 1. 1. ภาษา Gherkin

Gherkin เป็นภาษาที่ใช้ในการอธิบายพฤติกรรมของระบบในรูปแบบที่เข้าใจง่าย โครงสร้างของ Gherkin ประกอบด้วยสามส่วนหลัก:

• **Given (กำหนด):** อธิบายสถานะเริ่มต้นของระบบ หรือเงื่อนไขเบื้องต้นก่อนที่จะเริ่มการทำงาน
• **When (เมื่อ):** อธิบายเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นกับระบบ
• **Then (แล้ว):** อธิบายผลลัพธ์ที่คาดหวังหลังจากที่เหตุการณ์หรือการกระทำนั้นเกิดขึ้น

ตัวอย่าง:

```gherkin Feature: การถอนเงินจากบัญชี

 Scenario: ถอนเงินสำเร็จ
   Given บัญชีมีเงินอยู่ 1000 บาท
   When ผู้ใช้ทำการถอนเงิน 200 บาท
   Then บัญชีควรมีเงินเหลือ 800 บาท

```

1. 1. 1. เครื่องมือที่ใช้ใน BDD

• **Cucumber:** เป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับการทำ BDD รองรับภาษาโปรแกรมมิ่งหลายภาษา เช่น Ruby, Java, Python และ JavaScript
• **SpecFlow:** เป็นเครื่องมือ BDD สำหรับ .NET Framework
• **Behat:** เป็นเครื่องมือ BDD สำหรับ PHP
• **JBehave:** เป็นเครื่องมือ BDD สำหรับ Java
• **Lettuce:** เป็นเครื่องมือ BDD สำหรับ Python

1. 1. 1. ประโยชน์ของ BDD

• **การสื่อสารที่ดีขึ้น:** BDD ช่วยให้การสื่อสารระหว่างทีมพัฒนาและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย
• **ลดข้อผิดพลาด:** การเขียน Test ตามพฤติกรรมที่คาดหวัง ช่วยลดโอกาสในการเกิดข้อผิดพลาดใน Code
• **เพิ่มความครอบคลุมของ Test:** BDD ช่วยให้มั่นใจได้ว่า Test ครอบคลุมพฤติกรรมทั้งหมดของระบบ
• **ปรับปรุงคุณภาพของซอฟต์แวร์:** ด้วยการเน้นการทำความเข้าใจความต้องการของระบบและการเขียน Test ที่ครอบคลุม BDD ช่วยปรับปรุงคุณภาพของซอฟต์แวร์โดยรวม
• **Documentation ที่ดีกว่า:** ไฟล์ Gherkin สามารถใช้เป็นเอกสารประกอบการใช้งานระบบได้ เนื่องจากอธิบายพฤติกรรมของระบบในรูปแบบที่เข้าใจง่าย

1. 1. 1. การนำ BDD ไปประยุกต์ใช้ใน Binary Options

แม้ว่า BDD จะเป็นแนวทางการพัฒนาซอฟต์แวร์ แต่หลักการของ BDD สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนากลยุทธ์การเทรด Binary Options ได้ โดยการอธิบายพฤติกรรมที่คาดหวังของกลยุทธ์ในรูปแบบ Gherkin ตัวอย่างเช่น:

```gherkin Feature: กลยุทธ์ 60 Second Binary Options

 Scenario: สัญญาณซื้อเมื่อ RSI ต่ำกว่า 30
   Given RSI มีค่าต่ำกว่า 30
   When ราคาปัจจุบันสูงกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วัน
   Then ทำการเปิด Position ซื้อ (Call Option)

```

ในตัวอย่างนี้ เรากำลังอธิบายพฤติกรรมของกลยุทธ์ 60 Second Binary Options โดยใช้ภาษา Gherkin ซึ่งจะช่วยให้เราเข้าใจเงื่อนไขในการเปิด Position ซื้อได้อย่างชัดเจน

1. 1. 1. การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการประยุกต์ใช้ BDD

การใช้ BDD ร่วมกับการวิเคราะห์ทางเทคนิค Technical Analysis สามารถช่วยให้เราพัฒนากลยุทธ์การเทรดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น:

• **Moving Averages:** สามารถใช้ BDD เพื่ออธิบายพฤติกรรมของกลยุทธ์ที่ใช้ Moving Averages ในการตัดสินใจเทรด
• **RSI (Relative Strength Index):** สามารถใช้ BDD เพื่ออธิบายพฤติกรรมของกลยุทธ์ที่ใช้ RSI ในการหาจุดซื้อขาย
• **MACD (Moving Average Convergence Divergence):** สามารถใช้ BDD เพื่ออธิบายพฤติกรรมของกลยุทธ์ที่ใช้ MACD ในการวิเคราะห์แนวโน้มของราคา
• **Bollinger Bands:** สามารถใช้ BDD เพื่ออธิบายพฤติกรรมของกลยุทธ์ที่ใช้ Bollinger Bands ในการหาจังหวะการเทรด
• **Fibonacci Retracement:** สามารถใช้ BDD เพื่ออธิบายพฤติกรรมของกลยุทธ์ที่ใช้ Fibonacci Retracement ในการคาดการณ์แนวรับแนวต้าน

1. 1. 1. การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายและการประยุกต์ใช้ BDD

การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย Volume Analysis สามารถช่วยให้เราเข้าใจแรงซื้อแรงขายในตลาด และนำข้อมูลนี้ไปใช้ในการพัฒนากลยุทธ์การเทรดที่แม่นยำยิ่งขึ้น การใช้ BDD ร่วมกับการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายสามารถช่วยให้เราอธิบายพฤติกรรมของกลยุทธ์ได้อย่างชัดเจน

• **Volume Spike:** สามารถใช้ BDD เพื่ออธิบายพฤติกรรมของกลยุทธ์ที่ใช้ Volume Spike ในการยืนยันสัญญาณเทรด
• **On Balance Volume (OBV):** สามารถใช้ BDD เพื่ออธิบายพฤติกรรมของกลยุทธ์ที่ใช้ OBV ในการวิเคราะห์แนวโน้มของราคา
• **Accumulation/Distribution Line:** สามารถใช้ BDD เพื่ออธิบายพฤติกรรมของกลยุทธ์ที่ใช้ Accumulation/Distribution Line ในการหาจังหวะการเทรด

1. 1. 1. กลยุทธ์ Binary Options และ BDD

การประยุกต์ใช้ BDD ในกลยุทธ์ Binary Options ต่างๆ เช่น:

• **60 Second Strategy:** อธิบายเงื่อนไขการเปิด Position ในช่วงเวลา 60 วินาที
• **Trend Following Strategy:** อธิบายเงื่อนไขการเทรดตามแนวโน้มของราคา
• **Range Trading Strategy:** อธิบายเงื่อนไขการเทรดในกรอบราคา
• **News Trading Strategy:** อธิบายเงื่อนไขการเทรดตามข่าวสารเศรษฐกิจ
• **Straddle Strategy:** อธิบายเงื่อนไขการเปิด Position ทั้ง Call และ Put Option พร้อมกัน

1. 1. 1. ตารางสรุปข้อดีข้อเสียของ BDD

สรุปข้อดีข้อเสียของ Behavior-driven Development

ข้อดี	ข้อเสีย
การสื่อสารที่ดีขึ้นระหว่างทีม	ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ Gherkin
ลดข้อผิดพลาดในการพัฒนา	อาจไม่เหมาะกับโครงการขนาดเล็ก
เพิ่มความครอบคลุมของ Test	ต้องมีการวางแผนและออกแบบ Test อย่างรอบคอบ
ปรับปรุงคุณภาพของซอฟต์แวร์	อาจเพิ่มความซับซ้อนในการพัฒนาในบางกรณี
Documentation ที่ดีกว่า	ต้องมีการบำรุงรักษาไฟล์ Gherkin อย่างสม่ำเสมอ

1. 1. 1. สรุป

Behavior-driven Development (BDD) เป็นแนวทางการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการพัฒนากลยุทธ์การเทรด Binary Options การใช้ BDD ช่วยให้เราเข้าใจความต้องการของระบบ และอธิบายพฤติกรรมที่คาดหวังในรูปแบบที่เข้าใจง่าย ซึ่งจะช่วยลดข้อผิดพลาด เพิ่มความครอบคลุมของ Test และปรับปรุงคุณภาพของซอฟต์แวร์โดยรวม การนำ BDD ไปประยุกต์ใช้ร่วมกับ การวิเคราะห์ทางเทคนิค และ การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย จะช่วยให้เราพัฒนากลยุทธ์การเทรดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในตลาด Binary Options

1. 1. 1. ลิงก์เพิ่มเติม

• การเทรด Binary Options
• การจัดการความเสี่ยงในการเทรด Binary Options
• จิตวิทยาการเทรด
• การวิเคราะห์ตลาด Forex
• การลงทุนระยะยาว
• การลงทุนระยะสั้น
• การสร้างรายได้ออนไลน์
• การวางแผนทางการเงิน
• การเริ่มต้นธุรกิจ
• การตลาดดิจิทัล
• การพัฒนาเว็บไซต์
• การเขียนโปรแกรม
• Data Science
• Machine Learning
• Artificial Intelligence

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น