Android Runtime Environment
- Android Runtime Environment
Android Runtime Environment (ART) คือระบบรันไทม์ที่ใช้ในระบบปฏิบัติการ Android ซึ่งมีความรับผิดชอบในการดำเนินการแอพพลิเคชั่น Android ทั้งหมด ตั้งแต่ Android 4.4 (KitKat) เป็นต้นมา ART ได้เข้ามาแทนที่ Dalvik เป็นระบบรันไทม์เริ่มต้น และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ประสิทธิภาพและความสามารถในการใช้งานดีขึ้น บทความนี้จะอธิบายถึง ART อย่างละเอียดสำหรับผู้เริ่มต้น โดยจะครอบคลุมประวัติ, สถาปัตยกรรม, การทำงาน, ข้อดีข้อเสีย, การเปรียบเทียบกับ Dalvik, การปรับปรุงประสิทธิภาพ, และผลกระทบต่อ การเทรดไบนารี่ออปชั่น (แม้จะดูไม่เกี่ยวข้องกันโดยตรง แต่ประสิทธิภาพของอุปกรณ์มีผลต่อความรวดเร็วในการตัดสินใจและดำเนินการเทรด)
ประวัติความเป็นมา
ก่อนปี 2013 ระบบปฏิบัติการ Android ใช้ Dalvik เป็นระบบรันไทม์หลัก Dalvik เป็นเครื่องเสมือน (Virtual Machine) ที่ออกแบบมาสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ โดยรันแอพพลิเคชั่นที่เขียนด้วยภาษา Java หรือภาษาอื่นๆ ที่ถูกแปลงเป็น bytecode สำหรับ Dalvik อย่างไรก็ตาม Dalvik มีข้อจำกัดบางประการ เช่น ประสิทธิภาพที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับระบบรันไทม์อื่นๆ และการใช้หน่วยความจำที่ค่อนข้างสูง
เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ Google ได้พัฒนา ART ขึ้นมา ART ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกใน Android 4.4 (KitKat) ในฐานะตัวเลือกเสริม และกลายมาเป็นระบบรันไทม์เริ่มต้นใน Android 5.0 (Lollipop) ตั้งแต่นั้นมา ART ก็ได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องในแต่ละรุ่นของ Android เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการใช้งาน
สถาปัตยกรรมของ ART
สถาปัตยกรรมของ ART มีความซับซ้อนพอสมควร แต่สามารถแบ่งออกเป็นส่วนประกอบหลักๆ ได้ดังนี้:
- Bytecode Verifier: ตรวจสอบ bytecode ของแอพพลิเคชั่นเพื่อให้แน่ใจว่ามีความปลอดภัยและถูกต้อง
- Compiler: แปลง bytecode เป็น Native Machine Code ซึ่งช่วยให้แอพพลิเคชั่นทำงานได้เร็วขึ้น
- Dex Compiler: แปลงไฟล์ .dex (Dalvik Executable) ซึ่งเป็นไฟล์ที่เก็บ bytecode ของแอพพลิเคชั่น Android เป็นไฟล์ .o (Object file) ที่สามารถนำไปรวมกับไลบรารีอื่นๆ ได้
- Linker: รวมไฟล์ .o กับไลบรารีต่างๆ เพื่อสร้างไฟล์ executable ที่สามารถรันได้
- Garbage Collector: จัดการหน่วยความจำโดยอัตโนมัติ โดยการเก็บกวาดหน่วยความจำที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว
- Profile Compiler: รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการใช้งานแอพพลิเคชั่น และใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการคอมไพล์ bytecode ในครั้งต่อไป
การทำงานของ ART
การทำงานของ ART สามารถแบ่งออกเป็นขั้นตอนหลักๆ ได้ดังนี้:
1. การติดตั้งแอพพลิเคชั่น: เมื่อติดตั้งแอพพลิเคชั่น Android ไฟล์ .dex จะถูกแปลงเป็นไฟล์ .o โดย Dex Compiler 2. การคอมไพล์: ไฟล์ .o จะถูกรวมกับไลบรารีต่างๆ โดย Linker เพื่อสร้างไฟล์ executable 3. การรันแอพพลิเคชั่น: เมื่อรันแอพพลิเคชั่น ART จะโหลดไฟล์ executable เข้าสู่หน่วยความจำ และเริ่มดำเนินการตามคำสั่งที่อยู่ในไฟล์นั้น 4. การจัดการหน่วยความจำ: Garbage Collector จะทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อจัดการหน่วยความจำ โดยการเก็บกวาดหน่วยความจำที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว
ART ใช้เทคนิคการคอมไพล์แบบ Ahead-of-Time (AOT) ซึ่งหมายความว่า bytecode จะถูกแปลงเป็น Native Machine Code ในระหว่างการติดตั้งแอพพลิเคชั่น แทนที่จะแปลงในขณะที่แอพพลิเคชั่นกำลังทำงาน เทคนิคนี้ช่วยให้แอพพลิเคชั่นทำงานได้เร็วขึ้น เนื่องจากไม่ต้องเสียเวลาในการแปลง bytecode ในขณะที่รัน
ข้อดีและข้อเสียของ ART
ข้อดี:
- ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น: การใช้เทคนิค AOT ทำให้แอพพลิเคชั่นทำงานได้เร็วขึ้นเมื่อเทียบกับ Dalvik
- การใช้หน่วยความจำที่น้อยลง: ART มีการจัดการหน่วยความจำที่ดีกว่า Dalvik ทำให้ใช้หน่วยความจำน้อยลง
- การจัดการขยะ (Garbage Collection) ที่มีประสิทธิภาพ: ART มี Garbage Collector ที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งช่วยลดปัญหาเรื่องหน่วยความจำรั่วไหล
- การรองรับมาตรฐานใหม่ๆ: ART รองรับมาตรฐาน Java Language Specification (JLS) รุ่นใหม่ๆ ทำให้สามารถใช้คุณสมบัติใหม่ๆ ของภาษา Java ได้
ข้อเสีย:
- ระยะเวลาในการติดตั้งที่นานขึ้น: การคอมไพล์ bytecode เป็น Native Machine Code ในระหว่างการติดตั้งแอพพลิเคชั่น ทำให้ใช้เวลานานกว่า Dalvik
- ขนาดไฟล์ APK ที่ใหญ่ขึ้น: ไฟล์ executable ที่สร้างโดย ART มีขนาดใหญ่กว่าไฟล์ .dex ที่ใช้โดย Dalvik
- ความซับซ้อน: สถาปัตยกรรมของ ART มีความซับซ้อนมากกว่า Dalvik ทำให้ยากต่อการทำความเข้าใจและแก้ไขปัญหา
การเปรียบเทียบ ART กับ Dalvik
| !- | Dalvik | ART | | ต่ำกว่า | สูงกว่า | | สูงกว่า | ต่ำกว่า | | Just-In-Time (JIT) | Ahead-of-Time (AOT) | | เร็วกว่า | ช้ากว่า | | เล็กกว่า | ใหญ่กว่า | | น้อยประสิทธิภาพ | มีประสิทธิภาพสูง | |
การปรับปรุงประสิทธิภาพของ ART
Google ได้ทำการปรับปรุงประสิทธิภาพของ ART อย่างต่อเนื่องในแต่ละรุ่นของ Android การปรับปรุงเหล่านี้รวมถึง:
- การปรับปรุง Compiler: Compiler ได้รับการปรับปรุงให้สามารถสร้าง Native Machine Code ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
- การปรับปรุง Garbage Collector: Garbage Collector ได้รับการปรับปรุงให้สามารถจัดการหน่วยความจำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- การเพิ่มประสิทธิภาพในการโหลดและรันแอพพลิเคชั่น: ART ได้รับการปรับปรุงให้สามารถโหลดและรันแอพพลิเคชั่นได้เร็วขึ้น
- การใช้เทคนิคการเพิ่มประสิทธิภาพอื่นๆ: เช่น การใช้ caching, การลดการใช้หน่วยความจำ, และการปรับปรุงการจัดการ thread
ผลกระทบต่อการเทรดไบนารี่ออปชั่น
แม้ว่า ART จะเป็นส่วนหนึ่งของระบบปฏิบัติการ Android และไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการเทรด ไบนารี่ออปชั่น แต่ประสิทธิภาพของอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่ใช้ ART ก็มีผลกระทบต่อประสบการณ์การเทรดของผู้ใช้ได้ ดังนี้:
- ความเร็วในการตอบสนอง: อุปกรณ์ที่มี ART ที่ได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น จะสามารถตอบสนองต่อการกระทำของผู้ใช้ได้เร็วขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเทรดไบนารี่ออปชั่นที่ต้องการการตัดสินใจที่รวดเร็ว
- ความเสถียร: ART ที่มีเสถียรภาพสูง จะช่วยลดโอกาสที่แอพพลิเคชั่นเทรดจะเกิดข้อผิดพลาดหรือแครช ซึ่งอาจทำให้พลาดโอกาสในการเทรดได้
- การใช้พลังงาน: ART ที่มีการจัดการพลังงานที่ดี จะช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของอุปกรณ์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่เทรดไบนารี่ออปชั่นเป็นเวลานาน
ดังนั้น การเลือกใช้อุปกรณ์ Android ที่มี ART รุ่นใหม่และได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดี จะสามารถช่วยให้ผู้เทรดไบนารี่ออปชั่นได้รับประสบการณ์การเทรดที่ดีขึ้นได้
กลยุทธ์การเทรดที่ได้รับผลกระทบจากประสิทธิภาพอุปกรณ์
บาง กลยุทธ์การเทรด ที่เน้นการตอบสนองที่รวดเร็ว เช่น Scalping และ Day Trading จะได้รับผลกระทบโดยตรงจากประสิทธิภาพของอุปกรณ์ หากอุปกรณ์มีประสิทธิภาพต่ำ อาจทำให้ไม่สามารถดำเนินการเทรดได้อย่างทันท่วงที และพลาดโอกาสในการทำกำไรได้
การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย
การใช้เครื่องมือ การวิเคราะห์ทางเทคนิค และ การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย มักจะต้องใช้แอพพลิเคชั่นที่ต้องประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก อุปกรณ์ที่มี ART ที่มีประสิทธิภาพสูงจะสามารถประมวลผลข้อมูลเหล่านี้ได้เร็วขึ้น ทำให้ผู้เทรดสามารถวิเคราะห์ตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ตัวชี้วัดทางเทคนิค (Technical Indicators)
การคำนวณ ตัวชี้วัดทางเทคนิค เช่น Moving Averages, Relative Strength Index (RSI), และ MACD อาจต้องใช้ทรัพยากรของอุปกรณ์จำนวนมาก อุปกรณ์ที่มี ART ที่มีประสิทธิภาพสูงจะสามารถคำนวณตัวชี้วัดเหล่านี้ได้เร็วขึ้น ทำให้ผู้เทรดสามารถตัดสินใจเทรดได้อย่างรวดเร็ว
แนวโน้มของตลาด (Market Trends)
การติดตาม แนวโน้มของตลาด และ รูปแบบราคา (Price Patterns) จำเป็นต้องใช้การแสดงผลข้อมูลแบบเรียลไทม์ อุปกรณ์ที่มี ART ที่มีประสิทธิภาพสูงจะสามารถแสดงผลข้อมูลเหล่านี้ได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว
การบริหารความเสี่ยง (Risk Management)
การใช้เครื่องมือ การบริหารความเสี่ยง เช่น การตั้งค่า Stop-Loss และ Take-Profit ต้องใช้การตอบสนองที่รวดเร็ว อุปกรณ์ที่มี ART ที่มีประสิทธิภาพสูงจะสามารถดำเนินการคำสั่งเหล่านี้ได้อย่างทันท่วงที
การวิเคราะห์ความผันผวน (Volatility Analysis)
การวิเคราะห์ ความผันผวน ของตลาดมักจะต้องใช้การคำนวณที่ซับซ้อน อุปกรณ์ที่มี ART ที่มีประสิทธิภาพสูงจะสามารถทำการคำนวณเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
การใช้ประโยชน์จากข่าวสาร (News Trading)
การเทรดโดยใช้ประโยชน์จาก ข่าวสาร จำเป็นต้องมีการตอบสนองที่รวดเร็วต่อข่าวสารที่เผยแพร่ อุปกรณ์ที่มี ART ที่มีประสิทธิภาพสูงจะช่วยให้ผู้เทรดสามารถตอบสนองต่อข่าวสารได้อย่างทันท่วงที
การเทรดตามฤดูกาล (Seasonal Trading)
การวิเคราะห์ การเทรดตามฤดูกาล มักจะต้องใช้ข้อมูลในอดีตจำนวนมาก อุปกรณ์ที่มี ART ที่มีประสิทธิภาพสูงจะสามารถประมวลผลข้อมูลเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็ว
การเทรดตามความสัมพันธ์ (Correlation Trading)
การวิเคราะห์ ความสัมพันธ์ ระหว่างสินทรัพย์ต่างๆ จำเป็นต้องใช้การคำนวณที่ซับซ้อน อุปกรณ์ที่มี ART ที่มีประสิทธิภาพสูงจะสามารถทำการคำนวณเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็ว
การใช้ระบบอัตโนมัติ (Automated Trading)
การใช้ ระบบอัตโนมัติ ในการเทรดต้องการความเสถียรและความแม่นยำของอุปกรณ์ อุปกรณ์ที่มี ART ที่มีเสถียรภาพสูงจะช่วยให้ระบบอัตโนมัติทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การทดสอบกลยุทธ์ย้อนหลัง (Backtesting)
การ ทดสอบกลยุทธ์ย้อนหลัง จำเป็นต้องใช้การประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก อุปกรณ์ที่มี ART ที่มีประสิทธิภาพสูงจะสามารถทำการทดสอบกลยุทธ์ย้อนหลังได้อย่างรวดเร็ว
การจัดการเงินทุน (Money Management)
การใช้เครื่องมือ การจัดการเงินทุน เช่น การคำนวณขนาดล็อตที่เหมาะสม ต้องการการประมวลผลที่รวดเร็ว อุปกรณ์ที่มี ART ที่มีประสิทธิภาพสูงจะสามารถทำการคำนวณเหล่านี้ได้อย่างทันท่วงที
บทสรุป
Android Runtime Environment (ART) เป็นส่วนประกอบสำคัญของระบบปฏิบัติการ Android ที่มีผลต่อประสิทธิภาพและความสามารถในการใช้งานของแอพพลิเคชั่น Android แม้ว่าจะไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการเทรดไบนารี่ออปชั่น แต่ประสิทธิภาพของอุปกรณ์ที่ใช้ ART ก็มีผลกระทบต่อประสบการณ์การเทรดของผู้ใช้ได้ การเลือกใช้อุปกรณ์ Android ที่มี ART รุ่นใหม่และได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดี จะสามารถช่วยให้ผู้เทรดไบนารี่ออปชั่นได้รับประสบการณ์การเทรดที่ดีขึ้น และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
