Active Income

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. Active Income: รายได้ที่ต้องลงมือทำ สำหรับเทรดเดอร์ไบนารี่ออปชั่น

Active Income หรือ รายได้เชิงรุก คือ รายได้ที่ได้มาจากการทำงาน หรือ การลงมือทำกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง หากหยุดทำ รายได้ก็จะหยุดตามไปด้วย ต่างจาก Passive Income หรือ รายได้เชิงรับ ที่สามารถสร้างรายได้แม้ในขณะที่เราไม่ได้ลงมือทำโดยตรง ในบริบทของ ไบนารี่ออปชั่น (Binary Options) การสร้าง Active Income คือ การทำกำไรจากการเทรดอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งต้องอาศัยความรู้ ทักษะ และวินัยในการเทรดอย่างต่อเนื่อง

      1. ความแตกต่างระหว่าง Active Income และ Passive Income

เพื่อให้เข้าใจถึงความสำคัญของ Active Income ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น เรามาดูความแตกต่างระหว่างสองรูปแบบรายได้นี้:

| ลักษณะ | Active Income | Passive Income | |---|---|---| | **แหล่งที่มา** | การทำงาน, การลงมือทำ | การลงทุน, ทรัพย์สิน | | **ความต่อเนื่อง** | ต้องลงมือทำอย่างต่อเนื่อง | สร้างรายได้แม้ไม่ได้ลงมือทำ | | **ตัวอย่าง** | เงินเดือน, ค่าจ้าง, รายได้จากการเทรด | ดอกเบี้ย, เงินปันผล, ค่าเช่า, รายได้จาก Affiliate Marketing | | **ความเสี่ยง** | ขึ้นอยู่กับความสามารถและสภาวะตลาด | ขึ้นอยู่กับการลงทุนและสภาวะตลาด | | **การควบคุม** | ควบคุมได้โดยตรง | ควบคุมได้น้อยกว่า |

สำหรับเทรดเดอร์ไบนารี่ออปชั่น Active Income คือเป้าหมายหลักในการสร้างผลกำไรจากการเทรด แต่การสร้าง Passive Income จากการเทรดก็เป็นไปได้เช่นกัน เช่น การพัฒนา ระบบเทรดอัตโนมัติ (Automated Trading System) หรือ EA (Expert Advisor) สำหรับแพลตฟอร์มที่รองรับ แม้ว่าระบบเหล่านี้จะช่วยสร้างรายได้ในขณะที่เราไม่ได้เทรดเอง แต่ก็ยังต้องมีการตรวจสอบและปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ

      1. ทำไม Active Income จึงสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ไบนารี่ออปชั่น
  • **ควบคุมผลกำไรได้โดยตรง:** เทรดเดอร์สามารถควบคุมผลกำไรได้โดยการเลือก สินทรัพย์อ้างอิง (Underlying Asset) ระยะเวลา (Expiry Time) และ จำนวนเงินลงทุน (Investment Amount) ที่เหมาะสม
  • **พัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง:** การเทรดอย่างสม่ำเสมอช่วยให้เทรดเดอร์พัฒนาทักษะในการ วิเคราะห์กราฟ (Chart Analysis) การอ่านสัญญาณ (Signal Interpretation) และ การบริหารความเสี่ยง (Risk Management)
  • **ปรับตัวตามสภาวะตลาด:** สภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เทรดเดอร์ที่สร้าง Active Income จะสามารถปรับตัวและปรับกลยุทธ์การเทรดให้เข้ากับสภาวะตลาดปัจจุบันได้
  • **สร้างรายได้ที่แน่นอน:** แม้ว่าการเทรดไบนารี่ออปชั่นจะมีความเสี่ยง แต่การมีกลยุทธ์การเทรดที่แข็งแกร่งและวินัยในการเทรดจะช่วยสร้างรายได้ที่แน่นอนในระยะยาว
      1. กลยุทธ์ Active Income สำหรับไบนารี่ออปชั่น

มีกลยุทธ์มากมายที่เทรดเดอร์สามารถใช้เพื่อสร้าง Active Income จากการเทรดไบนารี่ออปชั่น ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยม:

1. **กลยุทธ์ 60 วินาที:** (60 Second Strategy) เป็นกลยุทธ์ระยะสั้นที่เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการผลกำไรอย่างรวดเร็ว แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน ต้องอาศัยการวิเคราะห์ แทรนด์ (Trend) อย่างรวดเร็วและแม่นยำ 2. **กลยุทธ์ Trend Following:** (Trend Following Strategy) เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการเทรดตามทิศทางของเทรนด์หลัก เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการเทรดในระยะยาวและมีความอดทน 3. **กลยุทธ์ Range Trading:** (Range Trading Strategy) เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการเทรดในกรอบราคาที่จำกัด เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการเทรดในสภาวะตลาด Sideways 4. **กลยุทธ์ Breakout Trading:** (Breakout Trading Strategy) เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการเทรดเมื่อราคา Breakout จากกรอบราคาเดิม เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการเทรดในสภาวะตลาดที่มีความผันผวนสูง 5. **กลยุทธ์ Pin Bar:** (Pin Bar Strategy) เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการระบุสัญญาณกลับตัวของราคา โดยใช้รูปแบบแท่งเทียน Pin Bar 6. **กลยุทธ์ Engulfing:** (Engulfing Strategy) เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการระบุสัญญาณกลับตัวของราคา โดยใช้รูปแบบแท่งเทียน Engulfing 7. **กลยุทธ์ Moving Average Crossover:** (Moving Average Crossover Strategy) เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการระบุสัญญาณการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์ โดยใช้เส้น Moving Average 8. **กลยุทธ์ RSI Divergence:** (RSI Divergence Strategy) เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการระบุสัญญาณการกลับตัวของราคา โดยใช้ตัวชี้วัด RSI (Relative Strength Index) 9. **กลยุทธ์ MACD Crossover:** (MACD Crossover Strategy) เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการระบุสัญญาณการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์ โดยใช้ตัวชี้วัด MACD (Moving Average Convergence Divergence) 10. **กลยุทธ์ Bollinger Bands:** (Bollinger Bands Strategy) เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการระบุช่วงราคาที่ผันผวน โดยใช้ Bollinger Bands 11. **กลยุทธ์ Japanese Candlestick Patterns:** (Japanese Candlestick Patterns Strategy) การทำความเข้าใจรูปแบบแท่งเทียนญี่ปุ่น เช่น Doji, Hammer, Hanging Man, Shooting Star จะช่วยในการคาดการณ์ทิศทางราคา 12. **กลยุทธ์ Price Action:** (Price Action Strategy) การวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาโดยไม่ต้องพึ่งตัวชี้วัดใดๆ 13. **กลยุทธ์ Support and Resistance:** (Support and Resistance Strategy) การระบุแนวรับและแนวต้านเพื่อคาดการณ์จุดกลับตัวของราคา 14. **กลยุทธ์ Fibonacci Retracement:** (Fibonacci Retracement Strategy) การใช้ระดับ Fibonacci เพื่อคาดการณ์ระดับแนวรับและแนวต้าน 15. **กลยุทธ์ Volume Spread Analysis (VSA):** (Volume Spread Analysis Strategy) การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายและ Spread เพื่อทำความเข้าใจแรงซื้อขายในตลาด

      1. การบริหารความเสี่ยง (Risk Management)

การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการสร้าง Active Income จากการเทรดไบนารี่ออปชั่น ต่อไปนี้เป็นหลักการสำคัญในการบริหารความเสี่ยง:

  • **กำหนดขนาดการลงทุน:** (Investment Size) ไม่ควรลงทุนเกิน 5% ของเงินทุนทั้งหมดในการเทรดแต่ละครั้ง
  • **ใช้ Stop Loss:** (Stop Loss) แม้ว่าไบนารี่ออปชั่นจะไม่มี Stop Loss แบบดั้งเดิม แต่การเลือก ระยะเวลา (Expiry Time) ที่เหมาะสมก็สามารถทำหน้าที่คล้ายกับ Stop Loss ได้
  • **กระจายความเสี่ยง:** (Diversification) ไม่ควรเทรดสินทรัพย์อ้างอิงเพียงอย่างเดียว ควร กระจายการลงทุน (Diversify Investment) ไปยังสินทรัพย์อื่นๆ
  • **ควบคุมอารมณ์:** (Emotional Control) ไม่ควรเทรดด้วยอารมณ์ ควรเทรดตามแผนที่วางไว้เท่านั้น
  • **บันทึกผลการเทรด:** (Trading Journal) การบันทึกผลการเทรดจะช่วยให้เราวิเคราะห์ข้อผิดพลาดและปรับปรุงกลยุทธ์การเทรดได้
      1. เครื่องมือวิเคราะห์ที่จำเป็นสำหรับ Active Income
  • **การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis):** การวิเคราะห์ทางเทคนิค เป็นการศึกษาข้อมูลในอดีตเพื่อคาดการณ์แนวโน้มในอนาคต โดยใช้ กราฟ (Charts) และ ตัวชี้วัด (Indicators) ต่างๆ
  • **การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis):** การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน เป็นการศึกษาปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิง เช่น ข่าวเศรษฐกิจ, การเมือง, และผลประกอบการของบริษัท
  • **การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis):** การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย เป็นการศึกษาปริมาณการซื้อขายเพื่อทำความเข้าใจแรงซื้อขายในตลาด
  • **ปฏิทินเศรษฐกิจ (Economic Calendar):** ปฏิทินเศรษฐกิจ เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการทราบข่าวเศรษฐกิจที่อาจมีผลต่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิง
  • **เครื่องมือวาดกราฟ (Charting Tools):** เครื่องมือวาดกราฟ ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถวาดแนวรับ, แนวต้าน, และรูปแบบกราฟต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ
      1. สรุป

Active Income ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น คือ รายได้ที่เกิดจากการลงมือเทรดอย่างสม่ำเสมอ การสร้าง Active Income ต้องอาศัยความรู้ ทักษะ วินัย และการบริหารความเสี่ยงที่ดี การเลือกกลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสม การวิเคราะห์ตลาดอย่างแม่นยำ และการควบคุมอารมณ์ จะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถสร้างรายได้ที่แน่นอนและยั่งยืนจากการเทรดไบนารี่ออปชั่นได้

การบริหารเงินทุน กลยุทธ์การเทรด ตัวชี้วัดทางเทคนิค การวิเคราะห์ตลาด จิตวิทยาการเทรด แพลตฟอร์มไบนารี่ออปชั่น ข่าวสารตลาด การเรียนรู้ไบนารี่ออปชั่น

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер