เทรดฟอเร็กซ์
- เทรดฟอเร็กซ์ สำหรับผู้เริ่มต้น
บทนำ
ตลาดฟอเร็กซ์ หรือ Foreign Exchange (FX) เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดและมีสภาพคล่องสูงที่สุดในโลก โดยมีการซื้อขายสกุลเงินต่างๆ เพื่อทำกำไรจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน เทรดเดอร์ฟอเร็กซ์จะคาดการณ์ว่ามูลค่าของสกุลเงินหนึ่งเมื่อเทียบกับอีกสกุลเงินหนึ่งจะสูงขึ้นหรือต่ำลงในอนาคต และทำการซื้อขายตามนั้น บทความนี้ออกแบบมาสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการทำความเข้าใจเกี่ยวกับตลาดฟอเร็กซ์ตั้งแต่พื้นฐาน รวมถึงศัพท์เฉพาะ กลไกการทำงาน ความเสี่ยง และกลยุทธ์การเทรดเบื้องต้น
ฟอเร็กซ์คืออะไร?
ฟอเร็กซ์ย่อมาจาก Foreign Exchange ซึ่งหมายถึงการแลกเปลี่ยนสกุลเงินหนึ่งไปเป็นอีกสกุลเงินหนึ่ง การซื้อขายฟอเร็กซ์เกิดขึ้นตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ (จันทร์ถึงศุกร์) โดยศูนย์กลางการซื้อขายหลักๆ ได้แก่ ลอนดอน นิวยอร์ก และโตเกียว เนื่องจากไม่มีตลาดศูนย์กลาง ทำให้ฟอเร็กซ์เป็นตลาด OTC (Over-The-Counter) หรือตลาดนอกสถานที่ ซึ่งการซื้อขายเกิดขึ้นโดยตรงระหว่างผู้เข้าร่วมตลาดผ่านเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์
คู่สกุลเงิน
การซื้อขายฟอเร็กซ์จะเกิดขึ้นเป็นคู่สกุลเงิน (Currency Pair) เช่น EUR/USD (ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐ) GBP/USD (ปอนด์สเตอร์ลิง/ดอลลาร์สหรัฐ) หรือ USD/JPY (ดอลลาร์สหรัฐ/เยนญี่ปุ่น) ค่าของคู่สกุลเงินแสดงถึงจำนวนสกุลเงินที่สองที่จำเป็นในการซื้อ 1 หน่วยของสกุลเงินแรก
- **สกุลเงินฐาน (Base Currency):** สกุลเงินแรกในคู่สกุลเงิน เช่น EUR ใน EUR/USD
- **สกุลเงินอ้างอิง (Quote Currency):** สกุลเงินที่สองในคู่สกุลเงิน เช่น USD ใน EUR/USD
ถ้า EUR/USD อยู่ที่ 1.1000 หมายความว่าต้องใช้ 1.10 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อซื้อ 1 ยูโร
ประเภทการซื้อขายฟอเร็กซ์
การซื้อขายฟอเร็กซ์มีหลายประเภท แต่ที่นิยมมีดังนี้:
- **Spot Market:** การซื้อขายสกุลเงิน ณ ราคาปัจจุบัน โดยการส่งมอบเงินจะเกิดขึ้นในอีกสองวันทำการ (T+2)
- **Forward Market:** การตกลงซื้อขายสกุลเงินในอนาคตตามราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
- **Futures Market:** การซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของสกุลเงินในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
- **Options Market:** การซื้อขายสิทธิในการซื้อหรือขายสกุลเงินในอนาคต
ผู้เข้าร่วมตลาดฟอเร็กซ์
ตลาดฟอเร็กซ์มีผู้เข้าร่วมหลากหลายกลุ่ม ได้แก่:
- **ธนาคารกลาง (Central Banks):** มีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายการเงินและแทรกแซงตลาดเพื่อควบคุมค่าเงิน
- **ธนาคารพาณิชย์ (Commercial Banks):** ทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการหลักในการซื้อขายฟอเร็กซ์ให้กับลูกค้า
- **สถาบันการเงิน (Financial Institutions):** เช่น กองทุนเฮดจ์ฟันด์ (Hedge Funds) และบริษัทจัดการสินทรัพย์ (Asset Management Companies)
- **บริษัทข้ามชาติ (Multinational Corporations):** ทำการซื้อขายสกุลเงินเพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ เช่น การชำระเงินระหว่างประเทศ
- **นักลงทุนรายย่อย (Retail Traders):** เทรดเดอร์รายบุคคลที่ทำการซื้อขายฟอเร็กซ์ผ่านโบรกเกอร์
คำศัพท์สำคัญในฟอเร็กซ์
- **Pip (Percentage in Point):** หน่วยวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาในคู่สกุลเงิน โดยปกติจะเป็นเลขทศนิยม 4 ตำแหน่ง (ยกเว้นคู่สกุลเงินที่มีเยนเป็นสกุลเงินอ้างอิง ซึ่งจะเป็น 2 ตำแหน่ง)
- **Spread:** ผลต่างระหว่างราคาซื้อ (Ask Price) และราคาขาย (Bid Price)
- **Leverage:** การใช้เงินทุนกู้ยืมเพื่อเพิ่มขนาดของการซื้อขาย ซึ่งสามารถเพิ่มผลกำไรและผลขาดทุนได้
- **Margin:** เงินจำนวนหนึ่งที่เทรดเดอร์ต้องฝากไว้กับโบรกเกอร์เพื่อเปิดสถานะการซื้อขาย
- **Lot:** ขนาดของการซื้อขายมาตรฐาน โดยปกติ 1 Lot เท่ากับ 100,000 หน่วยของสกุลเงินฐาน
- **Stop Loss:** คำสั่งปิดสถานะการซื้อขายโดยอัตโนมัติเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนดไว้ เพื่อจำกัดผลขาดทุน
- **Take Profit:** คำสั่งปิดสถานะการซื้อขายโดยอัตโนมัติเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนดไว้ เพื่อล็อคผลกำไร
การวิเคราะห์ตลาดฟอเร็กซ์
การวิเคราะห์ตลาดฟอเร็กซ์มีความสำคัญอย่างยิ่งในการตัดสินใจซื้อขาย มี 3 แนวทางหลัก:
- **การวิเคราะห์พื้นฐาน (Fundamental Analysis):** การวิเคราะห์ปัจจัยทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมที่มีผลต่อมูลค่าของสกุลเงิน เช่น อัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ การเติบโตทางเศรษฐกิจ และความมั่นคงทางการเมือง การวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาค
- **การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis):** การวิเคราะห์รูปแบบราคา (Price Patterns) และตัวชี้วัดทางเทคนิค (Technical Indicators) เพื่อคาดการณ์แนวโน้มราคาในอนาคต การวิเคราะห์ทางเทคนิค
- **การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis):** การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายเพื่อประเมินความแข็งแกร่งของแนวโน้มราคา การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย
กลยุทธ์การเทรดฟอเร็กซ์
มีกลยุทธ์การเทรดฟอเร็กซ์มากมายให้เลือกใช้ ขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรดและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ตัวอย่างเช่น:
- **Scalping:** การทำกำไรจากความผันผวนของราคาในช่วงเวลาสั้นๆ (ไม่กี่วินาทีถึงนาที) Scalping
- **Day Trading:** การเปิดและปิดสถานะการซื้อขายภายในวันเดียวกัน Day Trading
- **Swing Trading:** การถือสถานะการซื้อขายเป็นระยะเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ เพื่อทำกำไรจากแนวโน้มราคาที่ใหญ่ขึ้น Swing Trading
- **Position Trading:** การถือสถานะการซื้อขายเป็นระยะเวลานาน (หลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน) เพื่อทำกำไรจากแนวโน้มราคาในระยะยาว Position Trading
- **Breakout Trading:** การซื้อขายเมื่อราคาทะลุแนวต้านหรือแนวรับสำคัญ Breakout Trading
- **Trend Following:** การซื้อขายตามแนวโน้มราคาที่กำลังเกิดขึ้น Trend Following
- **Mean Reversion:** การซื้อขายโดยคาดว่าราคาจะกลับสู่ค่าเฉลี่ย Mean Reversion
- **Fibonacci Retracement:** การใช้ระดับ Fibonacci เพื่อระบุแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้ Fibonacci Retracement
- **Moving Average Crossover:** การใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เพื่อระบุสัญญาณซื้อขาย Moving Average Crossover
- **Bollinger Bands:** การใช้ Bollinger Bands เพื่อวัดความผันผวนของราคา Bollinger Bands
- **RSI (Relative Strength Index):** การใช้ RSI เพื่อวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้มราคา RSI
- **MACD (Moving Average Convergence Divergence):** การใช้ MACD เพื่อระบุสัญญาณซื้อขาย MACD
- **Elliott Wave Theory:** การวิเคราะห์รูปแบบราคาตามทฤษฎี Elliott Wave Elliott Wave Theory
- **Ichimoku Cloud:** การใช้ Ichimoku Cloud เพื่อระบุแนวโน้มและระดับแนวรับแนวต้าน Ichimoku Cloud
- **Harmonic Patterns:** การใช้ Harmonic Patterns เพื่อระบุโอกาสในการซื้อขาย Harmonic Patterns
การจัดการความเสี่ยง
การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเทรดฟอเร็กซ์ เนื่องจากตลาดมีความผันผวนสูง:
- **กำหนดขนาด Position ที่เหมาะสม:** ไม่ควรเสี่ยงเกิน 1-2% ของเงินทุนทั้งหมดในแต่ละการซื้อขาย
- **ใช้ Stop Loss เสมอ:** เพื่อจำกัดผลขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น
- **ใช้ Take Profit:** เพื่อล็อคผลกำไรเมื่อราคาถึงระดับที่ต้องการ
- **หลีกเลี่ยงการ Leverage ที่สูงเกินไป:** Leverage สามารถเพิ่มผลกำไรได้ แต่ก็เพิ่มผลขาดทุนได้เช่นกัน
- **กระจายความเสี่ยง:** อย่าลงทุนในคู่สกุลเงินเพียงคู่เดียว
- **มีแผนการเทรดที่ชัดเจน:** และปฏิบัติตามแผนอย่างเคร่งครัด
- **ควบคุมอารมณ์:** อย่าปล่อยให้อารมณ์เข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจซื้อขาย
การเลือกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์
การเลือกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่น่าเชื่อถือมีความสำคัญอย่างยิ่ง พิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น:
- **กฎระเบียบ:** โบรกเกอร์ควรได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินที่น่าเชื่อถือ
- **Spread และค่า Commission:** เปรียบเทียบ Spread และค่า Commission ของโบรกเกอร์ต่างๆ
- **Leverage:** ตรวจสอบ Leverage ที่โบรกเกอร์เสนอ
- **แพลตฟอร์มการซื้อขาย:** เลือกแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ใช้งานง่ายและมีคุณสมบัติที่ต้องการ
- **การสนับสนุนลูกค้า:** ตรวจสอบว่าโบรกเกอร์มีการสนับสนุนลูกค้าที่ดีหรือไม่
- **วิธีการฝากและถอนเงิน:** ตรวจสอบวิธีการฝากและถอนเงินที่โบรกเกอร์รองรับ
บทสรุป
การเทรดฟอเร็กซ์สามารถเป็นโอกาสในการทำกำไรที่น่าสนใจ แต่ก็มีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง การทำความเข้าใจเกี่ยวกับตลาดฟอเร็กซ์ กลไกการทำงาน การวิเคราะห์ตลาด และการจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้เริ่มต้น การฝึกฝนและเรียนรู้อย่างต่อเนื่องจะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการเทรดฟอเร็กซ์
การซื้อขายอัตโนมัติ (Algorithmic trading) การวิเคราะห์เชิงปริมาณ (Quantitative analysis) การบริหารเงินทุน (Money management) จิตวิทยาการเทรด (Trading psychology) ข่าวสารเศรษฐกิจ (Economic news)
| สกุลเงิน | สัญลักษณ์ | คำอธิบาย |
|---|---|---|
| ยูโร | EUR | สกุลเงินของสหภาพยุโรป |
| ดอลลาร์สหรัฐฯ | USD | สกุลเงินของสหรัฐอเมริกา |
| ปอนด์สเตอร์ลิง | GBP | สกุลเงินของสหราชอาณาจักร |
| เยนญี่ปุ่น | JPY | สกุลเงินของญี่ปุ่น |
| ดอลลาร์แคนาดา | CAD | สกุลเงินของแคนาดา |
| ดอลลาร์ออสเตรเลีย | AUD | สกุลเงินของออสเตรเลีย |
| ฟรังก์สวิส | CHF | สกุลเงินของสวิตเซอร์แลนด์ |
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
