เทกโทนิกส์

เทกโทนิกส์ (Tektonics) ในไบนารี่ออปชั่น: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับผู้เริ่มต้น

เทกโทนิกส์ (Tektonics) เป็นคำที่ได้รับความนิยมในวงการการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นและ Forex โดยหมายถึงการวิเคราะห์เชิงลึกในรูปแบบที่ซับซ้อนกว่าการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) แบบดั้งเดิม เน้นการระบุ “โครงสร้างตลาด” (Market Structure) และ “จุดเปลี่ยนแนวโน้ม” (Points of Inflection) เพื่อคาดการณ์ทิศทางราคาในอนาคต บทความนี้จะอธิบายแนวคิดพื้นฐานของเทกโทนิกส์, วิธีการใช้งาน, และความสัมพันธ์กับการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น รวมถึงกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องและข้อควรระวังต่างๆ

เทกโทนิกส์คืออะไร?

เทกโทนิกส์ไม่ใช่เพียงแค่การมองเส้นแนวรับแนวต้าน (Support and Resistance) หรือรูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns) แต่เป็นการทำความเข้าใจว่าราคาเคลื่อนไหวอย่างไรในบริบทของโครงสร้างที่ใหญ่ขึ้น มองหา “บล็อก” (Blocks) หรือ “โซน” (Zones) ของราคาที่แสดงถึงการสะสมหรือการกระจายของคำสั่งซื้อขายของผู้เล่นรายใหญ่ (Institutional Traders) แนวคิดหลักคือราคาจะเคลื่อนที่ในลักษณะที่คาดเดาได้เมื่ออยู่ในโครงสร้างที่ชัดเจน แต่จะมีความผันผวนสูงเมื่อโครงสร้างนั้นถูกทำลายหรือเปลี่ยนแปลง

เทกโทนิกส์มักจะเกี่ยวข้องกับการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคหลายอย่างร่วมกัน เช่น Fibonacci Retracement, Elliott Wave Theory, Ichimoku Cloud, และ Volume Spread Analysis เพื่อยืนยันและเสริมสร้างความน่าเชื่อถือของการวิเคราะห์

โครงสร้างตลาด (Market Structure)

โครงสร้างตลาดคือหัวใจสำคัญของเทกโทนิกส์ ประกอบด้วยองค์ประกอบหลักๆ ดังนี้:

**ขาขึ้น (Uptrend):** ลักษณะโดยการเกิดจุดสูงสุด (Higher Highs) และจุดต่ำสุด (Higher Lows) อย่างต่อเนื่อง แสดงถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่ง
**ขาลง (Downtrend):** ลักษณะโดยการเกิดจุดสูงสุด (Lower Highs) และจุดต่ำสุด (Lower Lows) อย่างต่อเนื่อง แสดงถึงแรงขายที่แข็งแกร่ง
**กรอบราคา (Range):** ราคาเคลื่อนที่ Sideways ระหว่างแนวรับและแนวต้านที่ชัดเจน แสดงถึงความไม่แน่นอนของตลาด
**การ Breakout:** การทะลุแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญ บ่งบอกถึงการเริ่มต้นของแนวโน้มใหม่ หรือการสิ้นสุดของกรอบราคา

การระบุโครงสร้างตลาดที่ถูกต้องเป็นขั้นตอนแรกในการใช้เทกโทนิกส์ การทำความเข้าใจว่าตลาดอยู่ในสภาวะใดจะช่วยให้คุณเลือกกลยุทธ์การซื้อขายที่เหมาะสม

บล็อก (Blocks) และ โซน (Zones)

บล็อกและโซนคือพื้นที่บนกราฟราคาที่แสดงถึงการสะสมหรือการกระจายของคำสั่งซื้อขาย

**บล็อกขาขึ้น (Bullish Block):** พื้นที่ที่ราคาเคยปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งและมีการหยุดพักก่อนที่จะขึ้นต่อ บ่งบอกถึงระดับราคาที่ผู้ซื้อรายใหญ่เข้ามาสะสมสินค้า
**บล็อกขาลง (Bearish Block):** พื้นที่ที่ราคาเคยปรับตัวลงอย่างแข็งแกร่งและมีการหยุดพักก่อนที่จะลงต่อ บ่งบอกถึงระดับราคาที่ผู้ขายรายใหญ่เข้ามาปล่อยสินค้า
**โซนอุปทาน (Supply Zone):** พื้นที่ที่ราคาเคยมีการขายจำนวนมาก บ่งบอกถึงระดับราคาที่อาจเกิดแรงขายอีกครั้ง
**โซนอุปสงค์ (Demand Zone):** พื้นที่ที่ราคาเคยมีการซื้อจำนวนมาก บ่งบอกถึงระดับราคาที่อาจเกิดแรงซื้ออีกครั้ง

การใช้บล็อกและโซนในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นคือการรอให้ราคาเข้าใกล้โซนเหล่านี้ และคาดการณ์ว่าราคาจะตอบสนองต่อโซนนั้นอย่างไร เช่น หากราคาเข้าใกล้โซนอุปสงค์ เราอาจเปิดสถานะซื้อ (Call Option) โดยคาดหวังว่าราคาจะเด้งกลับขึ้น

การระบุจุดเปลี่ยนแนวโน้ม (Points of Inflection)

จุดเปลี่ยนแนวโน้มคือจุดที่แนวโน้มเดิมกำลังจะสิ้นสุดลงและมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนทิศทาง การระบุจุดเปลี่ยนแนวโน้มเป็นสิ่งสำคัญในการหลีกเลี่ยงการติดอยู่ในสถานะที่ผิดทาง (Wrong Side of the Market)

สัญญาณของจุดเปลี่ยนแนวโน้ม ได้แก่:

**การเกิด Divergence:** การที่ราคาทำจุดสูงสุดใหม่ แต่เครื่องมือ Indicator เช่น RSI หรือ MACD ไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ตามได้
**การ Breakout ที่ล้มเหลว:** การที่ราคาพยายามทะลุแนวรับหรือแนวต้าน แต่ไม่สามารถทำได้สำเร็จ และกลับตัวลง
**รูปแบบแท่งเทียนกลับตัว (Reversal Candlestick Patterns):** เช่น Doji, Hammer, Shooting Star ที่เกิดขึ้นในบริเวณสำคัญ
**การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างตลาด:** เช่น การที่ขาขึ้นเริ่มสร้างจุดต่ำสุดที่ต่ำลง หรือขาลงเริ่มสร้างจุดสูงสุดที่สูงขึ้น