รูปแบบ Gartley
- รูปแบบ Gartley: คู่มือสำหรับผู้เริ่มต้นในไบนารี่ออปชั่น
รูปแบบ Gartley เป็นหนึ่งในรูปแบบการกลับตัวของแนวโน้มที่สำคัญและเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ใช้เพื่อระบุโอกาสในการซื้อขายที่อาจเกิดขึ้น โดยอาศัยหลักการของ อัตราส่วน Fibonacci และ การเคลื่อนไหวของราคา ในการทำความเข้าใจรูปแบบนี้อย่างถ่องแท้ ผู้ค้าไบนารี่ออปชั่นสามารถเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้ บทความนี้จะนำเสนอภาพรวมที่ครอบคลุมเกี่ยวกับรูปแบบ Gartley โดยเน้นที่โครงสร้าง การระบุ และการนำไปใช้ในการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น
ประวัติความเป็นมาของรูปแบบ Gartley
รูปแบบ Gartley ได้รับการพัฒนาโดย Harold M. Gartley ในหนังสือของเขา "Profits in the Stock Market" ซึ่งตีพิมพ์ในปี 1935 Gartley เสนอรูปแบบนี้เป็นวิธีการระบุจุดกลับตัวของแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้น แม้ว่ารูปแบบเดิมจะค่อนข้างซับซ้อน แต่ Scott Carney ได้ปรับปรุงและทำให้รูปแบบนี้ใช้งานได้ง่ายขึ้นในปี 2002 โดยการกำหนดอัตราส่วน Fibonacci ที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งทำให้การระบุรูปแบบ Gartley เป็นมาตรฐานในปัจจุบัน
โครงสร้างของรูปแบบ Gartley
รูปแบบ Gartley ประกอบด้วยห้าจุดสำคัญที่เชื่อมต่อกันเพื่อสร้างรูปแบบที่เฉพาะเจาะจง จุดเหล่านี้มักจะถูกระบุด้วยตัวอักษร X, A, B, C และ D โดยแต่ละจุดมีบทบาทสำคัญในการกำหนดความถูกต้องของรูปแบบ ต่อไปนี้คือคำอธิบายโดยละเอียดของแต่ละจุด:
- **X**: จุดเริ่มต้นของรูปแบบ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของแนวโน้ม
- **A**: จุดสิ้นสุดของการปรับฐานครั้งแรกจากแนวโน้มเดิม
- **B**: จุดสิ้นสุดของการกลับตัวจาก A ซึ่งมักจะสูงกว่า X (ในกรณีของรูปแบบขาขึ้น) หรือต่ำกว่า X (ในกรณีของรูปแบบขาลง)
- **C**: จุดสิ้นสุดของการปรับฐานครั้งที่สองจาก B ซึ่งมักจะต่ำกว่า A (ในกรณีของรูปแบบขาขึ้น) หรือสูงกว่า A (ในกรณีของรูปแบบขาลง)
- **D**: จุดสิ้นสุดของการกลับตัวจาก C และเป็นจุดที่คาดว่าจะมีการกลับตัวของแนวโน้ม
รูปแบบ Gartley สามารถเป็นได้ทั้งรูปแบบขาขึ้น (Bullish Gartley) และรูปแบบขาลง (Bearish Gartley) ซึ่งแต่ละรูปแบบมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน
อัตราส่วน Fibonacci ในรูปแบบ Gartley
การทำความเข้าใจอัตราส่วน Fibonacci เป็นสิ่งสำคัญในการระบุรูปแบบ Gartley อย่างถูกต้อง Scott Carney ได้กำหนดอัตราส่วน Fibonacci ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับแต่ละส่วนของรูปแบบ:
- **X-A**: โดยทั่วไปอยู่ที่ 61.8% ของการเคลื่อนไหวทั้งหมด
- **A-B**: โดยทั่วไปอยู่ที่ 38.2% - 88.6% ของการเคลื่อนไหว X-A
- **B-C**: โดยทั่วไปอยู่ที่ 38.2% - 88.6% ของการเคลื่อนไหว A-B
- **C-D**: โดยทั่วไปอยู่ที่ 61.8% - 78.6% ของการเคลื่อนไหว B-C
อัตราส่วนเหล่านี้ไม่ได้เป็นค่าคงที่เสมอไป แต่ให้เป็นแนวทางในการระบุรูปแบบ Gartley ที่มีศักยภาพ การเบี่ยงเบนเล็กน้อยจากอัตราส่วนเหล่านี้สามารถยอมรับได้ แต่การเบี่ยงเบนที่มากเกินไปอาจบ่งชี้ว่ารูปแบบนั้นไม่ถูกต้อง
การระบุรูปแบบ Gartley
การระบุรูปแบบ Gartley อย่างถูกต้องต้องใช้ความอดทนและการสังเกตอย่างละเอียดถี่ถ้วน ต่อไปนี้เป็นขั้นตอนในการระบุรูปแบบ Gartley:
1. **ระบุแนวโน้ม**: เริ่มต้นด้วยการระบุแนวโน้มที่ชัดเจนใน กราฟราคา 2. **ค้นหาจุด X**: มองหาจุดเริ่มต้นของแนวโน้ม ซึ่งเป็นจุด X 3. **ค้นหาจุด A**: มองหาการปรับฐานครั้งแรกจากแนวโน้มเดิม ซึ่งเป็นจุด A 4. **ค้นหาจุด B**: มองหาการกลับตัวจาก A ซึ่งมักจะสูงกว่า X (สำหรับรูปแบบขาขึ้น) หรือต่ำกว่า X (สำหรับรูปแบบขาลง) 5. **ค้นหาจุด C**: มองหาการปรับฐานครั้งที่สองจาก B ซึ่งมักจะต่ำกว่า A (สำหรับรูปแบบขาขึ้น) หรือสูงกว่า A (สำหรับรูปแบบขาลง) 6. **ค้นหาจุด D**: มองหาการกลับตัวจาก C ซึ่งเป็นจุดที่คาดว่าจะมีการกลับตัวของแนวโน้ม 7. **ตรวจสอบอัตราส่วน Fibonacci**: ตรวจสอบว่าอัตราส่วน Fibonacci ระหว่างจุดต่างๆ สอดคล้องกับอัตราส่วนที่กำหนดไว้หรือไม่
รูปแบบ Gartley ขาขึ้น (Bullish Gartley)
รูปแบบ Gartley ขาขึ้นเกิดขึ้นในแนวโน้มขาลง และบ่งชี้ถึงโอกาสในการซื้อ รูปแบบนี้มีลักษณะดังนี้:
- ราคาเคลื่อนที่ลงจากจุด X ไปยังจุด A
- ราคาปรับตัวขึ้นจากจุด A ไปยังจุด B
- ราคาเคลื่อนที่ลงจากจุด B ไปยังจุด C
- ราคาปรับตัวขึ้นจากจุด C ไปยังจุด D
- คาดว่าราคาจะกลับตัวขึ้นจากจุด D และเริ่มต้นแนวโน้มขาขึ้นใหม่
รูปแบบ Gartley ขาลง (Bearish Gartley)
รูปแบบ Gartley ขาลงเกิดขึ้นในแนวโน้มขาขึ้น และบ่งชี้ถึงโอกาสในการขาย รูปแบบนี้มีลักษณะดังนี้:
- ราคาเคลื่อนที่ขึ้นจากจุด X ไปยังจุด A
- ราคาปรับตัวลงจากจุด A ไปยังจุด B
- ราคาเคลื่อนที่ขึ้นจากจุด B ไปยังจุด C
- ราคาปรับตัวลงจากจุด C ไปยังจุด D
- คาดว่าราคาจะกลับตัวลงจากจุด D และเริ่มต้นแนวโน้มขาลงใหม่
การนำรูปแบบ Gartley ไปใช้ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น
เมื่อคุณระบุรูปแบบ Gartley ที่ถูกต้องแล้ว คุณสามารถใช้รูปแบบนี้เพื่อตัดสินใจซื้อขายไบนารี่ออปชั่นได้ ต่อไปนี้เป็นแนวทางในการนำรูปแบบ Gartley ไปใช้:
- **รูปแบบ Gartley ขาขึ้น**: ซื้อ (Call Option) เมื่อราคาถึงจุด D และคาดว่าจะปรับตัวขึ้น
- **รูปแบบ Gartley ขาลง**: ขาย (Put Option) เมื่อราคาถึงจุด D และคาดว่าจะปรับตัวลง
สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่ารูปแบบ Gartley ไม่ได้ให้สัญญาณการซื้อขายที่สมบูรณ์แบบเสมอไป การยืนยันด้วย เครื่องมือทางเทคนิค อื่นๆ เช่น เส้นแนวรับแนวต้าน หรือ รูปแบบแท่งเทียน สามารถช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของสัญญาณได้
การจัดการความเสี่ยงในการซื้อขายรูปแบบ Gartley
เช่นเดียวกับการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นทุกรูปแบบ การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเมื่อซื้อขายรูปแบบ Gartley ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับในการจัดการความเสี่ยง:
- **กำหนด Stop-Loss**: กำหนดระดับ Stop-Loss ที่จุดต่ำกว่าจุด D สำหรับรูปแบบ Gartley ขาขึ้น และสูงกว่าจุด D สำหรับรูปแบบ Gartley ขาลง เพื่อจำกัดการขาดทุน
- **ใช้ขนาด Position ที่เหมาะสม**: อย่าลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถเสียได้ในแต่ละการซื้อขาย
- **ยืนยันด้วยเครื่องมืออื่น**: ใช้เครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อยืนยันสัญญาณจากรูปแบบ Gartley
ข้อดีและข้อเสียของรูปแบบ Gartley
| ข้อดี | ข้อเสีย | | ------------------------------------- | ------------------------------------- | | ระบุโอกาสการกลับตัวของแนวโน้มได้แม่นยำ | ต้องใช้ความอดทนและการสังเกตอย่างละเอียด | | อัตราส่วน Fibonacci ที่ชัดเจน | ไม่ได้ให้สัญญาณที่สมบูรณ์แบบเสมอไป | | สามารถใช้ได้กับกรอบเวลาที่หลากหลาย | อาจใช้เวลานานในการก่อตัวของรูปแบบ | | เป็นที่นิยมและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง | อาจมีความคลุมเครือในการระบุจุดต่างๆ |
รูปแบบที่เกี่ยวข้อง
นอกเหนือจากรูปแบบ Gartley แล้ว ยังมีรูปแบบการกลับตัวของแนวโน้มอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งผู้ค้าไบนารี่ออปชั่นควรรู้จัก:
- รูปแบบ Butterfly: คล้ายกับ Gartley แต่มีอัตราส่วน Fibonacci ที่แตกต่างกัน
- รูปแบบ Crab: เป็นรูปแบบที่ซับซ้อนกว่า Gartley และ Butterfly
- รูปแบบ Bat: เป็นรูปแบบที่ง่ายกว่า Gartley และ Butterfly
- รูปแบบ Cypher: เป็นรูปแบบที่ค่อนข้างใหม่และยังไม่เป็นที่นิยมเท่ารูปแบบอื่นๆ
กลยุทธ์การซื้อขายที่เกี่ยวข้อง
- กลยุทธ์ Price Action: ใช้การเคลื่อนไหวของราคาเพื่อระบุโอกาสในการซื้อขาย
- กลยุทธ์ Trend Following: ซื้อขายตามแนวโน้มหลักของตลาด
- กลยุทธ์ Breakout: ซื้อขายเมื่อราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้าน
- กลยุทธ์ Reversal: ซื้อขายเมื่อคาดว่าจะมีการกลับตัวของแนวโน้ม
- กลยุทธ์ Fibonacci Retracement: ใช้ระดับ Fibonacci เพื่อระบุจุดเข้าซื้อขาย
การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายร่วมกับรูปแบบ Gartley
การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายสามารถช่วยยืนยันสัญญาณจากรูปแบบ Gartley ได้ ตัวอย่างเช่น:
- ในรูปแบบ Gartley ขาขึ้น หากปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นเมื่อราคาปรับตัวขึ้นจากจุด C ไปยังจุด D อาจบ่งชี้ว่ามีแรงซื้อที่แข็งแกร่งและมีแนวโน้มที่ราคาจะกลับตัวขึ้น
- ในรูปแบบ Gartley ขาลง หากปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นเมื่อราคาปรับตัวลงจากจุด C ไปยังจุด D อาจบ่งชี้ว่ามีแรงขายที่แข็งแกร่งและมีแนวโน้มที่ราคาจะกลับตัวลง
เครื่องมือทางเทคนิคเพิ่มเติม
- Moving Averages: ใช้เพื่อระบุแนวโน้มและระดับแนวรับแนวต้าน
- Relative Strength Index (RSI): ใช้เพื่อวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้ม
- MACD: ใช้เพื่อระบุการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม
- Bollinger Bands: ใช้เพื่อวัดความผันผวนของราคา
- Ichimoku Cloud: ใช้เพื่อระบุแนวโน้มและระดับแนวรับแนวต้าน
สรุป
รูปแบบ Gartley เป็นเครื่องมือที่มีคุณค่าสำหรับผู้ค้าไบนารี่ออปชั่นที่ต้องการระบุโอกาสในการกลับตัวของแนวโน้ม อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจโครงสร้าง อัตราส่วน Fibonacci และวิธีการนำไปใช้ในการซื้อขายเป็นสิ่งสำคัญ การจัดการความเสี่ยงและการยืนยันด้วยเครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ สามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้ การฝึกฝนและการสังเกตอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้คุณเชี่ยวชาญในการใช้รูปแบบ Gartley และประสบความสำเร็จในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
