รูปแบบศีรษะและไหล่

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. รูปแบบศีรษะและไหล่

รูปแบบศีรษะและไหล่ (Head and Shoulders pattern) เป็นหนึ่งในรูปแบบราคา (Price Pattern) ที่มีความสำคัญและเป็นที่รู้จักกันดีในการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) ใช้เพื่อบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มจากแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) ไปเป็นแนวโน้มขาลง (Downtrend) หรือการกลับตัวของแนวโน้ม (Trend Reversal) รูปแบบนี้ถูกค้นพบโดย Robert W. Schabacker ในหนังสือของเขา "Technical Analysis and Stock Market Profits" ในปี 1935 และยังคงเป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับนักเทรด นักเทรด ในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาด ไบนารี่ออปชั่น

      1. โครงสร้างของรูปแบบศีรษะและไหล่

รูปแบบศีรษะและไหล่ประกอบด้วยส่วนประกอบหลัก 3 ส่วนด้วยกัน:

1. **ไหล่ซ้าย (Left Shoulder):** เป็นจุดสูงสุด (High) แรกของรูปแบบ เกิดจากการที่ราคาปรับตัวขึ้นแล้วเกิดการปรับฐานลง 2. **ศีรษะ (Head):** เป็นจุดสูงสุดที่สูงกว่าไหล่ซ้าย เกิดจากการที่ราคาปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่สูงขึ้น แต่การปรับตัวขึ้นนี้ไม่สามารถรักษาโมเมนตัมไว้ได้ และเกิดการปรับฐานลงมา 3. **ไหล่ขวา (Right Shoulder):** เป็นจุดสูงสุดที่ต่ำกว่าศีรษะ แต่สูงกว่าไหล่ซ้าย เกิดจากการที่ราคาปรับตัวขึ้นอีกครั้ง แต่ไม่สามารถขึ้นไปสูงเท่าศีรษะได้ และเกิดการปรับฐานลงมา

นอกเหนือจากส่วนประกอบหลักแล้ว ยังมีองค์ประกอบสำคัญอื่นๆ ที่ช่วยยืนยันรูปแบบนี้:

  • **เส้นคอ (Neckline):** เป็นเส้นที่เชื่อมต่อจุดต่ำสุดของการปรับฐานระหว่างไหล่ซ้ายและศีรษะ และระหว่างศีรษะและไหล่ขวา เส้นคอเป็นจุดสำคัญที่ใช้ในการยืนยันการเกิดรูปแบบ และใช้ในการคำนวณเป้าหมายราคา (Price Target)
  • **ปริมาณการซื้อขาย (Volume):** โดยทั่วไปแล้ว ปริมาณการซื้อขายจะลดลงเมื่อราคาขึ้นไปทำจุดสูงสุดแต่ละจุด (ไหล่ซ้าย, ศีรษะ, ไหล่ขวา) และปริมาณการซื้อขายจะเพิ่มขึ้นเมื่อราคา Breakout (ทะลุ) เส้นคอลงมา
      1. การระบุรูปแบบศีรษะและไหล่

การระบุรูปแบบศีรษะและไหล่ต้องอาศัยความแม่นยำและความเข้าใจในโครงสร้างของรูปแบบ การสังเกตปัจจัยต่างๆ ต่อไปนี้จะช่วยให้การระบุรูปแบบมีความแม่นยำมากขึ้น:

  • **ลักษณะของไหล่และศีรษะ:** ตรวจสอบให้แน่ใจว่าศีรษะสูงกว่าไหล่ซ้ายและไหล่ขวาอย่างชัดเจน
  • **เส้นคอ:** วาดเส้นคอที่ชัดเจนและแม่นยำ เชื่อมต่อจุดต่ำสุดของการปรับฐานแต่ละครั้ง
  • **ปริมาณการซื้อขาย:** สังเกตปริมาณการซื้อขายที่เปลี่ยนแปลงไปตามการเคลื่อนไหวของราคา
  • **กรอบเวลา (Timeframe):** รูปแบบศีรษะและไหล่สามารถปรากฏในกรอบเวลาต่างๆ ได้ แต่โดยทั่วไปแล้ว มักจะปรากฏในกรอบเวลาที่ใหญ่กว่า (เช่น รายวัน, รายสัปดาห์) ซึ่งจะมีความน่าเชื่อถือมากกว่า
      1. การเทรดด้วยรูปแบบศีรษะและไหล่ในตลาดไบนารี่ออปชั่น

รูปแบบศีรษะและไหล่สามารถนำมาใช้ในการเทรดในตลาด ไบนารี่ออปชั่น ได้หลายวิธี:

1. **การเทรดเมื่อราคา Breakout เส้นคอ:** นี่เป็นวิธีที่นิยมที่สุดในการเทรดรูปแบบศีรษะและไหล่ เมื่อราคา Breakout เส้นคอลงมา แสดงว่าแนวโน้มได้เปลี่ยนเป็นขาลงแล้ว นักเทรดสามารถเปิด Position Position ในทิศทางขาลง (Put Option) ได้ 2. **การเทรดเมื่อราคา Retest เส้นคอ:** หลังจากที่ราคา Breakout เส้นคอลงมาแล้ว บางครั้งราคาอาจมีการ Retest (ทดสอบ) เส้นคออีกครั้ง ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีในการเปิด Position ในทิศทางขาลง (Put Option) 3. **การใช้เส้นคอเป็นแนวต้าน (Resistance):** เส้นคอสามารถใช้เป็นแนวต้านได้ หากราคาขึ้นไปทดสอบเส้นคอแล้วไม่สามารถทะลุผ่านไปได้ แสดงว่าแนวโน้มขาลงยังคงแข็งแกร่ง นักเทรดสามารถเปิด Position ในทิศทางขาลง (Put Option) ได้

      1. การคำนวณเป้าหมายราคา

เป้าหมายราคา (Price Target) สามารถคำนวณได้โดยการวัดระยะห่างจากศีรษะถึงเส้นคอ แล้วนำระยะห่างนั้นมาลบออกจากจุด Breakout ของเส้นคอ

  • **สูตร:** เป้าหมายราคา = จุด Breakout - (ระยะห่างจากศีรษะถึงเส้นคอ)

ตัวอย่าง: หากราคา Breakout เส้นคอที่ระดับ 100 บาท และระยะห่างจากศีรษะถึงเส้นคอคือ 20 บาท เป้าหมายราคาจะอยู่ที่ 80 บาท

      1. รูปแบบศีรษะและไหล่กลับด้าน (Inverted Head and Shoulders)

รูปแบบศีรษะและไหล่กลับด้าน (Inverted Head and Shoulders pattern) เป็นรูปแบบที่กลับด้านของรูปแบบศีรษะและไหล่ปกติ ใช้เพื่อบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มจากแนวโน้มขาลง (Downtrend) ไปเป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) หรือการกลับตัวของแนวโน้ม

โครงสร้างของรูปแบบศีรษะและไหล่กลับด้านประกอบด้วย:

  • **ไหล่ซ้าย (Left Shoulder):** เป็นจุดต่ำสุด (Low) แรกของรูปแบบ เกิดจากการที่ราคาปรับตัวลงแล้วเกิดการปรับขึ้น
  • **ศีรษะ (Head):** เป็นจุดต่ำสุดที่ต่ำกว่าไหล่ซ้าย เกิดจากการที่ราคาปรับตัวลงไปทำจุดต่ำสุดที่ต่ำกว่าเดิม แต่การปรับตัวลงนี้ไม่สามารถรักษาโมเมนตัมไว้ได้ และเกิดการปรับขึ้นมา
  • **ไหล่ขวา (Right Shoulder):** เป็นจุดต่ำสุดที่สูงกว่าศีรษะ แต่ต่ำกว่าไหล่ซ้าย เกิดจากการที่ราคาปรับตัวลงอีกครั้ง แต่ไม่สามารถลงไปต่ำเท่าศีรษะได้ และเกิดการปรับขึ้นมา

การเทรดรูปแบบศีรษะและไหล่กลับด้านจะคล้ายกับการเทรดรูปแบบศีรษะและไหล่ปกติ แต่จะกลับทิศทางการเทรด โดยเมื่อราคา Breakout เส้นคอขึ้นไป นักเทรดสามารถเปิด Position ในทิศทางขาขึ้น (Call Option) ได้

      1. ข้อควรระวังในการใช้รูปแบบศีรษะและไหล่

แม้ว่ารูปแบบศีรษะและไหล่จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ แต่ก็มีข้อควรระวังบางประการที่นักเทรดควรทราบ:

  • **รูปแบบที่ไม่สมบูรณ์:** บางครั้งรูปแบบศีรษะและไหล่อาจไม่สมบูรณ์ หรือมีลักษณะที่ไม่ชัดเจน ซึ่งอาจทำให้การตัดสินใจผิดพลาดได้
  • **สัญญาณหลอก (False Signal):** ราคาอาจ Breakout เส้นคอ แต่หลังจากนั้นก็กลับตัวและไม่เป็นไปตามทิศทางที่คาดการณ์ไว้
  • **ปัจจัยภายนอก:** ปัจจัยภายนอก เช่น ข่าวสาร หรือเหตุการณ์สำคัญ อาจส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของราคา และทำให้รูปแบบศีรษะและไหล่ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้
  • **การยืนยันด้วยเครื่องมืออื่นๆ:** ควรใช้รูปแบบศีรษะและไหล่ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น Moving Average, RSI, MACD เพื่อยืนยันสัญญาณ
      1. กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง
  • **Breakout Strategy:** กลยุทธ์ที่เน้นการเทรดเมื่อราคา Breakout เส้นคอของรูปแบบศีรษะและไหล่
  • **Retest Strategy:** กลยุทธ์ที่เน้นการเทรดเมื่อราคา Retest เส้นคอหลังจาก Breakout แล้ว
  • **Trend Reversal Strategy:** กลยุทธ์ที่เน้นการเทรดเพื่อจับการกลับตัวของแนวโน้ม
  • **Volume Confirmation:** กลยุทธ์ที่เน้นการยืนยันสัญญาณด้วยปริมาณการซื้อขาย
  • **Fibonacci Retracement:** การใช้ Fibonacci Retracement เพื่อหาจุดเข้าเทรดที่แม่นยำยิ่งขึ้น
  • **Support and Resistance:** การใช้แนวรับและแนวต้านเพื่อยืนยันสัญญาณ
  • **Candlestick Patterns:** การใช้รูปแบบแท่งเทียนเพื่อยืนยันสัญญาณ
  • **Bollinger Bands:** การใช้ Bollinger Bands เพื่อวัดความผันผวนและหาจุดเข้าเทรด
  • **Ichimoku Cloud:** การใช้ Ichimoku Cloud เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มและหาจุดเข้าเทรด
  • **Elliott Wave Theory:** การใช้ทฤษฎี Elliott Wave เพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา
  • **Harmonic Patterns:** การใช้รูปแบบ Harmonic เพื่อหาจุดเข้าเทรดที่มีความแม่นยำสูง
  • **Price Action Trading:** การเทรดโดยการสังเกตการเคลื่อนไหวของราคาโดยไม่ใช้ Indicators
  • **Scalping:** การเทรดระยะสั้นเพื่อทำกำไรเล็กน้อย
  • **Day Trading:** การเทรดภายในวันเดียว
  • **Swing Trading:** การเทรดเพื่อจับการ Swing (การแกว่งตัว) ของราคา
      1. การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis)

การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายเป็นส่วนสำคัญในการยืนยันรูปแบบศีรษะและไหล่ ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นเมื่อราคา Breakout เส้นคอ จะช่วยยืนยันว่าการ Breakout นั้นมีความแข็งแกร่งและมีความน่าเชื่อถือ

ตัวอย่างการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย
องค์ประกอบ ! ลักษณะปริมาณการซื้อขาย
ปริมาณการซื้อขายลดลง
ปริมาณการซื้อขายลดลง
ปริมาณการซื้อขายลดลง
ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างมาก
      1. สรุป

รูปแบบศีรษะและไหล่เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ทางเทคนิค และสามารถนำมาใช้ในการเทรดในตลาด ตลาดการเงิน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำความเข้าใจโครงสร้างของรูปแบบ การระบุรูปแบบได้อย่างแม่นยำ และการใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสม จะช่วยให้นักเทรดสามารถทำกำไรจากรูปแบบนี้ได้ อย่างไรก็ตาม นักเทรดควรระลึกถึงข้อควรระวังต่างๆ และใช้รูปแบบศีรษะและไหล่ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อยืนยันสัญญาณก่อนตัดสินใจเทรด

การวิเคราะห์ทางเทคนิค รูปแบบราคา แนวโน้ม การเทรด ไบนารี่ออปชั่น การบริหารความเสี่ยง การจัดการเงินทุน Moving Average RSI MACD Bollinger Bands Support and Resistance Candlestick Patterns Breakout Retest Trend Reversal Volume Price Action

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер