มาตรการกีดกันทางการค้า

1. มาตรการกีดกันทางการค้า

มาตรการกีดกันทางการค้า (Trade Barriers) คือ ข้อจำกัดต่างๆ ที่รัฐบาลใช้เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศจากการแข่งขันจากต่างประเทศ หรือเพื่อบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจและการเมืองอื่นๆ พวกมันส่งผลกระทบอย่างมากต่อ การค้าระหว่างประเทศ และมีผลกระทบต่อ เศรษฐกิจโลก การเข้าใจมาตรการเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนใน ตลาดการเงิน รวมถึงตลาด ไบนารี่ออปชั่น ที่ความผันผวนจากข่าวสารเศรษฐกิจและการค้ามีผลอย่างมากต่อการตัดสินใจลงทุน

1. 1. ประเภทของมาตรการกีดกันทางการค้า

มาตรการกีดกันทางการค้าสามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลักๆ คือ มาตรการกีดกันทางการค้าแบบภาษี (Tariff Barriers) และมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี (Non-Tariff Barriers)

1. 1. 1. 1. มาตรการกีดกันทางการค้าแบบภาษี (Tariff Barriers)

ภาษีศุลกากร (Tariffs) คือ ภาษีที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าและส่งออก เป็นเครื่องมือที่เก่าแก่ที่สุดและตรงไปตรงมาที่สุดในการกีดกันทางการค้า ภาษีศุลกากรทำให้ราคาสินค้านำเข้าสูงขึ้น ทำให้สินค้าราคาแพงลงและลดความสามารถในการแข่งขันกับสินค้าภายในประเทศ

• **ภาษีนำเข้าแบบคงที่ (Ad Valorem Tariffs):** คำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าสินค้านำเข้า เช่น ภาษี 10% ของราคาสินค้า
• **ภาษีนำเข้าแบบจำเพาะ (Specific Tariffs):** เรียกเก็บเป็นจำนวนเงินคงที่ต่อหน่วยของสินค้านำเข้า เช่น ภาษี 5 ดอลลาร์ต่อกิโลกรัมของเนื้อวัว
• **ภาษีผสม (Compound Tariffs):** เป็นการรวมกันของภาษีแบบคงที่และแบบจำเพาะ
• **ภาษีตอบโต้ (Retaliatory Tariffs):** ภาษีที่เรียกเก็บเพื่อตอบโต้การกระทำกีดกันทางการค้าของประเทศอื่น ๆ มักเกี่ยวข้องกับ สงครามการค้า เช่น สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน

ผลกระทบของภาษีศุลกากรต่อ การวิเคราะห์ทางเทคนิค ในตลาดไบนารี่ออปชั่นสามารถเห็นได้จากความผันผวนของค่าเงินและราคาหุ้นของบริษัทที่ได้รับผลกระทบ การใช้ Bollinger Bands สามารถช่วยระบุช่วงราคาที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของภาษีศุลกากร

1. 1. 1. 2. มาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี (Non-Tariff Barriers)

มาตรการเหล่านี้มีความหลากหลายและซับซ้อนกว่าภาษีศุลกากร และมักจะยากต่อการวัดผลกระทบ

• **โควตา (Quotas):** กำหนดปริมาณสูงสุดของสินค้านำเข้าที่ได้รับอนุญาตในช่วงเวลาที่กำหนด
• **ข้อจำกัดด้านปริมาณ (Voluntary Export Restraints - VERs):** ข้อตกลงระหว่างประเทศที่ประเทศส่งออกตกลงที่จะจำกัดปริมาณการส่งออกไปยังประเทศนำเข้า
• **มาตรฐานผลิตภัณฑ์ (Product Standards):** ข้อกำหนดด้านคุณภาพ ความปลอดภัย หรือลักษณะเฉพาะของผลิตภัณฑ์ที่ต้องเป็นไปตาม หากสินค้านำเข้าไม่เป็นไปตามมาตรฐาน จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศ
• **ขั้นตอนทางศุลกากรที่ซับซ้อน (Complex Customs Procedures):** ขั้นตอนการนำเข้าที่ยุ่งยากและใช้เวลานาน ทำให้ต้นทุนการนำเข้าสูงขึ้น
• **กฎระเบียบด้านสุขภาพและสุขอนามัย (Sanitary and Phytosanitary Regulations - SPS):** มาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของมนุษย์ สัตว์ และพืช ซึ่งอาจใช้เป็นอุปสรรคทางการค้าได้
• **กฎเกณฑ์ด้านเทคนิค (Technical Barriers to Trade - TBT):** ข้อกำหนดทางเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับลักษณะของผลิตภัณฑ์ ซึ่งอาจสร้างอุปสรรคทางการค้าได้
• **การอุดหนุน (Subsidies):** การสนับสนุนทางการเงินจากรัฐบาลให้กับอุตสาหกรรมภายในประเทศ ทำให้สินค้าภายในประเทศมีราคาถูกลงและสามารถแข่งขันกับสินค้านำเข้าได้ดีขึ้น
• **การทุ่มตลาด (Dumping):** การขายสินค้าในต่างประเทศในราคาที่ต่ำกว่าต้นทุนการผลิต หรือต่ำกว่าราคาในประเทศผู้ผลิต

การวิเคราะห์ผลกระทบของมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีมักต้องใช้ การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ที่ละเอียดถี่ถ้วน รวมถึงการประเมินผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานและต้นทุนการผลิต การใช้ MACD (Moving Average Convergence Divergence) สามารถช่วยระบุแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นของบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการเหล่านี้

1. 1. เหตุผลในการใช้มาตรการกีดกันทางการค้า

รัฐบาลใช้มาตรการกีดกันทางการค้าด้วยเหตุผลหลายประการ:

• **การปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศ:** เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมที่อ่อนแอจากการแข่งขันจากต่างประเทศ และส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมภายในประเทศ
• **การสร้างงาน:** เพื่อรักษาหรือสร้างงานในอุตสาหกรรมภายในประเทศ
• **การปรับปรุงดุลการค้า:** เพื่อลดการขาดดุลการค้าหรือเพิ่มการเกินดุลการค้า
• **ความมั่นคงแห่งชาติ:** เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมที่สำคัญต่อความมั่นคงแห่งชาติ เช่น อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ
• **การตอบโต้การกีดกันทางการค้า:** เพื่อตอบโต้การกระทำกีดกันทางการค้าของประเทศอื่น ๆ
• **การบังคับใช้ข้อตกลงทางการค้า:** เพื่อบังคับให้ประเทศอื่น ๆ ปฏิบัติตามข้อตกลงทางการค้า

1. 1. ผลกระทบของมาตรการกีดกันทางการค้า

มาตรการกีดกันทางการค้ามีผลกระทบหลายด้าน:

• **ต่อผู้บริโภค:** ราคาสินค้าสูงขึ้น ตัวเลือกสินค้ามีจำกัด
• **ต่อผู้ผลิต:** ผู้ผลิตภายในประเทศได้รับการปกป้องจากการแข่งขัน แต่ผู้ผลิตต่างประเทศสูญเสียโอกาสทางการตลาด
• **ต่อเศรษฐกิจ:** การค้าลดลง การเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัว ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น
• **ต่อตลาดการเงิน:** ความผันผวนของค่าเงินและราคาหุ้นเพิ่มขึ้น ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลง

สำหรับนักลงทุนในตลาดไบนารี่ออปชั่น การเข้าใจผลกระทบของมาตรการกีดกันทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญในการคาดการณ์ทิศทางของราคาและตัดสินใจลงทุน การใช้ RSI (Relative Strength Index) สามารถช่วยระบุสภาวะการซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการตอบสนองของตลาดต่อข่าวสารเกี่ยวกับมาตรการกีดกันทางการค้า

1. 1. ตัวอย่างของมาตรการกีดกันทางการค้าในปัจจุบัน

• **สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน:** การเรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อสินค้านำเข้าจากทั้งสองประเทศ
• **Brexit:** การถอนตัวของสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบทางการค้าและความสัมพันธ์ทางการค้า
• **นโยบาย "America First" ของสหรัฐฯ:** การเน้นการปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศและการเจรจาข้อตกลงทางการค้าแบบทวิภาคี
• **มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ:** การใช้มาตรการกีดกันทางการค้าเพื่อกดดันประเทศอื่น ๆ ให้เปลี่ยนแปลงนโยบาย
• **ข้อจำกัดการส่งออกเทคโนโลยี:** การควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีขั้นสูงไปยังประเทศที่อาจเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติ

1. 1. การวิเคราะห์มาตรการกีดกันทางการค้าเพื่อการลงทุนในไบนารี่ออปชั่น

การลงทุนในไบนารี่ออปชั่นที่เกี่ยวข้องกับข่าวสารมาตรการกีดกันทางการค้า จำเป็นต้องใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสม:

• **News Trading:** การซื้อขายตามข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับมาตรการกีดกันทางการค้า โดยคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้น การใช้ Price Action สามารถช่วยระบุรูปแบบราคาที่อาจเกิดขึ้นจากการประกาศข่าวสาร
• **Hedging:** การป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุนในสินทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้า โดยการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความสัมพันธ์เชิงลบ
• **Trend Following:** การลงทุนตามแนวโน้มของราคาที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของมาตรการกีดกันทางการค้า การใช้ Moving Averages สามารถช่วยระบุแนวโน้มของราคา
• **Volatility Trading:** การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง ซึ่งมักจะเกิดขึ้นเมื่อมีข่าวสารเกี่ยวกับมาตรการกีดกันทางการค้า การใช้ Straddle หรือ Strangle สามารถช่วยทำกำไรจากความผันผวน
• **Pair Trading:** การซื้อขายคู่สินทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้าในทิศทางตรงกันข้าม

การใช้ Volume Spread Analysis (VSA) สามารถช่วยประเมินความแข็งแกร่งของแนวโน้มและระบุสัญญาณการกลับตัวของราคาที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของมาตรการกีดกันทางการค้า การติดตาม Economic Calendar อย่างใกล้ชิดเป็นสิ่งสำคัญในการรับรู้ถึงการประกาศข่าวสารที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาด

1. 1. สรุป

มาตรการกีดกันทางการค้าเป็นส่วนสำคัญของ นโยบายการค้า ของรัฐบาล และมีผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลกและตลาดการเงิน การเข้าใจประเภทของมาตรการ เหตุผลในการใช้ ผลกระทบ และวิธีการวิเคราะห์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดไบนารี่ออปชั่นที่การตอบสนองต่อข่าวสารและการเปลี่ยนแปลงทางการค้าสามารถสร้างโอกาสในการทำกำไรได้ การใช้เครื่องมือทางการวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานที่เหมาะสม รวมถึงการพัฒนากลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสม จะช่วยให้นักลงทุนสามารถรับมือกับความท้าทายและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับมาตรการกีดกันทางการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำความเข้าใจ Correlation ระหว่างสินทรัพย์ต่างๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญในการกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น