ประวัติศาสตร์คอมพิวเตอร์
- ประวัติศาสตร์คอมพิวเตอร์
บทนำ
คอมพิวเตอร์ในปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวันของเรา ตั้งแต่ สมาร์ทโฟน ที่เราพกพาไปจนถึงระบบที่ซับซ้อนที่ควบคุม ตลาดหุ้น และ ไบนารี่ออปชั่น แต่คอมพิวเตอร์ไม่ได้เกิดขึ้นมาอย่างกะทันหัน หากแต่เป็นผลมาจากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาหลายศตวรรษ บทความนี้จะพาผู้เริ่มต้นสำรวจประวัติศาสตร์ของคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่เรียบง่ายไปจนถึงเครื่องจักรที่ซับซ้อนที่เราใช้ในปัจจุบัน โดยจะเน้นย้ำถึงความเชื่อมโยงระหว่างพัฒนาการทางเทคโนโลยีนี้กับโลกของการเงินและการลงทุน รวมถึง การวิเคราะห์ทางเทคนิค และ การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย
ยุคก่อนคอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์
ก่อนที่จะมีคอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ เรามีเครื่องมือช่วยคำนวณที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ที่ซับซ้อน เครื่องมือเหล่านี้เป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาคอมพิวเตอร์ในเวลาต่อมา
- **เครื่องนับ (Abacus):** เครื่องนับเป็นเครื่องมือคำนวณที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่รู้จัก มีต้นกำเนิดใน เมโสโปเตเมีย เมื่อประมาณ 2700-2300 ปีก่อนคริสตกาล เครื่องนับช่วยให้ผู้คนสามารถทำการคำนวณพื้นฐานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ แม้ว่าจะไม่ใช่คอมพิวเตอร์ในความหมายสมัยใหม่ แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาเครื่องมือช่วยคำนวณ
- **เครื่องคำนวณของ Napier (Napier's Bones):** ในศตวรรษที่ 17 จอห์น เนเปียร์ นักคณิตศาสตร์ชาวสกอตแลนด์ ได้ประดิษฐ์ "กระดูกของเนเปียร์" ซึ่งเป็นเครื่องมือช่วยในการคูณ หาร และถอดรากที่สอง เครื่องมือนี้ช่วยลดความซับซ้อนในการคำนวณทางคณิตศาสตร์
- **เครื่องคำนวณของ Pascal (Pascaline):** ในปี 1642 แบลซ ปาสคาล นักคณิตศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ได้ประดิษฐ์เครื่องคำนวณเชิงกลที่เรียกว่า "ปาสคาลีน" ซึ่งสามารถบวกและลบตัวเลขได้ เครื่องนี้ถือเป็นเครื่องคำนวณเชิงกลเครื่องแรกที่ได้รับการยอมรับ
- **เครื่องคำนวณของ Leibniz (Stepped Reckoner):** ในปี 1673 กอตต์ฟรีด วิลเฮล์ม ไลบ์นิซ นักปรัชญาและนักคณิตศาสตร์ชาวเยอรมัน ได้พัฒนาเครื่องคำนวณเชิงกลที่สามารถบวก ลบ คูณ และหารได้ เครื่องนี้มีความสามารถที่ซับซ้อนกว่าปาสคาลีน และเป็นต้นแบบของเครื่องคำนวณเชิงกลในยุคต่อมา
- **เครื่อง Loom ของ Jacquard (Jacquard Loom):** ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 โจเซฟ-มารี แจ็กการ์ด นักประดิษฐ์ชาวฝรั่งเศส ได้ประดิษฐ์เครื่องทอผ้าอัตโนมัติที่ใช้บัตรเจาะรูในการควบคุมรูปแบบการทอผ้า เครื่อง Loom ของ Jacquard ถือเป็นจุดเริ่มต้นของแนวคิดการใช้บัตรเจาะรูในการป้อนข้อมูลให้กับเครื่องจักร ซึ่งเป็นแนวคิดสำคัญในการพัฒนาคอมพิวเตอร์ในเวลาต่อมา
ยุคคอมพิวเตอร์เชิงกลและไฟฟ้า
ในช่วงศตวรรษที่ 19 มีการพัฒนาเครื่องจักรที่ซับซ้อนขึ้นเพื่อแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ที่เฉพาะเจาะจง
- **เครื่อง Difference Engine และ Analytical Engine ของ Babbage (Babbage's Difference Engine and Analytical Engine):** ชาร์ลส์ แบบเบจ นักคณิตศาสตร์ชาวอังกฤษ ได้ออกแบบเครื่อง Difference Engine เพื่อคำนวณและพิมพ์ตารางทางคณิตศาสตร์ แต่เครื่องนี้ไม่เคยสร้างเสร็จสมบูรณ์ แบบเบจยังได้ออกแบบ Analytical Engine ซึ่งเป็นเครื่องจักรที่มีลักษณะคล้ายกับคอมพิวเตอร์สมัยใหม่ โดยสามารถรับข้อมูลผ่านบัตรเจาะรู ประมวลผลข้อมูล และแสดงผลลัพธ์ได้ แม้ว่า Analytical Engine ก็ไม่เคยสร้างเสร็จสมบูรณ์ แต่ก็ถือเป็นแนวคิดที่ก้าวล้ำนำสมัย และเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาคอมพิวเตอร์ในยุคต่อมา
- **เครื่อง Tabulating Machine ของ Hollerith (Hollerith's Tabulating Machine):** ในปี 1890 เฮอร์แมน โฮเลอริธ นักคณิตศาสตร์ชาวอเมริกัน ได้พัฒนาเครื่อง Tabulating Machine ซึ่งใช้บัตรเจาะรูในการบันทึกและประมวลผลข้อมูลสำมะโนประชากร เครื่องนี้ช่วยลดเวลาในการประมวลผลข้อมูลสำมะโนประชากรจากหลายปีเหลือเพียงไม่กี่เดือน โฮเลอริธได้ก่อตั้งบริษัท Tabulating Machine Company ซึ่งต่อมาได้กลายเป็น IBM
ยุคคอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ยุคแรก (1940s - 1950s)
ในช่วงทศวรรษ 1940 คอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์เครื่องแรกได้ถูกสร้างขึ้น โดยใช้หลอดสุญญากาศเป็นส่วนประกอบหลัก
- **ENIAC (Electronic Numerical Integrator and Computer):** ENIAC เป็นคอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์เครื่องแรกที่สามารถตั้งโปรแกรมได้ สร้างขึ้นในปี 1946 ที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ENIAC มีขนาดใหญ่มาก ใช้หลอดสุญญากาศกว่า 17,468 หลอด และใช้พลังงานจำนวนมาก ENIAC ถูกใช้ในการคำนวณตารางการยิงปืนใหญ่สำหรับกองทัพสหรัฐฯ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
- **EDVAC (Electronic Discrete Variable Automatic Computer):** EDVAC เป็นคอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์เครื่องแรกที่ใช้สถาปัตยกรรม Von Neumann ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ใช้ในคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ในปัจจุบัน สถาปัตยกรรม Von Neumann กำหนดให้ข้อมูลและคำสั่งถูกเก็บไว้ในหน่วยความจำเดียวกัน
- **UNIVAC I (Universal Automatic Computer I):** UNIVAC I เป็นคอมพิวเตอร์เชิงพาณิชย์เครื่องแรก สร้างขึ้นในปี 1951 UNIVAC I ถูกใช้ในการประมวลผลข้อมูลทางธุรกิจและการเงิน
ยุคทรานซิสเตอร์ (1950s - 1960s)
การประดิษฐ์ ทรานซิสเตอร์ ในปี 1947 ทำให้คอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลง เร็วขึ้น และประหยัดพลังงานมากขึ้น
- **การแทนที่หลอดสุญญากาศด้วยทรานซิสเตอร์:** ทรานซิสเตอร์มีขนาดเล็กกว่าหลอดสุญญากาศ ใช้พลังงานน้อยกว่า และมีความน่าเชื่อถือมากกว่า ทำให้คอมพิวเตอร์ในยุคนี้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
- **ภาษาโปรแกรมระดับสูง (High-level Programming Languages):** ในยุคนี้ มีการพัฒนาภาษาโปรแกรมระดับสูง เช่น FORTRAN และ COBOL ซึ่งช่วยให้โปรแกรมเมอร์สามารถเขียนโปรแกรมได้ง่ายขึ้น
- **การพัฒนา ระบบปฏิบัติการ (Operating Systems):** ระบบปฏิบัติการช่วยจัดการทรัพยากรของคอมพิวเตอร์ และทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานคอมพิวเตอร์ได้ง่ายขึ้น
ยุควงจรรวม (1960s - 1980s)
การประดิษฐ์ วงจรรวม (Integrated Circuit – IC) หรือที่เรียกว่า "ชิป" ในปี 1958 ทำให้คอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลง เร็วขึ้น และราคาถูกลงอย่างมาก
- **การรวมวงจรหลายวงจรไว้ในชิปเดียว:** วงจรรวมช่วยลดขนาดและต้นทุนของคอมพิวเตอร์ลงอย่างมาก
- **การพัฒนา ไมโครโปรเซสเซอร์ (Microprocessor):** ในปี 1971 Intel ได้เปิดตัวไมโครโปรเซสเซอร์ตัวแรก ซึ่งเป็นชิปที่รวมส่วนประกอบหลักของคอมพิวเตอร์ไว้ในชิปเดียว
- **การกำเนิดของ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Personal Computer – PC):** ในยุคนี้ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเริ่มเป็นที่นิยม โดยบริษัทต่างๆ เช่น Apple และ IBM ได้เปิดตัวคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ใช้งานง่ายและราคาไม่แพง
ยุคคอมพิวเตอร์สมัยใหม่ (1980s - ปัจจุบัน)
คอมพิวเตอร์ในยุคนี้มีขนาดเล็กลง เร็วขึ้น และมีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- **การพัฒนา เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Computer Networks):** การพัฒนาเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เช่น อินเทอร์เน็ต ทำให้ผู้คนสามารถเชื่อมต่อและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ทั่วโลก
- **การพัฒนา กราฟิก (Graphics) และ มัลติมีเดีย (Multimedia):** การพัฒนาเทคโนโลยีด้านกราฟิกและมัลติมีเดียทำให้คอมพิวเตอร์สามารถแสดงผลภาพและเสียงได้อย่างสมจริง
- **การพัฒนา ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence – AI):** ปัญญาประดิษฐ์เป็นสาขาหนึ่งของวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่มุ่งเน้นการพัฒนาเครื่องจักรที่สามารถคิดและเรียนรู้ได้เหมือนมนุษย์
- **การประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ใน การเงิน (Finance) และ การลงทุน (Investment):** คอมพิวเตอร์ถูกนำมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน ทำการซื้อขายหลักทรัพย์ และบริหารความเสี่ยง เช่น การใช้ กลยุทธ์ทางเทคนิค (Technical Strategies) และ การวิเคราะห์เชิงปริมาณ (Quantitative Analysis) ใน ไบนารี่ออปชั่น (Binary Options) รวมถึงการใช้ ตัวชี้วัดทางเทคนิค (Technical Indicators) ต่างๆ เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) และ ดัชนีความสัมพันธ์สัมพัทธ์ (Relative Strength Index – RSI) เพื่อคาดการณ์แนวโน้มของราคา และการใช้ รูปแบบราคา (Price Patterns) เช่น Head and Shoulders เพื่อวางแผนการซื้อขาย
คอมพิวเตอร์และไบนารี่ออปชั่น
การพัฒนาคอมพิวเตอร์มีบทบาทสำคัญในการพัฒนา ไบนารี่ออปชั่น คอมพิวเตอร์ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเข้าถึงข้อมูลตลาดได้รวดเร็วและแม่นยำ รวมถึงช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลและตัดสินใจซื้อขาย คอมพิวเตอร์ยังช่วยในการดำเนินการซื้อขายแบบอัตโนมัติ โดยใช้ โปรแกรมเทรดอัตโนมัติ (Automated Trading Programs) หรือ บอท (Bots)
- **การวิเคราะห์ทางเทคนิคอัตโนมัติ:** คอมพิวเตอร์สามารถวิเคราะห์ ชาร์ตราคา (Price Charts) และระบุ สัญญาณซื้อขาย (Trading Signals) ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
- **การทดสอบกลยุทธ์ย้อนหลัง (Backtesting):** คอมพิวเตอร์สามารถทดสอบกลยุทธ์การซื้อขายย้อนหลังกับข้อมูลในอดีต เพื่อประเมินประสิทธิภาพของกลยุทธ์
- **การบริหารความเสี่ยง (Risk Management):** คอมพิวเตอร์สามารถช่วยในการบริหารความเสี่ยง โดยการกำหนดขนาดการซื้อขายที่เหมาะสม และตั้งค่า คำสั่งหยุดการขาดทุน (Stop-Loss Orders)
สรุป
ประวัติศาสตร์ของคอมพิวเตอร์เป็นการเดินทางที่น่าทึ่ง จากเครื่องมือช่วยคำนวณที่เรียบง่ายไปจนถึงเครื่องจักรที่ซับซ้อนที่เราใช้ในปัจจุบัน การพัฒนาคอมพิวเตอร์มีผลกระทบอย่างมากต่อทุกด้านของชีวิตของเรา รวมถึงโลกของการเงินและการลงทุน คอมพิวเตอร์ได้เปลี่ยนแปลงวิธีการที่เราวิเคราะห์ข้อมูล ทำการซื้อขาย และบริหารความเสี่ยงในตลาดการเงิน และจะยังคงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีทางการเงินในอนาคต
| ยุค | ช่วงเวลา | เทคโนโลยีหลัก | ตัวอย่าง |
|---|---|---|---|
| ก่อนคอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ | ก่อนปี 1940 | เครื่องนับ, เครื่องคำนวณเชิงกล, บัตรเจาะรู | Abacus, Pascaline, Jacquard Loom |
| คอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ยุคแรก | 1940s - 1950s | หลอดสุญญากาศ | ENIAC, EDVAC, UNIVAC I |
| ยุคทรานซิสเตอร์ | 1950s - 1960s | ทรานซิสเตอร์ | IBM 7090, PDP-1 |
| ยุควงจรรวม | 1960s - 1980s | วงจรรวม, ไมโครโปรเซสเซอร์ | IBM System/360, Apple II, IBM PC |
| ยุคคอมพิวเตอร์สมัยใหม่ | 1980s - ปัจจุบัน | ไมโครโปรเซสเซอร์, เครือข่ายคอมพิวเตอร์, ปัญญาประดิษฐ์ | คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล, สมาร์ทโฟน, เซิร์ฟเวอร์, ระบบคลาวด์ |
ประวัติศาสตร์เทคโนโลยีสารสนเทศ สถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม ระบบปฏิบัติการ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ปัญญาประดิษฐ์ ตลาดหุ้น การลงทุน การวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น กลยุทธ์การเทรด ตัวชี้วัดทางเทคนิค รูปแบบราคา ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ดัชนีความสัมพันธ์สัมพัทธ์ โปรแกรมเทรดอัตโนมัติ คำสั่งหยุดการขาดทุน สมาร์ทโฟน IBM Apple Intel Von Neumann ชาร์ตราคา สัญญาณซื้อขาย Backtesting Risk Management Forex CFD การบริหารเงินทุน การกระจายความเสี่ยง Trend Following Mean Reversion Breakout Trading Scalping Day Trading Swing Trading Position Trading Elliott Wave Theory Fibonacci Retracement
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
