ตั้ง Stop Loss
- ตั้ง Stop Loss ในไบนารี่ออปชั่น: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับผู้เริ่มต้น
การซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง แต่ก็สามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจได้ หากมีการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม หนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่สุดในการบริหารความเสี่ยงคือการตั้ง **Stop Loss** หรือ จุดตัดขาดทุน บทความนี้จะอธิบายถึงความสำคัญของ Stop Loss วิธีการตั้งค่า และกลยุทธ์ในการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพสำหรับผู้เริ่มต้น
- Stop Loss คืออะไร?
Stop Loss คือคำสั่งที่ส่งไปยังโบรกเกอร์เพื่อปิดสถานะการซื้อขายโดยอัตโนมัติเมื่อราคาเคลื่อนที่ไปถึงระดับที่กำหนดไว้ล่วงหน้า จุดประสงค์หลักของ Stop Loss คือการจำกัดจำนวนเงินที่อาจสูญเสียจากการซื้อขายครั้งเดียว หากราคาเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันข้ามกับที่คุณคาดการณ์ไว้ Stop Loss จะถูกเรียกใช้งานและปิดการซื้อขายของคุณโดยอัตโนมัติ ช่วยป้องกันไม่ให้คุณสูญเสียเงินทุนทั้งหมดของคุณ
- ทำไมต้องตั้ง Stop Loss?
การไม่ตั้ง Stop Loss อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่น่ากลัวได้ ลองพิจารณาสถานการณ์ต่อไปนี้: คุณคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์จะสูงขึ้น และเปิดสถานะ Call Option แต่แทนที่ราคาจะสูงขึ้น กลับลดลงอย่างรวดเร็ว หากคุณไม่ตั้ง Stop Loss คุณอาจต้องเผชิญกับการสูญเสียเงินทุนทั้งหมดของคุณ เนื่องจากราคาอาจลดลงไปเรื่อยๆ โดยไม่มีขีดจำกัด
ต่อไปนี้คือเหตุผลสำคัญที่คุณควรตั้ง Stop Loss เสมอ:
- **จำกัดความเสี่ยง:** Stop Loss ช่วยจำกัดจำนวนเงินที่คุณอาจสูญเสียในการซื้อขายแต่ละครั้ง
- **ป้องกันอารมณ์:** การซื้อขายด้วยอารมณ์อาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด Stop Loss ช่วยให้คุณกำจัดอารมณ์ในการซื้อขาย และยึดมั่นในแผนการซื้อขายของคุณ
- **ปกป้องเงินทุน:** Stop Loss ช่วยปกป้องเงินทุนของคุณจากการสูญเสียที่มากเกินไป
- **เพิ่มวินัยในการซื้อขาย:** การตั้ง Stop Loss บังคับให้คุณคิดเกี่ยวกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ก่อนที่จะเปิดสถานะการซื้อขาย
- วิธีการตั้ง Stop Loss
การตั้ง Stop Loss ที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สไตล์การซื้อขายของคุณ ระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ และลักษณะของสินทรัพย์ที่คุณกำลังซื้อขาย ต่อไปนี้เป็นแนวทางทั่วไปในการตั้ง Stop Loss:
1. **กำหนดระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้:** ก่อนที่จะเปิดสถานะการซื้อขาย ให้กำหนดจำนวนเงินที่คุณยินดีที่จะเสี่ยง หากคุณไม่ต้องการเสี่ยงเกิน 5% ของเงินทุนทั้งหมดของคุณ คุณจะต้องตั้ง Stop Loss ให้สอดคล้องกับความเสี่ยงนี้ 2. **พิจารณาความผันผวนของสินทรัพย์:** สินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง (เช่น สกุลเงินดิจิทัล) จะต้องการ Stop Loss ที่กว้างกว่าสินทรัพย์ที่มีความผันผวนต่ำ (เช่น หุ้นขนาดใหญ่) 3. **ใช้ระดับแนวรับและแนวต้าน:** แนวรับ และ แนวต้าน เป็นระดับราคาที่สำคัญที่อาจทำให้ราคาหยุดหรือกลับตัว คุณสามารถใช้ระดับเหล่านี้เป็นจุดอ้างอิงในการตั้ง Stop Loss 4. **ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค:** เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) และ เส้นแนวโน้ม (Trend Lines) สามารถช่วยคุณระบุระดับ Stop Loss ที่เหมาะสมได้ 5. **พิจารณา Timeframe:** Timeframe ที่คุณใช้ในการซื้อขายก็มีผลต่อการตั้ง Stop Loss ด้วย Timeframe ที่สั้นกว่า จะต้องการ Stop Loss ที่แคบกว่า Timeframe ที่ยาวกว่า
- กลยุทธ์การตั้ง Stop Loss
มีกลยุทธ์การตั้ง Stop Loss หลายแบบที่สามารถนำไปใช้ได้ ขึ้นอยู่กับสไตล์การซื้อขายและความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ ต่อไปนี้คือกลยุทธ์บางส่วน:
- **Fixed Percentage Stop Loss:** ตั้ง Stop Loss ที่เปอร์เซ็นต์คงที่จากราคาเข้า เช่น 2% หรือ 5% กลยุทธ์นี้ง่ายต่อการใช้งาน แต่ไม่คำนึงถึงความผันผวนของสินทรัพย์
- **Volatility-Based Stop Loss:** ใช้ตัวชี้วัดความผันผวน เช่น ค่าเฉลี่ยความผันผวนที่แท้จริง (Average True Range - ATR) เพื่อกำหนดระดับ Stop Loss กลยุทธ์นี้จะปรับระดับ Stop Loss ตามความผันผวนของสินทรัพย์
- **Support and Resistance Stop Loss:** ตั้ง Stop Loss ใต้ระดับแนวรับ (สำหรับสถานะ Call Option) หรือเหนือระดับแนวต้าน (สำหรับสถานะ Put Option) กลยุทธ์นี้ใช้ประโยชน์จากระดับราคาที่สำคัญ
- **Trend Line Stop Loss:** ตั้ง Stop Loss ใต้เส้นแนวโน้ม (สำหรับสถานะ Call Option) หรือเหนือเส้นแนวโน้ม (สำหรับสถานะ Put Option) กลยุทธ์นี้จะช่วยให้คุณอยู่ในตลาดตราบเท่าที่แนวโน้มยังคงดำเนินต่อไป
- **Moving Average Stop Loss:** ตั้ง Stop Loss ใต้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (สำหรับสถานะ Call Option) หรือเหนือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (สำหรับสถานะ Put Option) กลยุทธ์นี้จะช่วยให้คุณออกจากตลาดเมื่อราคาตัดผ่านค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่
- **Parabolic SAR Stop Loss:** ใช้ Parabolic SAR (Stop and Reverse) เป็น Stop Loss โดยจะปรับระดับ Stop Loss ตามทิศทางของแนวโน้ม
- **Chandelier Exit Stop Loss:** ใช้ Chandelier Exit ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความผันผวนที่คำนวณจาก ATR และใช้เป็น Stop Loss ที่ปรับเปลี่ยนได้
- ตัวอย่างการตั้ง Stop Loss
สมมติว่าคุณต้องการซื้อ Call Option ในสินทรัพย์ XYZ ที่ราคาปัจจุบันคือ 100 ดอลลาร์ และคุณคาดการณ์ว่าราคาจะสูงขึ้น คุณกำหนดความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้คือ 2% ของเงินทุนของคุณ
- **Fixed Percentage Stop Loss:** คุณจะตั้ง Stop Loss ที่ 98 ดอลลาร์ (100 - 2%)
- **Support and Resistance Stop Loss:** หากมีระดับแนวรับที่ 97 ดอลลาร์ คุณอาจตั้ง Stop Loss ที่ระดับนั้น
- **Moving Average Stop Loss:** หากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วันอยู่ที่ 96 ดอลลาร์ คุณอาจตั้ง Stop Loss ที่ระดับนั้น
- ข้อผิดพลาดทั่วไปในการตั้ง Stop Loss
- **ตั้ง Stop Loss ใกล้เกินไป:** การตั้ง Stop Loss ใกล้กับราคาเข้ามากเกินไปอาจทำให้ Stop Loss ของคุณถูกเรียกใช้งานก่อนที่ราคาจะมีโอกาสเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่คุณคาดการณ์ไว้
- **ตั้ง Stop Loss ห่างเกินไป:** การตั้ง Stop Loss ห่างจากราคาเข้ามากเกินไปอาจทำให้คุณสูญเสียเงินทุนมากเกินไป
- **ไม่ตั้ง Stop Loss เลย:** การไม่ตั้ง Stop Loss เป็นข้อผิดพลาดที่ร้ายแรงที่สุด เพราะอาจนำไปสู่การสูญเสียเงินทุนทั้งหมดของคุณ
- **เปลี่ยน Stop Loss อย่างไร้เหตุผล:** การเปลี่ยน Stop Loss หลังจากที่คุณเปิดสถานะการซื้อขายแล้วอาจเป็นสัญญาณของความไม่มั่นใจและอาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด
- การใช้ Stop Loss ร่วมกับกลยุทธ์การซื้อขายอื่นๆ
Stop Loss ไม่ควรใช้เพียงอย่างเดียว แต่ควรใช้ร่วมกับกลยุทธ์การซื้อขายอื่นๆ เช่น:
- **การวิเคราะห์ทางเทคนิค**: ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อระบุจุดเข้าและออกที่เหมาะสม
- **การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน**: ใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเพื่อประเมินมูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์
- **การบริหารเงินทุน**: กำหนดขนาดของสถานะการซื้อขายของคุณอย่างเหมาะสม
- **การกระจายความเสี่ยง**: กระจายการลงทุนของคุณในสินทรัพย์ที่หลากหลาย
- สรุป
การตั้ง Stop Loss เป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารความเสี่ยงในการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น การตั้ง Stop Loss ที่เหมาะสมสามารถช่วยจำกัดความเสี่ยง ปกป้องเงินทุน และเพิ่มวินัยในการซื้อขายของคุณได้ การทำความเข้าใจกลยุทธ์การตั้ง Stop Loss ที่แตกต่างกัน และการเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับสไตล์การซื้อขายและความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการซื้อขายของคุณ
- การฝึกฝน:** การฝึกฝนการตั้ง Stop Loss ในบัญชีทดลอง (Demo Account) ก่อนที่จะทำการซื้อขายด้วยเงินจริง จะช่วยให้คุณคุ้นเคยกับเครื่องมือนี้และพัฒนาทักษะในการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ
- การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง:** ตลาดการเงินมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ดังนั้นคุณควรเรียนรู้และปรับปรุงกลยุทธ์การซื้อขายของคุณอย่างต่อเนื่อง
- ลิงก์เพิ่มเติม
- การบริหารความเสี่ยงในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น
- แนวโน้ม (Trend) ในการซื้อขาย
- การวิเคราะห์ทางเทคนิคเบื้องต้น
- การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเบื้องต้น
- ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average)
- เส้นแนวโน้ม (Trend Line)
- แนวรับและแนวต้าน (Support and Resistance)
- ค่าเฉลี่ยความผันผวนที่แท้จริง (ATR)
- Parabolic SAR (Stop and Reverse)
- กลยุทธ์ Martingale
- กลยุทธ์ Anti-Martingale
- กลยุทธ์ Fibonacci Retracement
- กลยุทธ์ Price Action
- กลยุทธ์ Breakout
- กลยุทธ์ Scalping
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

