ตัวกรอง
- ตัว กรอง ใน ไบนารี่ ออปชั่น: คู่มือ สำหรับ ผู้เริ่มต้น
บทความนี้จะอธิบายถึง “ตัวกรอง” (Filters) ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นอย่างละเอียด สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้น และต้องการทำความเข้าใจเครื่องมือสำคัญนี้ในการเพิ่มโอกาสในการทำกำไร การใช้ตัวกรองอย่างถูกต้องจะช่วยลดความเสี่ยง และเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจซื้อขาย
- ตัวกรอง คืออะไร?
ในบริบทของการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น “ตัวกรอง” หมายถึง ชุดของเงื่อนไข หรือเกณฑ์ที่ใช้ในการคัดกรองสินทรัพย์ (Assets) หรือสัญญาณการซื้อขาย (Trading Signals) ที่ตรงกับความต้องการ และกลยุทธ์ (Strategies) ของเทรดเดอร์ ตัวกรองช่วยให้เทรดเดอร์สามารถโฟกัสไปที่โอกาสในการซื้อขายที่มีศักยภาพสูง และหลีกเลี่ยงการซื้อขายที่ไม่สอดคล้องกับแผนการซื้อขายของตน
- ทำไมต้องใช้ ตัวกรอง?
การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว และแม่นยำ ในตลาดที่มีความผันผวนสูง มีสินทรัพย์ให้เลือกซื้อขายมากมาย และสัญญาณการซื้อขายเกิดขึ้นตลอดเวลา การพยายามวิเคราะห์ทุกโอกาสด้วยตนเองเป็นเรื่องที่ยาก และอาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาดได้ ตัวกรองจึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการ:
- **ลดเวลาในการวิเคราะห์:** ตัวกรองช่วยคัดกรองโอกาสที่ไม่น่าสนใจออกไป ทำให้เทรดเดอร์สามารถโฟกัสไปที่โอกาสที่มีศักยภาพสูงเท่านั้น
- **เพิ่มความแม่นยำ:** การกำหนดเงื่อนไขที่ชัดเจนในการคัดกรองสัญญาณ ช่วยลดโอกาสในการตัดสินใจที่ผิดพลาดจากอารมณ์ หรือความเชื่อส่วนตัว
- **ปรับปรุงผลตอบแทน:** การซื้อขายเฉพาะในสถานการณ์ที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ของตนเอง จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในระยะยาว
- **บริหารความเสี่ยง:** การหลีกเลี่ยงการซื้อขายในสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสม ช่วยลดความเสี่ยงในการสูญเสียเงินทุน
- ประเภทของ ตัวกรอง ใน ไบนารี่ ออปชั่น
ตัวกรองสามารถแบ่งออกได้หลายประเภท ขึ้นอยู่กับเกณฑ์ที่ใช้ในการคัดกรอง:
1. **ตัวกรองตามสินทรัพย์ (Asset Filters):** ตัวกรองประเภทนี้จะช่วยคัดกรองสินทรัพย์ที่ตรงกับความต้องการของเทรดเดอร์ เช่น:
* **ประเภทสินทรัพย์:** เลือกซื้อขายเฉพาะสินทรัพย์บางประเภท เช่น สกุลเงิน (Currency pairs), ดัชนีหุ้น (Stock Indices), สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities), หรือหุ้น (Stocks) * **ความผันผวน:** เลือกสินทรัพย์ที่มีความผันผวนตามระดับที่ต้องการ เช่น สินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง (High Volatility) สำหรับกลยุทธ์ที่ต้องการกำไรสูง แต่มีความเสี่ยงสูง หรือสินทรัพย์ที่มีความผันผวนต่ำ (Low Volatility) สำหรับกลยุทธ์ที่ต้องการความเสี่ยงต่ำ * **ช่วงเวลาการหมดอายุ (Expiry Time):** เลือกสินทรัพย์ที่มีช่วงเวลาการหมดอายุที่เหมาะสมกับกลยุทธ์ของตนเอง เช่น การซื้อขายระยะสั้น (Short-term) หรือระยะยาว (Long-term) * **โบรกเกอร์ (Broker):** บางโบรกเกอร์อาจมีสินทรัพย์ที่แตกต่างกัน ตัวกรองสามารถช่วยเลือกเฉพาะสินทรัพย์ที่โบรกเกอร์ของคุณมีให้บริการ
2. **ตัวกรองตามตัวชี้วัดทางเทคนิค (Technical Indicator Filters):** ตัวกรองประเภทนี้จะใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิค (Technical Indicators) ในการคัดกรองสัญญาณการซื้อขาย เช่น:
* **Moving Averages:** ใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) เพื่อระบุแนวโน้ม (Trend) และจุดเข้าซื้อขาย * **Relative Strength Index (RSI):** ใช้ RSI เพื่อวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้ม และระบุสภาวะการซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold) * **MACD:** ใช้ MACD เพื่อระบุการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม และจุดเข้าซื้อขาย * **Bollinger Bands:** ใช้ Bollinger Bands เพื่อวัดความผันผวน และระบุช่วงราคาที่เหมาะสมในการซื้อขาย * **Stochastic Oscillator:** ใช้ Stochastic Oscillator เพื่อระบุสภาวะการซื้อมากเกินไป หรือขายมากเกินไป
3. **ตัวกรองตามรูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Pattern Filters):** ตัวกรองประเภทนี้จะใช้รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns) ในการคัดกรองสัญญาณการซื้อขาย เช่น:
* **Doji:** สัญญาณบ่งบอกถึงความไม่แน่นอนในตลาด * **Engulfing Pattern:** สัญญาณบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม * **Hammer/Hanging Man:** สัญญาณบ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม * **Morning Star/Evening Star:** สัญญาณบ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม
4. **ตัวกรองตามข่าวสารและเหตุการณ์ (News and Event Filters):** ตัวกรองประเภทนี้จะใช้ข่าวสาร และเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ (Economic Events) ในการคัดกรองสัญญาณการซื้อขาย เช่น:
* **ประกาศอัตราดอกเบี้ย:** การเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาดการเงิน * **รายงานการจ้างงาน:** รายงานการจ้างงานเป็นตัวบ่งชี้สำคัญของสุขภาพเศรษฐกิจ * **การประชุมธนาคารกลาง:** การประชุมธนาคารกลางอาจส่งผลกระทบต่อค่าเงิน และตลาดหุ้น * **เหตุการณ์ทางการเมือง:** เหตุการณ์ทางการเมืองอาจสร้างความผันผวนในตลาด
- การสร้าง ตัวกรอง ที่มีประสิทธิภาพ
การสร้างตัวกรองที่มีประสิทธิภาพต้องอาศัยความเข้าใจในตลาดไบนารี่ออปชั่น และกลยุทธ์การซื้อขายของตนเอง นี่คือขั้นตอนในการสร้างตัวกรอง:
1. **กำหนดกลยุทธ์:** ก่อนที่จะสร้างตัวกรอง คุณต้องมีกลยุทธ์การซื้อขายที่ชัดเจนก่อน กลยุทธ์ของคุณควรกำหนด:
* **สินทรัพย์ที่ต้องการซื้อขาย:** เลือกสินทรัพย์ที่เหมาะสมกับกลยุทธ์ของคุณ * **ช่วงเวลาการหมดอายุ:** กำหนดช่วงเวลาการหมดอายุที่เหมาะสม * **ตัวชี้วัดทางเทคนิคที่ใช้:** เลือกตัวชี้วัดทางเทคนิคที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ของคุณ * **รูปแบบแท่งเทียนที่ต้องการ:** ระบุรูปแบบแท่งเทียนที่บ่งบอกถึงโอกาสในการซื้อขาย * **การจัดการความเสี่ยง (Risk Management):** กำหนดขนาดของการลงทุน และระดับการยอมรับความเสี่ยง
2. **ระบุเงื่อนไข:** กำหนดเงื่อนไขที่ชัดเจนในการคัดกรองสัญญาณการซื้อขาย ตัวอย่างเช่น:
* "ซื้อ เมื่อ RSI ต่ำกว่า 30 และ MACD ตัดเส้นสัญญาณขึ้น" * "ขาย เมื่อ RSI สูงกว่า 70 และเกิดรูปแบบ Evening Star" * "ซื้อ เมื่อมีการประกาศข่าวเชิงบวกเกี่ยวกับเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ"
3. **ทดสอบ (Backtesting):** ทดสอบตัวกรองของคุณกับข้อมูลในอดีต (Historical Data) เพื่อประเมินประสิทธิภาพของตัวกรอง หากตัวกรองของคุณไม่ทำงานได้ดีเท่าที่คาดหวัง ให้ปรับปรุงเงื่อนไข หรือลองใช้ตัวกรองอื่น
4. **ปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง:** ตลาดการเงินมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ดังนั้น คุณต้องปรับปรุงตัวกรองของคุณอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่าตัวกรองยังคงมีประสิทธิภาพ
- ตัวอย่างการใช้ ตัวกรอง
สมมติว่าคุณต้องการใช้กลยุทธ์การซื้อขายตามแนวโน้ม (Trend Following Strategy) โดยใช้ตัวกรองดังต่อไปนี้:
- **สินทรัพย์:** สกุลเงิน EUR/USD
- **ช่วงเวลาการหมดอายุ:** 5 นาที
- **ตัวชี้วัดทางเทคนิค:**
* Moving Average (MA) 20 วัน: ใช้เพื่อระบุแนวโน้ม * RSI (14 วัน): ใช้เพื่อยืนยันสัญญาณ
- **เงื่อนไข:**
* ซื้อ เมื่อราคาตัดขึ้นเหนือ MA 20 วัน และ RSI อยู่เหนือ 50 * ขาย เมื่อราคาตัดลงต่ำกว่า MA 20 วัน และ RSI อยู่ต่ำกว่า 50
ตัวกรองนี้จะช่วยคัดกรองเฉพาะสัญญาณการซื้อขาย EUR/USD ที่มีแนวโน้มเป็นขาขึ้น หรือขาลง และได้รับการยืนยันจาก RSI ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
- เครื่องมือในการสร้าง ตัวกรอง
มีเครื่องมือหลายอย่างที่สามารถช่วยในการสร้างตัวกรอง:
- **แพลตฟอร์มการซื้อขาย (Trading Platform):** แพลตฟอร์มการซื้อขายส่วนใหญ่มักจะมีเครื่องมือในการสร้างตัวกรอง หรือการตั้งค่าการแจ้งเตือน (Alerts)
- **โปรแกรมการเขียนโปรแกรม (Programming Languages):** คุณสามารถใช้ภาษาโปรแกรม เช่น Python หรือ MQL4 เพื่อสร้างตัวกรองที่ซับซ้อนได้
- **บริการสัญญาณ (Signal Services):** มีบริการสัญญาณหลายแห่งที่ให้บริการตัวกรอง หรือสัญญาณการซื้อขายที่สร้างขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญ
- ข้อควรระวังในการใช้ ตัวกรอง
- **ตัวกรองไม่ใช่ยาวิเศษ:** ตัวกรองไม่ได้การันตีผลกำไรเสมอไป คุณยังต้องใช้ความรู้ และประสบการณ์ในการตัดสินใจซื้อขาย
- **การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง:** ตลาดการเงินมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ดังนั้น คุณต้องปรับปรุงตัวกรองของคุณอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่าตัวกรองยังคงมีประสิทธิภาพ
- **การทดสอบอย่างละเอียด:** ทดสอบตัวกรองของคุณกับข้อมูลในอดีตอย่างละเอียด ก่อนที่จะนำไปใช้ในการซื้อขายจริง
- **การจัดการความเสี่ยง:** อย่าลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถรับได้
- กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง
- กลยุทธ์การซื้อขายตามแนวโน้ม (Trend Following Strategy)
- กลยุทธ์การซื้อขาย Breakout (Breakout Strategy)
- กลยุทธ์การซื้อขาย Range Trading (Range Trading Strategy)
- กลยุทธ์การซื้อขาย Scalping (Scalping Strategy)
- กลยุทธ์การซื้อขายข่าวสาร (News Trading Strategy)
- การวิเคราะห์ทางเทคนิค
- การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย
- แนวโน้ม
- แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend)
- แนวโน้มขาลง (Downtrend)
- แนวโน้ม Sideways (Sideways Trend)
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวกรองในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น การใช้ตัวกรองอย่างถูกต้องจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไร และลดความเสี่ยงในการลงทุน (Trading Tools)
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

