จุด Pivot
- จุด Pivot (Pivot Points)
จุด Pivot เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้ในการคาดการณ์ระดับแนวรับ แนวต้าน และจุดกลับตัวของราคาในตลาดการเงิน รวมถึงตลาด ไบนารี่ออปชั่น ด้วย จุด Pivot ถูกพัฒนาขึ้นโดยนักวิเคราะห์ทางเทคนิคชื่อ Michael Burkett ในช่วงทศวรรษ 1930 และกลายเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในหมู่เทรดเดอร์เนื่องจากความเรียบง่ายและประสิทธิภาพในการระบุระดับราคาสำคัญ
- หลักการพื้นฐานของจุด Pivot
จุด Pivot คำนวณจากราคา High, Low และ Close ของช่วงเวลาที่กำหนด (เช่น วัน, สัปดาห์, เดือน) โดยสูตรการคำนวณพื้นฐานมีดังนี้:
- **Pivot Point (PP):** (High + Low + Close) / 3
- **Resistance Level 1 (R1):** (2 x PP) - Low
- **Resistance Level 2 (R2):** PP + (High - Low)
- **Support Level 1 (S1):** (2 x PP) - High
- **Support Level 2 (S2):** PP - (High - Low)
- คำอธิบาย:**
- **High:** ราคาสูงสุดของช่วงเวลาที่กำหนด
- **Low:** ราคาต่ำสุดของช่วงเวลาที่กำหนด
- **Close:** ราคาปิดของช่วงเวลาที่กำหนด
- **Pivot Point (PP):** จุดกึ่งกลางของช่วงราคา
- **Resistance Levels (R1, R2):** ระดับราคาที่คาดว่าจะมีการขาย (แรงกดดันจากผู้ขาย) ทำให้ราคามีแนวโน้มที่จะหยุดหรือกลับตัวลง
- **Support Levels (S1, S2):** ระดับราคาที่คาดว่าจะมีการซื้อ (แรงซื้อ) ทำให้ราคามีแนวโน้มที่จะหยุดหรือกลับตัวขึ้น
- การใช้งานจุด Pivot ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น
จุด Pivot สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการเทรดไบนารี่ออปชั่นได้หลายวิธี:
1. **การระบุแนวรับและแนวต้าน:** จุด Pivot และระดับต่างๆ ที่คำนวณได้สามารถใช้เป็นแนวรับและแนวต้านที่สำคัญในการตัดสินใจว่าจะเข้าเทรดหรือไม่ หากราคาเข้าใกล้ระดับแนวรับ อาจพิจารณาเปิดออปชั่น Call (ซื้อ) โดยคาดหวังว่าราคาจะเด้งกลับขึ้นไป หากราคาเข้าใกล้ระดับแนวต้าน อาจพิจารณาเปิดออปชั่น Put (ขาย) โดยคาดหวังว่าราคาจะปรับตัวลง 2. **การยืนยันสัญญาณ:** จุด Pivot สามารถใช้เพื่อยืนยันสัญญาณที่ได้จากเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น Moving Averages, RSI, MACD หรือ Bollinger Bands หากสัญญาณจากเครื่องมือเหล่านี้สอดคล้องกับระดับ Pivot อาจเพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจเทรด 3. **การตั้งเป้าหมายกำไร (Take Profit):** ระดับ Resistance และ Support สามารถใช้เป็นเป้าหมายกำไรในการเทรดไบนารี่ออปชั่นได้ หากคุณเปิดออปชั่น Call ที่แนวรับ S1 คุณอาจตั้งเป้าหมายกำไรที่ระดับ Resistance R1 หรือ R2 4. **การตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss):** จุด Pivot สามารถใช้เพื่อตั้งจุดตัดขาดทุนได้เช่นกัน หากคุณเปิดออปชั่น Call ที่แนวรับ S1 คุณอาจตั้งจุดตัดขาดทุนไว้ที่ต่ำกว่าระดับ S1 เล็กน้อย เพื่อจำกัดความเสี่ยงหากราคาไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
- ตัวอย่างการคำนวณและใช้งานจุด Pivot
สมมติว่าราคาของสินทรัพย์ XYZ ในช่วงวันที่ผ่านมามีดังนี้:
- High: 1.1250
- Low: 1.1000
- Close: 1.1200
จากสูตรข้างต้น เราจะคำนวณจุด Pivot ได้ดังนี้:
- PP: (1.1250 + 1.1000 + 1.1200) / 3 = 1.1150
- R1: (2 x 1.1150) - 1.1000 = 1.1300
- R2: 1.1150 + (1.1250 - 1.1000) = 1.1400
- S1: (2 x 1.1150) - 1.1250 = 1.1100
- S2: 1.1150 - (1.1250 - 1.1000) = 1.0900
จากตัวอย่างนี้ เราจะเห็นว่า:
- PP (1.1150) เป็นจุดกึ่งกลางของช่วงราคา
- R1 (1.1300) และ R2 (1.1400) คือระดับ Resistance ที่คาดว่าจะมีการขาย
- S1 (1.1100) และ S2 (1.0900) คือระดับ Support ที่คาดว่าจะมีการซื้อ
หากราคาปัจจุบันของ XYZ คือ 1.1120 และคุณคาดว่าราคาจะปรับตัวขึ้น คุณอาจพิจารณาเปิดออปชั่น Call โดยมีเป้าหมายกำไรที่ R1 (1.1300) และตั้งจุดตัดขาดทุนไว้ที่ต่ำกว่า S1 (1.1100)
- ข้อดีและข้อเสียของจุด Pivot
- ข้อดี:**
- **ใช้งานง่าย:** การคำนวณจุด Pivot ไม่ซับซ้อนและสามารถทำได้ง่าย
- **ประสิทธิภาพ:** จุด Pivot สามารถระบุระดับราคาสำคัญได้อย่างแม่นยำในหลายกรณี
- **ความยืดหยุ่น:** สามารถใช้ได้กับกรอบเวลาต่างๆ (รายวัน, รายสัปดาห์, รายเดือน)
- **เป็นเครื่องมือยืนยัน:** สามารถใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยำ
- ข้อเสีย:**
- **ไม่ใช่เครื่องมือที่สมบูรณ์แบบ:** จุด Pivot ไม่สามารถทำนายการเคลื่อนไหวของราคาได้อย่างแม่นยำ 100%
- **สัญญาณหลอก:** ในบางครั้ง ราคาอาจทะลุผ่านระดับ Pivot แล้วกลับตัว ทำให้เกิดสัญญาณหลอก
- **ต้องใช้ความระมัดระวัง:** ควรใช้จุด Pivot ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ และมีการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม
- การปรับปรุงและเพิ่มเติมจุด Pivot
นอกเหนือจากสูตรพื้นฐานแล้ว ยังมีการปรับปรุงและเพิ่มเติมจุด Pivot หลายรูปแบบ เช่น:
- **Fibonacci Pivot Points:** ใช้ระดับ Fibonacci Retracement ร่วมกับจุด Pivot เพื่อระบุระดับราคาที่สำคัญยิ่งขึ้น
- **Woodie’s Pivot Points:** ใช้การคำนวณที่ซับซ้อนมากขึ้นเพื่อระบุระดับ Pivot ที่แม่นยำยิ่งขึ้น โดยคำนึงถึงช่วงเวลาและสภาวะตลาด
- **Pivot Point Confluence:** การรวมจุด Pivot จากหลายกรอบเวลาเพื่อยืนยันระดับราคาที่สำคัญ
- กลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นโดยใช้จุด Pivot
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างกลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นโดยใช้จุด Pivot:
1. **Breakout Strategy:** รอให้ราคาทะลุระดับ Resistance หรือ Support ที่สำคัญ แล้วเปิดออปชั่นในทิศทางของการทะลุ 2. **Bounce Strategy:** รอให้ราคาเข้าใกล้ระดับ Support หรือ Resistance แล้วเปิดออปชั่นในทิศทางตรงกันข้าม (คาดว่าราคาจะเด้งกลับ) 3. **Pivot Point Channel Strategy:** สร้าง Channel โดยใช้ระดับ Resistance และ Support เป็นขอบเขตบนและล่างของ Channel แล้วเทรดตามการเคลื่อนไหวของราคาภายใน Channel 4. **Combining with Indicators:** ใช้จุด Pivot ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น Stochastic Oscillator หรือ Williams %R เพื่อยืนยันสัญญาณและเพิ่มความแม่นยำ
| กลยุทธ์ | คำอธิบาย | ระดับความเสี่ยง | |||||||||||||
| Breakout Strategy | รอให้ราคาทะลุระดับ Resistance หรือ Support แล้วเปิดออปชั่นในทิศทางของการทะลุ | ปานกลาง | Bounce Strategy | รอให้ราคาเข้าใกล้ระดับ Support หรือ Resistance แล้วเปิดออปชั่นในทิศทางตรงกันข้าม | ปานกลาง | Pivot Point Channel Strategy | สร้าง Channel โดยใช้ระดับ Resistance และ Support แล้วเทรดตามการเคลื่อนไหวของราคาภายใน Channel | ต่ำ | Combining with Indicators | ใช้จุด Pivot ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อยืนยันสัญญาณ | ปานกลางถึงสูง (ขึ้นอยู่กับเครื่องมือที่ใช้ร่วมกัน) |
- การจัดการความเสี่ยงในการใช้จุด Pivot
การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเทรดไบนารี่ออปชั่นโดยใช้จุด Pivot:
- **กำหนดขนาดการลงทุน:** กำหนดขนาดการลงทุนต่อออปชั่นอย่างเหมาะสม ไม่ควรลงทุนเกิน 5% ของเงินทุนทั้งหมด
- **ตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss):** ตั้งจุดตัดขาดทุนไว้ที่ระดับที่เหมาะสม เพื่อจำกัดความเสี่ยงหากราคาไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
- **ใช้เงินทุนเสมือน (Demo Account):** ฝึกฝนการใช้จุด Pivot และกลยุทธ์ต่างๆ ในบัญชี Demo ก่อนที่จะเริ่มเทรดด้วยเงินจริง
- **ติดตามข่าวสาร:** ติดตามข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาด
- **เรียนรู้และปรับปรุง:** เรียนรู้จากประสบการณ์และปรับปรุงกลยุทธ์ของคุณอย่างต่อเนื่อง
- สรุป
จุด Pivot เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีประโยชน์สำหรับการเทรดไบนารี่ออปชั่น ช่วยในการระบุระดับแนวรับ แนวต้าน และจุดกลับตัวของราคา อย่างไรก็ตาม ควรใช้จุด Pivot ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ และมีการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงในการขาดทุน อย่าลืมศึกษา การบริหารความเสี่ยง และ จิตวิทยาการเทรด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรดของคุณด้วย
- ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง
- การวิเคราะห์ทางเทคนิค
- ไบนารี่ออปชั่นคืออะไร
- Moving Averages
- RSI (Relative Strength Index)
- MACD (Moving Average Convergence Divergence)
- Bollinger Bands
- Fibonacci Retracement
- Stochastic Oscillator
- Williams %R
- การบริหารความเสี่ยง
- จิตวิทยาการเทรด
- รูปแบบแท่งเทียน
- การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย
- แนวโน้ม (Trend)
- การระบุแนวโน้ม
- กลยุทธ์การเทรด
- การเทรดตามแนวโน้ม
- การเทรด Breakout
- การเทรด Range
- การวิเคราะห์ Chart Patterns
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

