คำศัพท์ทางการเงิน

คำศัพท์ทางการเงิน สำหรับผู้เริ่มต้นในไบนารี่ออปชั่น

บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นสนใจในตลาด ไบนารี่ออปชั่น และต้องการทำความเข้าใจภาษาทางการเงินที่ใช้ในวงการนี้ การเข้าใจคำศัพท์เหล่านี้เป็นพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์ตลาด ตัดสินใจเทรด และบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บทนำ

ตลาดการเงินเต็มไปด้วยคำศัพท์เฉพาะทางที่อาจดูเข้าใจยากสำหรับผู้เริ่มต้น การทำความคุ้นเคยกับคำศัพท์เหล่านี้จึงเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญก่อนที่จะเริ่มทำการเทรด ไบนารี่ออปชั่น บทความนี้จะอธิบายคำศัพท์ทางการเงินที่สำคัญและมักพบในการเทรดไบนารี่ออปชั่น โดยแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อความสะดวกในการศึกษา

หมวดหมู่ที่ 1: คำศัพท์พื้นฐานด้านการเงิน

**สินทรัพย์ (Asset):** สิ่งที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ ซึ่งสามารถนำมาซื้อขายได้ เช่น สกุลเงิน (EUR/USD, GBP/JPY), หุ้น (Apple, Google), ดัชนี (S&P 500, NASDAQ), สินค้าโภคภัณฑ์ (ทองคำ, น้ำมันดิบ) ในไบนารี่ออปชั่น เราจะทำการคาดการณ์ว่าราคาสินทรัพย์เหล่านี้จะสูงขึ้นหรือต่ำลงภายในระยะเวลาที่กำหนด
**ราคาเสนอซื้อ (Bid Price):** ราคาที่ผู้ซื้อเสนอที่จะซื้อสินทรัพย์ ณ ขณะนั้น
**ราคาเสนอขาย (Ask Price):** ราคาที่ผู้ขายเสนอที่จะขายสินทรัพย์ ณ ขณะนั้น
**ส่วนต่างราคา (Spread):** ความแตกต่างระหว่างราคาเสนอซื้อและราคาเสนอขาย เป็นค่าธรรมเนียมที่โบรกเกอร์ได้รับจากการซื้อขาย
**ความผันผวน (Volatility):** การเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์ในช่วงเวลาหนึ่ง ความผันผวนสูงหมายถึงราคามีโอกาสเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจสร้างโอกาสในการทำกำไร แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน การวัดความผันผวนเป็นส่วนสำคัญของ การวิเคราะห์ความเสี่ยง
**สภาพคล่อง (Liquidity):** ความสามารถในการซื้อขายสินทรัพย์ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ส่งผลกระทบต่อราคา สภาพคล่องสูงหมายถึงมีผู้ซื้อและผู้ขายจำนวนมาก
**อัตราดอกเบี้ย (Interest Rate):** ค่าธรรมเนียมที่ผู้กู้จ่ายให้กับผู้ให้กู้สำหรับการใช้เงินทุน อัตราดอกเบี้ยมีผลต่อมูลค่าของสกุลเงิน
**เงินเฟ้อ (Inflation):** อัตราการเพิ่มขึ้นของระดับราคาทั่วไปของสินค้าและบริการในเศรษฐกิจ เงินเฟ้อสูงอาจทำให้มูลค่าของสกุลเงินลดลง

หมวดหมู่ที่ 2: คำศัพท์เฉพาะในไบนารี่ออปชั่น

**ไบนารี่ออปชั่น (Binary Option):** สัญญาทางการเงินที่ให้ผลตอบแทนแบบ "ทั้งหมดหรือไม่มีอะไรเลย" (all-or-nothing) ผู้เทรดจะคาดการณ์ว่าราคาสินทรัพย์จะสูงขึ้นหรือต่ำลงภายในระยะเวลาที่กำหนด หากคาดการณ์ถูกต้องจะได้รับผลตอบแทนตามที่กำหนด หากคาดการณ์ผิดจะเสียเงินลงทุนทั้งหมด
**ระยะเวลาหมดอายุ (Expiry Time):** ระยะเวลาที่สัญญาไบนารี่ออปชั่นจะหมดอายุ ซึ่งอาจเป็นวินาที นาที ชั่วโมง หรือวัน
**ราคาใช้สิทธิ (Strike Price):** ระดับราคาที่ใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินว่าการคาดการณ์ของผู้เทรดถูกต้องหรือไม่
**ผลตอบแทน (Payout):** จำนวนเงินที่ผู้เทรดจะได้รับหากการคาดการณ์ถูกต้อง โดยปกติจะแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์ของเงินลงทุน
**เงินลงทุน (Investment):** จำนวนเงินที่ผู้เทรดลงทุนในสัญญาไบนารี่ออปชั่นแต่ละครั้ง
**Call Option:** สัญญาที่ผู้เทรดคาดการณ์ว่าราคาสินทรัพย์จะสูงขึ้น
**Put Option:** สัญญาที่ผู้เทรดคาดการณ์ว่าราคาสินทรัพย์จะต่ำลง
**In-the-Money (ITM):** สัญญาที่ผลตอบแทนจะเกิดขึ้นหากราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่คาดการณ์ไว้
**Out-of-the-Money (OTM):** สัญญาที่ผลตอบแทนจะไม่เกิดขึ้นหากราคาไม่เคลื่อนไหวไปในทิศทางที่คาดการณ์ไว้
**At-the-Money (ATM):** สัญญาที่ราคาใช้สิทธิใกล้เคียงกับราคาปัจจุบันของสินทรัพย์

หมวดหมู่ที่ 3: คำศัพท์ด้านการวิเคราะห์ทางเทคนิค

**แนวรับ (Support):** ระดับราคาที่คาดว่าจะมีการซื้อเข้ามา ทำให้ราคาไม่น่าจะลดลงต่ำกว่าระดับนั้น
**แนวต้าน (Resistance):** ระดับราคาที่คาดว่าจะมีการขายออกมา ทำให้ราคาไม่น่าจะสูงขึ้นเกินระดับนั้น
**แนวโน้ม (Trend):** ทิศทางโดยรวมของการเคลื่อนที่ของราคา อาจเป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend), แนวโน้มขาลง (Downtrend), หรือแนวโน้ม Sideways
**แท่งเทียน (Candlestick):** รูปแบบการแสดงข้อมูลราคาที่ประกอบด้วยราคาเปิด ราคาปิด ราคาสูงสุด และราคาต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง การวิเคราะห์แท่งเทียนเป็นส่วนสำคัญของ การวิเคราะห์ทางเทคนิค
**ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average):** ค่าเฉลี่ยของราคาในช่วงเวลาหนึ่ง ใช้เพื่อลดสัญญาณรบกวนและระบุแนวโน้มของราคา
**ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (Relative Strength Index - RSI):** ตัวชี้วัดที่ใช้วัดความเร็วและขนาดของการเปลี่ยนแปลงของราคา เพื่อระบุสภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold)
**เส้น MACD (Moving Average Convergence Divergence):** ตัวชี้วัดที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สองเส้น ใช้เพื่อระบุแนวโน้มและสัญญาณซื้อขาย
**Fibonacci Retracement:** เครื่องมือที่ใช้ระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้น โดยอิงจากลำดับ Fibonacci
**Bollinger Bands:** แถบที่แสดงความผันผวนของราคา ใช้เพื่อระบุสภาวะซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป

หมวดหมู่ที่ 4: คำศัพท์ด้านการบริหารความเสี่ยง

**การบริหารความเสี่ยง (Risk Management):** การวางแผนและดำเนินการเพื่อลดความเสี่ยงในการเทรด
**ขนาดตำแหน่ง (Position Sizing):** จำนวนเงินลงทุนในแต่ละสัญญาไบนารี่ออปชั่น การกำหนดขนาดตำแหน่งที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการบริหารความเสี่ยง
**อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk/Reward Ratio):** อัตราส่วนระหว่างจำนวนเงินที่อาจเสีย (ความเสี่ยง) กับจำนวนเงินที่อาจได้รับ (ผลตอบแทน)
**Stop Loss:** คำสั่งให้ปิดตำแหน่งหากราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ เพื่อจำกัดความเสียหาย
**Diversification:** การกระจายความเสี่ยงโดยการลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภท
**Hedging:** การลดความเสี่ยงโดยการใช้สัญญาทางการเงินเพื่อชดเชยความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

กลยุทธ์การเทรดที่เกี่ยวข้อง

กลยุทธ์ Martingale: เพิ่มเงินลงทุนเป็นสองเท่าหลังจากการสูญเสียแต่ละครั้ง
กลยุทธ์ Anti-Martingale: เพิ่มเงินลงทุนหลังจากการชนะแต่ละครั้ง
กลยุทธ์ Straddle: ซื้อทั้ง Call และ Put Option พร้อมกัน
กลยุทธ์ Strangle: ซื้อ Call และ Put Option ที่มีราคาใช้สิทธิแตกต่างกัน
กลยุทธ์ Trend Following: เทรดตามแนวโน้มของราคา
กลยุทธ์ Breakout: เทรดเมื่อราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้าน
กลยุทธ์ Reversal: เทรดเมื่อคาดการณ์ว่าแนวโน้มจะกลับตัว
กลยุทธ์ 60 Second Strategy: เทรดในกรอบเวลา 60 วินาที
กลยุทธ์ Pin Bar Strategy: ใช้รูปแบบ Pin Bar ในการวิเคราะห์
กลยุทธ์ Engulfing Pattern Strategy: ใช้รูปแบบ Engulfing ในการวิเคราะห์
กลยุทธ์ Moving Average Crossover: ใช้การตัดกันของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เพื่อสัญญาณซื้อขาย
กลยุทธ์ RSI Divergence: ใช้การเบี่ยงเบนของ RSI เพื่อสัญญาณซื้อขาย
กลยุทธ์ MACD Crossover: ใช้การตัดกันของเส้น MACD เพื่อสัญญาณซื้อขาย
กลยุทธ์ Fibonacci Retracement Strategy: ใช้ Fibonacci Retracement เพื่อหาจุดเข้าซื้อขาย
กลยุทธ์ Bollinger Bands Squeeze: ใช้ Bollinger Bands เพื่อหาจุดเข้าซื้อขายเมื่อความผันผวนต่ำ

การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพิ่มเติม

Ichimoku Cloud: ระบบการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ซับซ้อน
Elliott Wave Theory: ทฤษฎีที่อธิบายการเคลื่อนที่ของราคาเป็นรูปแบบคลื่น
Harmonic Patterns: รูปแบบที่ซับซ้อนที่ใช้ Fibonacci และแนวโน้มในการระบุจุดเข้าซื้อขาย

การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย

Volume Spread Analysis (VSA): การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างราคาและปริมาณการซื้อขาย
On Balance Volume (OBV): ตัวชี้วัดที่ใช้วัดแรงซื้อขาย

ตัวอย่างคำศัพท์และคำอธิบาย
! คำศัพท์	! คำอธิบาย
สินทรัพย์	สิ่งที่มีมูลค่า เช่น สกุลเงิน หุ้น
ราคาเสนอซื้อ	ราคาที่ผู้ซื้อเสนอ
ราคาเสนอขาย	ราคาที่ผู้ขายเสนอ
ความผันผวน	การเปลี่ยนแปลงของราคา
Call Option	คาดการณ์ว่าราคาจะสูงขึ้น
Put Option	คาดการณ์ว่าราคาจะต่ำลง
แนวรับ	ระดับราคาที่คาดว่าจะมีการซื้อ
แนวต้าน	ระดับราคาที่คาดว่าจะมีการขาย
Stop Loss	คำสั่งปิดตำแหน่งเพื่อจำกัดความเสียหาย
Diversification	การกระจายความเสี่ยง

สรุป

การเข้าใจคำศัพท์ทางการเงินเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการประสบความสำเร็จในการเทรด ไบนารี่ออปชั่น การศึกษาและฝึกฝนอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะในการวิเคราะห์ตลาด ตัดสินใจเทรด และบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่าลืมว่าการเทรดมีความเสี่ยง และคุณควรลงทุนเฉพาะเงินที่คุณสามารถเสียได้

การจัดการเงินทุน เป็นอีกหนึ่งหัวข้อสำคัญที่คุณควรศึกษาควบคู่ไปกับการเรียนรู้คำศัพท์เหล่านี้ เพื่อให้คุณสามารถควบคุมความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้อย่างยั่งยืน

การเลือกโบรกเกอร์ ก็เป็นปัจจัยสำคัญ ควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือ มีใบอนุญาต และมีเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการเทรด

การฝึกฝนด้วยบัญชีทดลอง เป็นวิธีที่ดีในการเรียนรู้และทดสอบกลยุทธ์ต่างๆ โดยไม่ต้องเสี่ยงเงินจริง

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

Investopedia: [1](https://www.investopedia.com/)
BabyPips: [2](https://www.babypips.com/)

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น