คำศัพท์การซื้อขาย

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
  1. คำศัพท์ การซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น สำหรับผู้เริ่มต้น

ไบนารี่ออปชั่น (Binary Options) เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากความเรียบง่ายในการทำความเข้าใจและโอกาสในการทำกำไร อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะเริ่มซื้อขายไบนารี่ออปชั่น สิ่งสำคัญคือต้องมีความเข้าใจในคำศัพท์พื้นฐานที่ใช้ในการซื้อขาย บทความนี้จะนำเสนอคำศัพท์ที่สำคัญและจำเป็นสำหรับผู้เริ่มต้นในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นอย่างละเอียด

บทนำสู่ไบนารี่ออปชั่น

ไบนารี่ออปชั่นคือสัญญาที่ให้ผลตอบแทนสองแบบ: กำไรที่กำหนดไว้ล่วงหน้า หรือการสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด ขึ้นอยู่กับว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิง (เช่น สกุลเงิน หุ้น ดัชนีสินค้าโภคภัณฑ์) จะสูงขึ้นหรือต่ำลงกว่าราคาที่กำหนดไว้ (Strike Price) ภายในระยะเวลาที่กำหนด (Expiration Time) การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นจึงเป็นการคาดการณ์ทิศทางของราคา

คำศัพท์พื้นฐาน

  • **สินทรัพย์อ้างอิง (Underlying Asset):** สินทรัพย์ที่ราคาของมันใช้เป็นฐานในการคำนวณผลตอบแทนของไบนารี่ออปชั่น ตัวอย่างเช่น คู่สกุลเงิน EUR/USD, หุ้น Apple (AAPL), ดัชนี S&P 500, หรือราคาน้ำมันดิบ
  • **ราคาใช้สิทธิ (Strike Price):** ราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่งใช้เป็นจุดอ้างอิงในการตัดสินว่าออปชั่นจะชนะหรือแพ้ หากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงสูงกว่าราคาใช้สิทธิ (สำหรับ Call Option) หรือต่ำกว่าราคาใช้สิทธิ (สำหรับ Put Option) เมื่อถึงเวลาหมดอายุ ออปชั่นจะชนะ
  • **ระยะเวลาหมดอายุ (Expiration Time):** ระยะเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ต้องรอเพื่อให้ผลลัพธ์ของออปชั่นออกมาได้ ระยะเวลาอาจสั้นเพียง 60 วินาที หรือยาวนานถึงหลายวัน
  • **ผลตอบแทน (Payout):** จำนวนเงินที่ผู้ซื้อจะได้รับหากออปชั่นชนะ โดยปกติแล้วจะแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์ของเงินลงทุน
  • **การลงทุน (Investment):** จำนวนเงินที่ผู้ซื้อจ่ายเพื่อซื้อออปชั่น
  • **Call Option:** ออปชั่นที่ผู้ซื้อคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะสูงขึ้นกว่าราคาใช้สิทธิเมื่อถึงเวลาหมดอายุ
  • **Put Option:** ออปชั่นที่ผู้ซื้อคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะต่ำลงกว่าราคาใช้สิทธิเมื่อถึงเวลาหมดอายุ
  • **In-the-Money (ITM):** ออปชั่นที่อยู่ในสถานะที่ทำกำไรได้ หากถูกใช้สิทธิ ณ ขณะนั้น
  • **Out-of-the-Money (OTM):** ออปชั่นที่อยู่ในสถานะที่ขาดทุน หากถูกใช้สิทธิ ณ ขณะนั้น
  • **At-the-Money (ATM):** ออปชั่นที่ราคาใช้สิทธิเท่ากับราคาตลาดปัจจุบันของสินทรัพย์อ้างอิง
  • **Binary (ไบนารี่):** หมายถึงผลลัพธ์ที่เป็นไปได้เพียงสองแบบ คือ กำไรหรือขาดทุน

คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ตลาด

  • **แนวโน้ม (Trend):** ทิศทางทั่วไปของการเคลื่อนที่ของราคาของสินทรัพย์อ้างอิง แนวโน้มมีสามประเภทหลัก:
   * **แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend):** ราคาเคลื่อนที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
   * **แนวโน้มขาลง (Downtrend):** ราคาเคลื่อนที่ต่ำลงอย่างต่อเนื่อง
   * **แนวโน้ม Sideways (Sideways Trend):** ราคาเคลื่อนที่ในกรอบแคบๆ ไม่มีทิศทางที่ชัดเจน
  • **แนวรับ (Support):** ระดับราคาที่คาดว่าจะมีการซื้อเข้ามาจำนวนมาก ทำให้ราคามีแนวโน้มที่จะไม่ลดลงต่ำกว่าระดับนั้น
  • **แนวต้าน (Resistance):** ระดับราคาที่คาดว่าจะมีการขายออกมาจำนวนมาก ทำให้ราคามีแนวโน้มที่จะไม่เพิ่มขึ้นสูงกว่าระดับนั้น
  • **การ Breakout:** การที่ราคาของสินทรัพย์อ้างอิงทะลุผ่านแนวรับหรือแนวต้านอย่างมีนัยสำคัญ
  • **ความผันผวน (Volatility):** การเปลี่ยนแปลงของราคาของสินทรัพย์อ้างอิงในช่วงเวลาหนึ่ง ความผันผวนสูงหมายถึงการเปลี่ยนแปลงของราคาที่รวดเร็วและรุนแรง
  • **แท่งเทียน (Candlestick):** รูปแบบการแสดงข้อมูลราคาของสินทรัพย์อ้างอิงในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ละแท่งเทียนแสดงราคาเปิด ราคาปิด ราคาสูงสุด และราคาต่ำสุด
  • **รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns):** รูปแบบที่เกิดจากการรวมกันของแท่งเทียนหลายแท่ง ซึ่งสามารถใช้ในการคาดการณ์ทิศทางของราคาในอนาคต เช่น Doji, Hammer, Engulfing Pattern
  • **ตัวชี้วัดทางเทคนิค (Technical Indicators):** สูตรทางคณิตศาสตร์ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลราคาและปริมาณการซื้อขาย เพื่อช่วยในการตัดสินใจซื้อขาย เช่น Moving Average, MACD, RSI, Bollinger Bands
  • **การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis):** การศึกษาข้อมูลราคาและปริมาณการซื้อขายในอดีต เพื่อทำนายทิศทางของราคาในอนาคต
  • **การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis):** การศึกษาปัจจัยทางเศรษฐกิจ การเงิน และอุตสาหกรรม ที่มีผลต่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิง

คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารความเสี่ยง

  • **การบริหารความเสี่ยง (Risk Management):** การวางแผนและดำเนินการเพื่อลดความเสี่ยงในการขาดทุนจากการซื้อขาย
  • **ขนาด Position (Position Sizing):** จำนวนเงินที่ลงทุนในแต่ละออปชั่น การกำหนดขนาด Position ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการบริหารความเสี่ยง
  • **Stop Loss:** คำสั่งให้ปิดออปชั่นโดยอัตโนมัติเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนดไว้ เพื่อจำกัดการขาดทุน
  • **Take Profit:** คำสั่งให้ปิดออปชั่นโดยอัตโนมัติเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนดไว้ เพื่อทำกำไร
  • **อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk/Reward Ratio):** อัตราส่วนระหว่างจำนวนเงินที่อาจสูญเสียกับการจำนวนเงินที่อาจได้รับ หากออปชั่นชนะ
  • **การกระจายความเสี่ยง (Diversification):** การลงทุนในสินทรัพย์อ้างอิงหลายประเภท เพื่อลดความเสี่ยงโดยรวม

กลยุทธ์การซื้อขายไบนารี่ออปชั่น

  • **กลยุทธ์ 60 วินาที (60-Second Strategy):** กลยุทธ์ที่ใช้ในการซื้อขายออปชั่นที่มีระยะเวลาหมดอายุสั้นเพียง 60 วินาที มักใช้กับการวิเคราะห์ทางเทคนิคระยะสั้น
  • **กลยุทธ์ Martingale (Martingale Strategy):** กลยุทธ์ที่เพิ่มขนาดการลงทุนเป็นสองเท่าทุกครั้งที่ขาดทุน เพื่อให้สามารถทำกำไรคืนได้เมื่อชนะ (มีความเสี่ยงสูง)
  • **กลยุทธ์ Fibonacci (Fibonacci Strategy):** กลยุทธ์ที่ใช้ลำดับ Fibonacci เพื่อระบุแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้น
  • **กลยุทธ์ Trend Following (Trend Following Strategy):** กลยุทธ์ที่ซื้อออปชั่นตามแวโน้มของราคา
  • **กลยุทธ์ Straddle (Straddle Strategy):** กลยุทธ์ที่ซื้อทั้ง Call Option และ Put Option พร้อมกัน โดยหวังว่าราคาจะเคลื่อนที่อย่างรุนแรงในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง
  • **กลยุทธ์ Butterfly (Butterfly Strategy):** กลยุทธ์ที่ใช้ในการคาดการณ์ว่าราคาจะอยู่ในช่วงแคบๆ
  • **กลยุทธ์ News Trading (News Trading Strategy):** กลยุทธ์ที่ซื้อขายออปชั่นตามข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจ
  • **กลยุทธ์ Pin Bar (Pin Bar Strategy):** กลยุทธ์ที่ใช้รูปแบบ Pin Bar บนแท่งเทียนเพื่อระบุสัญญาณการกลับตัวของราคา
  • **กลยุทธ์ Moving Average Crossover (Moving Average Crossover Strategy):** กลยุทธ์ที่ใช้การตัดกันของเส้น Moving Average เพื่อระบุสัญญาณการซื้อขาย
  • **กลยุทธ์ RSI Divergence (RSI Divergence Strategy):** กลยุทธ์ที่ใช้การ Divergence ของ RSI เพื่อระบุสัญญาณการกลับตัวของราคา
  • **กลยุทธ์ MACD Histogram (MACD Histogram Strategy):** กลยุทธ์ที่ใช้ Histogram ของ MACD เพื่อระบุสัญญาณการซื้อขาย
  • **กลยุทธ์ Bollinger Bands Squeeze (Bollinger Bands Squeeze Strategy):** กลยุทธ์ที่ใช้การ Squeeze ของ Bollinger Bands เพื่อระบุช่วงเวลาที่อาจเกิดการ Breakout
  • **กลยุทธ์ Price Action (Price Action Strategy):** กลยุทธ์ที่เน้นการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาโดยตรง
  • **กลยุทธ์ Heikin Ashi (Heikin Ashi Strategy):** กลยุทธ์ที่ใช้ Heikin Ashi Chart เพื่อระบุแนวโน้มและสัญญาณการซื้อขาย
  • **กลยุทธ์ Japanese Candlesticks (Japanese Candlesticks Strategy):** กลยุทธ์ที่ใช้รูปแบบแท่งเทียนญี่ปุ่นเพื่อระบุสัญญาณการซื้อขาย

คำศัพท์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

  • **Broker (โบรกเกอร์):** บริษัทที่ให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น
  • **Platform (แพลตฟอร์ม):** ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น
  • **Demo Account (บัญชีทดลอง):** บัญชีที่ให้ผู้ใช้ทดลองซื้อขายโดยไม่ต้องใช้เงินจริง
  • **Regulation (กฎระเบียบ):** ข้อกำหนดและกฎเกณฑ์ที่ควบคุมการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น
  • **Margin (มาร์จิน):** เงินจำนวนหนึ่งที่โบรกเกอร์ต้องการให้ผู้ซื้อฝากไว้เป็นหลักประกัน
ตารางสรุปคำศัพท์สำคัญ
คำศัพท์ คำอธิบาย
สินทรัพย์อ้างอิง สินทรัพย์ที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณผลตอบแทน
ราคาใช้สิทธิ ราคาที่ใช้เป็นจุดอ้างอิงในการตัดสินผลแพ้ชนะ
ระยะเวลาหมดอายุ ระยะเวลาที่กำหนดให้ราคาต้องเคลื่อนที่
Call Option คาดการณ์ว่าราคาสูงขึ้น
Put Option คาดการณ์ว่าราคาต่ำลง
แนวโน้ม ทิศทางของราคา
แนวรับ ระดับราคาที่คาดว่าจะมีการซื้อ
แนวต้าน ระดับราคาที่คาดว่าจะมีการขาย
ความผันผวน การเปลี่ยนแปลงของราคา

ข้อควรจำ

การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นมีความเสี่ยงสูง ผู้ซื้อควรศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจความเสี่ยงก่อนทำการซื้อขาย การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น

การวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน การบริหารความเสี่ยง กลยุทธ์การซื้อขาย คู่สกุลเงิน หุ้น ดัชนี [[สินค้าโ

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер