ความเสี่ยงในการซื้อขาย Forex

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
File:ForexTradingRisk.jpg
  1. ความเสี่ยงในการซื้อขาย Forex

การซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ หรือ Forex (Foreign Exchange) เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดและมีความผันผวนสูงที่สุดในโลก เปิดโอกาสให้ผู้ค้าทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินต่างๆ อย่างไรก็ตาม การซื้อขาย Forex ก็มีความเสี่ยงที่สำคัญหลายประการที่ผู้ค้าจำเป็นต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้ก่อนที่จะเริ่มลงทุน บทความนี้จะสำรวจความเสี่ยงต่างๆ เหล่านั้นอย่างละเอียด พร้อมทั้งให้คำแนะนำในการจัดการความเสี่ยงเพื่อช่วยให้ผู้เริ่มต้นประสบความสำเร็จในการซื้อขาย Forex

    1. ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับ Forex

ก่อนที่จะเจาะลึกถึงความเสี่ยงต่างๆ เรามาทำความเข้าใจพื้นฐานของตลาด Forex กันก่อน Forex เป็นตลาดที่ซื้อขายสกุลเงินต่างๆ กันเป็นคู่ เช่น EUR/USD (ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐ) หรือ GBP/JPY (ปอนด์สเตอร์ลิง/เยนญี่ปุ่น) ผู้ค้าจะพยายามคาดการณ์ว่ามูลค่าของสกุลเงินหนึ่งจะแข็งค่าขึ้นหรืออ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับอีกสกุลเงินหนึ่ง หากคาดการณ์ถูกต้อง พวกเขาก็จะทำกำไรได้

การซื้อขาย Forex ดำเนินการผ่านโบรกเกอร์ Forex ซึ่งเป็นตัวกลางที่ให้แพลตฟอร์มการซื้อขายและเข้าถึงตลาด Forex โบรกเกอร์จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือส่วนต่างราคา (spread) เป็นค่าตอบแทนในการให้บริการ

สำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับ Binary Options การซื้อขาย Forex มีความแตกต่างกันอย่างมาก แม้ว่าทั้งสองอย่างจะเกี่ยวข้องกับการคาดการณ์ราคา แต่ Binary Options นั้นเป็นการเดิมพันแบบ all-or-nothing ในขณะที่ Forex เปิดโอกาสให้ผู้ค้าทำกำไรจากความผันผวนของราคาในหลากหลายรูปแบบ

    1. ประเภทของความเสี่ยงในการซื้อขาย Forex

ความเสี่ยงในการซื้อขาย Forex สามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท ดังนี้:

      1. 1. ความเสี่ยงด้านตลาด (Market Risk)

นี่เป็นความเสี่ยงที่สำคัญที่สุดในการซื้อขาย Forex เกิดจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่อาจส่งผลให้เกิดการขาดทุนได้ ปัจจัยหลายอย่างสามารถส่งผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยน เช่น:

  • **ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ:** ข้อมูลทางเศรษฐกิจ เช่น อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย และอัตราการว่างงาน สามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อมูลค่าของสกุลเงิน
  • **เหตุการณ์ทางการเมือง:** เหตุการณ์ทางการเมือง เช่น การเลือกตั้ง การเปลี่ยนแปลงนโยบาย หรือความไม่มั่นคงทางการเมือง สามารถทำให้ตลาด Forex ผันผวนได้
  • **ข่าวสารและเหตุการณ์โลก:** ข่าวสารและเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เช่น ภัยพิบัติทางธรรมชาติ หรือความขัดแย้งระหว่างประเทศ สามารถส่งผลกระทบต่อตลาด Forex ได้เช่นกัน

การใช้เครื่องมือ การวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น แนวรับแนวต้าน และ รูปแบบแท่งเทียน สามารถช่วยในการประเมินความเสี่ยงด้านตลาดได้

      1. 2. ความเสี่ยงด้านเลเวอเรจ (Leverage Risk)

เลเวอเรจ (Leverage) เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ค้าสามารถควบคุมปริมาณเงินที่มากกว่าเงินทุนของตนได้ ตัวอย่างเช่น เลเวอเรจ 1:100 หมายความว่าผู้ค้าสามารถควบคุมเงินทุนได้ 100 เท่าของเงินทุนของตน หากผู้ค้ามีเงินทุน 1,000 ดอลลาร์ พวกเขาจะสามารถควบคุมการซื้อขายมูลค่า 100,000 ดอลลาร์ได้

แม้ว่าเลเวอเรจจะสามารถเพิ่มผลกำไรได้ แต่ก็สามารถเพิ่มการขาดทุนได้อย่างมากเช่นกัน หากการซื้อขายไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ การขาดทุนอาจเกินกว่าเงินทุนเริ่มต้นของผู้ค้าได้ ดังนั้น การใช้เลเวอเรจอย่างระมัดระวังจึงเป็นสิ่งสำคัญ

กลยุทธ์ Martingale เป็นกลยุทธ์ที่ใช้เลเวอเรจสูง และมีความเสี่ยงสูงมาก

      1. 3. ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง (Liquidity Risk)

สภาพคล่อง (Liquidity) หมายถึงความง่ายในการซื้อหรือขายสกุลเงินโดยไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อราคา หากตลาดไม่มีสภาพคล่องเพียงพอ การซื้อหรือขายสกุลเงินจำนวนมากอาจทำให้ราคามีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจนำไปสู่การขาดทุนได้

โดยทั่วไปแล้ว สกุลเงินหลัก เช่น USD, EUR, JPY และ GBP จะมีสภาพคล่องสูงกว่าสกุลเงินรองและสกุลเงินแปลกใหม่

      1. 4. ความเสี่ยงด้านความผันผวน (Volatility Risk)

ความผันผวน (Volatility) หมายถึงระดับของการเปลี่ยนแปลงของราคาในช่วงเวลาหนึ่ง ตลาด Forex มีความผันผวนสูง ซึ่งหมายความว่าราคาอาจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและไม่คาดคิด ความผันผวนที่สูงอาจสร้างโอกาสในการทำกำไร แต่ก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนได้เช่นกัน

การใช้ Bollinger Bands เป็นเครื่องมือที่ช่วยวัดความผันผวนของราคา

      1. 5. ความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Risk)

การเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยสามารถส่งผลกระทบต่อมูลค่าของสกุลเงินได้ หากธนาคารกลางของประเทศหนึ่งเพิ่มอัตราดอกเบี้ย สกุลเงินของประเทศนั้นมักจะแข็งค่าขึ้น และในทางกลับกัน หากธนาคารกลางลดอัตราดอกเบี้ย สกุลเงินของประเทศนั้นมักจะอ่อนค่าลง

      1. 6. ความเสี่ยงด้านการดำเนินการ (Operational Risk)

ความเสี่ยงด้านการดำเนินการเกี่ยวข้องกับข้อผิดพลาดหรือความล้มเหลวที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการซื้อขาย เช่น ความผิดพลาดในการป้อนคำสั่งซื้อขาย ปัญหาทางเทคนิคของแพลตฟอร์มการซื้อขาย หรือการฉ้อโกง

    1. การจัดการความเสี่ยงในการซื้อขาย Forex

การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ค้า Forex ทุกคน ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับบางประการในการจัดการความเสี่ยง:

  • **กำหนดขนาดตำแหน่ง (Position Sizing):** กำหนดจำนวนเงินที่คุณยินดีเสี่ยงในการซื้อขายแต่ละครั้ง โดยทั่วไปแล้ว ไม่ควรเสี่ยงเกิน 1-2% ของเงินทุนทั้งหมดในการซื้อขายแต่ละครั้ง
  • **ใช้คำสั่ง Stop-Loss:** คำสั่ง Stop-Loss เป็นคำสั่งที่ปิดการซื้อขายโดยอัตโนมัติเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่งช่วยจำกัดการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นได้
  • **ใช้คำสั่ง Take-Profit:** คำสั่ง Take-Profit เป็นคำสั่งที่ปิดการซื้อขายโดยอัตโนมัติเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่งช่วยล็อคผลกำไรที่อาจเกิดขึ้นได้
  • **กระจายความเสี่ยง (Diversification):** อย่าลงทุนทั้งหมดในสกุลเงินเพียงสกุลเดียว กระจายความเสี่ยงของคุณโดยการซื้อขายสกุลเงินหลายสกุล
  • **เรียนรู้และฝึกฝน:** ทำความเข้าใจเกี่ยวกับตลาด Forex และกลยุทธ์การซื้อขายต่างๆ ก่อนที่จะเริ่มลงทุนจริง ฝึกฝนด้วยบัญชีทดลอง (Demo Account) ก่อนเพื่อทำความคุ้นเคยกับแพลตฟอร์มการซื้อขายและทดสอบกลยุทธ์ของคุณ
  • **ควบคุมอารมณ์:** การซื้อขาย Forex อาจทำให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกที่รุนแรง เช่น ความโลภและความกลัว อย่าปล่อยให้อารมณ์ของคุณมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อขายของคุณ
  • **ติดตามข่าวสาร:** ติดตามข่าวสารและเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาด Forex
  • **เลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้:** เลือกโบรกเกอร์ Forex ที่ได้รับการควบคุมและมีชื่อเสียงที่ดี
    1. กลยุทธ์การซื้อขายและการวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้อง

การทำความเข้าใจกลยุทธ์การซื้อขายและการวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้องสามารถช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้ ตัวอย่างเช่น:

  • **Scalping:** กลยุทธ์การซื้อขายระยะสั้นที่มุ่งเน้นการทำกำไรจากความผันผวนของราคาเล็กน้อย
  • **Day Trading:** กลยุทธ์การซื้อขายที่เปิดและปิดตำแหน่งภายในวันเดียวกัน
  • **Swing Trading:** กลยุทธ์การซื้อขายที่ถือตำแหน่งเป็นเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์
  • **Position Trading:** กลยุทธ์การซื้อขายระยะยาวที่ถือตำแหน่งเป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปี
  • **การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis):** การวิเคราะห์ราคาและปริมาณการซื้อขายเพื่อคาดการณ์แนวโน้มของราคา
  • **การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis):** การวิเคราะห์ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจและการเมืองเพื่อประเมินมูลค่าของสกุลเงิน
  • **Fibonacci Retracement:** เครื่องมือที่ใช้ระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้น
  • **Moving Averages:** เครื่องมือที่ใช้ระบุแนวโน้มของราคา
  • **Relative Strength Index (RSI):** เครื่องมือที่ใช้วัดความแข็งแกร่งของแนวโน้ม
  • **MACD (Moving Average Convergence Divergence):** เครื่องมือที่ใช้ระบุการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม
  • **Ichimoku Cloud:** เครื่องมือที่ใช้ระบุแนวรับแนวต้านและแนวโน้มของราคา
  • **Elliott Wave Theory:** ทฤษฎีที่ใช้ระบุรูปแบบของราคาที่สามารถทำนายแนวโน้มในอนาคตได้
  • **Price Action Trading:** กลยุทธ์ที่เน้นการวิเคราะห์รูปแบบราคาและแท่งเทียน
  • **Volume Spread Analysis (VSA):** การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายและความผันผวนของราคาเพื่อประเมินแรงกดดันของตลาด
  • **Harmonic Patterns:** รูปแบบราคาที่ใช้ระบุโอกาสในการซื้อขาย
    1. ความแตกต่างระหว่าง Forex และ Binary Options

แม้ว่าทั้ง Forex และ Binary Options จะเป็นการซื้อขายทางการเงิน แต่ก็มีความแตกต่างกันอย่างมาก:

| คุณสมบัติ | Forex | Binary Options | |---|---|---| | **วิธีการซื้อขาย** | ซื้อขายสกุลเงินเป็นคู่ | คาดการณ์ว่าราคาสินทรัพย์จะสูงขึ้นหรือต่ำลงภายในระยะเวลาที่กำหนด | | **ผลตอบแทน** | ไม่จำกัด (ขึ้นอยู่กับขนาดของราคาที่เปลี่ยนแปลง) | กำหนดไว้ล่วงหน้า (เช่น 70-90%) | | **ความเสี่ยง** | สามารถจำกัดได้ด้วยคำสั่ง Stop-Loss | สูงกว่า เนื่องจากเป็นการเดิมพันแบบ all-or-nothing | | **ความซับซ้อน** | ซับซ้อนกว่า | ง่ายกว่า | | **เลเวอเรจ** | มีให้ใช้งาน | มักจะมีเลเวอเรจที่สูงกว่า |

    1. สรุป

การซื้อขาย Forex เป็นกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง แต่ก็สามารถให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจได้หากผู้ค้ามีความรู้ ความเข้าใจ และวินัยในการจัดการความเสี่ยง การทำความเข้าใจประเภทของความเสี่ยงต่างๆ และการใช้กลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในการซื้อขาย Forex

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер