ขนาดของตำแหน่งซื้อขาย

ขนาดของตำแหน่งซื้อขาย

ขนาดของตำแหน่งซื้อขาย (Position Sizing) เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดในการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น ที่ประสบความสำเร็จ หลายครั้ง นักเทรดมุ่งเน้นไปที่การค้นหากลยุทธ์การซื้อขายที่ถูกต้อง หรือการทำความเข้าใจ การวิเคราะห์ทางเทคนิค อย่างลึกซึ้ง แต่กลับละเลยการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม ซึ่งรวมถึงการกำหนดขนาดของตำแหน่งซื้อขายที่เหมาะสม การไม่คำนึงถึงขนาดของตำแหน่งซื้อขาย อาจนำไปสู่การสูญเสียเงินทุนอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะมีกลยุทธ์การซื้อขายที่ดีก็ตาม บทความนี้จะอธิบายถึงความสำคัญของขนาดของตำแหน่งซื้อขาย วิธีการคำนวณ และปัจจัยที่ควรพิจารณาเพื่อกำหนดขนาดของตำแหน่งซื้อขายที่เหมาะสมสำหรับสไตล์การซื้อขายของคุณ

ทำไมขนาดของตำแหน่งซื้อขายจึงสำคัญ?

ขนาดของตำแหน่งซื้อขายคือจำนวนเงินทุนที่คุณเสี่ยงในแต่ละการซื้อขาย การกำหนดขนาดที่เหมาะสมมีความสำคัญด้วยเหตุผลหลายประการ:

การจัดการความเสี่ยง: ขนาดของตำแหน่งซื้อขายที่เหมาะสมช่วยจำกัดความเสี่ยงของคุณในการซื้อขายแต่ละครั้ง หากคุณเสี่ยงมากเกินไปในการซื้อขายครั้งเดียว คุณอาจสูญเสียเงินทุนจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว
การรักษาเงินทุน: การจัดการขนาดของตำแหน่งซื้อขายอย่างมีวินัยช่วยให้คุณรักษาเงินทุนของคุณได้ แม้ว่าคุณจะมีการซื้อขายที่ขาดทุนบ้างก็ตาม
ผลกำไรระยะยาว: การควบคุมความเสี่ยงและการรักษาเงินทุนเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการสร้างผลกำไรอย่างยั่งยืนในระยะยาว การซื้อขายอย่างมีระเบียบวินัยด้วยขนาดของตำแหน่งซื้อขายที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณสามารถอยู่รอดในตลาดและใช้ประโยชน์จากโอกาสในการทำกำไรได้
ความสอดคล้องทางอารมณ์: เมื่อคุณรู้ว่าคุณกำลังเสี่ยงเพียงเท่าใดในการซื้อขายแต่ละครั้ง คุณจะสามารถควบคุมอารมณ์ของคุณได้ดีขึ้น และหลีกเลี่ยงการตัดสินใจที่ผิดพลาดเนื่องจากความกลัวหรือความโลภ

วิธีการคำนวณขนาดของตำแหน่งซื้อขาย

มีหลายวิธีในการคำนวณขนาดของตำแหน่งซื้อขายที่เหมาะสม วิธีการที่นิยมใช้กันมากที่สุดคือการใช้เปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงต่อการซื้อขาย (Percentage Risk per Trade)

เปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงต่อการซื้อขาย: คือจำนวนเงินทุนที่คุณยินดีที่จะเสี่ยงในการซื้อขายแต่ละครั้ง โดยทั่วไปแล้ว นักเทรดส่วนใหญ่จะเสี่ยงเพียง 1-2% ของเงินทุนทั้งหมดต่อการซื้อขาย
สูตรการคำนวณ:

   ขนาดของตำแหน่งซื้อขาย = (เงินทุนทั้งหมด * เปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงต่อการซื้อขาย) / จำนวนเงินที่เสี่ยงต่อการซื้อขาย

   ตัวอย่าง:

   *   เงินทุนทั้งหมด: 10,000 บาท
   *   เปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงต่อการซื้อขาย: 2%
   *   จำนวนเงินที่เสี่ยงต่อการซื้อขาย: 100 บาท (เช่น การจ่ายเงิน 100 บาทเพื่อรับ 90 บาท หากชนะ)

   ขนาดของตำแหน่งซื้อขาย = (10,000 * 0.02) / 100 = 2 บาท

   ดังนั้น คุณควรซื้อขายด้วยขนาด 2 บาทต่อการซื้อขาย

ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการกำหนดขนาดของตำแหน่งซื้อขาย

นอกเหนือจากการคำนวณตามเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงต่อการซื้อขายแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่คุณควรพิจารณาในการกำหนดขนาดของตำแหน่งซื้อขาย:

ความน่าจะเป็นของความสำเร็จ: หากคุณเชื่อว่าการซื้อขายของคุณมีความน่าจะเป็นที่จะประสบความสำเร็จสูง คุณอาจสามารถเสี่ยงได้มากกว่าเล็กน้อย แต่ระวังอย่าหลงเชื่อว่าการซื้อขายใดๆ ก็ตามมีความเสี่ยงเป็นศูนย์
ความผันผวนของสินทรัพย์: สินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง เช่น สกุลเงิน Forex หรือหุ้นบางตัว อาจต้องใช้ขนาดของตำแหน่งซื้อขายที่เล็กลง เพื่อลดความเสี่ยง
สไตล์การซื้อขาย: นักเทรดที่ใช้กลยุทธ์ที่เน้นการซื้อขายระยะสั้น (Scalping) อาจใช้ขนาดของตำแหน่งซื้อขายที่เล็กกว่านักเทรดที่ใช้กลยุทธ์ระยะยาว
ความอดทนต่อความเสี่ยง: แต่ละคนมีความอดทนต่อความเสี่ยงที่แตกต่างกัน พิจารณาว่าคุณสามารถรับมือกับการขาดทุนได้มากน้อยเพียงใดก่อนที่จะกำหนดขนาดของตำแหน่งซื้อขายของคุณ
ขนาดของบัญชี: ยิ่งบัญชีของคุณมีขนาดใหญ่ขึ้น คุณก็ยิ่งสามารถเสี่ยงได้มากขึ้น แต่ควรระลึกเสมอว่าการเพิ่มขนาดของตำแหน่งซื้อขายไม่ได้หมายความว่าคุณจะทำกำไรได้มากขึ้นเสมอไป
สภาพตลาด: ในช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนสูง การลดขนาดของตำแหน่งซื้อขายอาจเป็นทางเลือกที่ฉลาด

กลยุทธ์การจัดการขนาดของตำแหน่งซื้อขาย

มีกลยุทธ์หลายอย่างที่คุณสามารถใช้เพื่อจัดการขนาดของตำแหน่งซื้อขายของคุณ:

Fixed Fractional Position Sizing: เป็นวิธีการที่อธิบายไว้ข้างต้น โดยที่คุณเสี่ยงเปอร์เซ็นต์คงที่ของเงินทุนทั้งหมดของคุณต่อการซื้อขาย
Kelly Criterion: เป็นสูตรที่ซับซ้อนกว่า ซึ่งคำนึงถึงความน่าจะเป็นของความสำเร็จและอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนในการกำหนดขนาดของตำแหน่งซื้อขาย
Anti-Martingale: กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการลดขนาดของตำแหน่งซื้อขายของคุณหลังจากที่ชนะ และเพิ่มขนาดของตำแหน่งซื้อขายของคุณหลังจากที่แพ้ ซึ่งตรงกันข้ามกับ Martingale
Fixed Ratio: กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการปรับขนาดของตำแหน่งซื้อขายของคุณตามอัตราส่วนที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ตัวอย่างเช่น คุณอาจเพิ่มขนาดของตำแหน่งซื้อขายของคุณขึ้น 25% หลังจากที่ชนะ และลดขนาดลง 25% หลังจากที่แพ้

การใช้เครื่องมือในการช่วยคำนวณขนาดของตำแหน่งซื้อขาย

มีเครื่องมือออนไลน์มากมายที่สามารถช่วยคุณคำนวณขนาดของตำแหน่งซื้อขายที่เหมาะสม ตัวอย่างเช่น:

Position Size Calculator: [1](https://www.babypips.com/tools/position-size-calculator)
Binary Options Position Size Calculator: ค้นหาใน Google ด้วยคำหลักนี้เพื่อหาเครื่องมือที่เหมาะสม

ตัวอย่างสถานการณ์และขนาดของตำแหน่งซื้อขาย

| สถานการณ์ | เงินทุนทั้งหมด | เปอร์เซ็นต์ความเสี่ยง | จำนวนเงินที่เสี่ยง | ขนาดของตำแหน่งซื้อขาย | | ------------------------------------- | ------------- | ----------------- | --------------- | -------------------- | | นักเทรดเริ่มต้น | 5,000 บาท | 1% | 50 บาท | 0.5 บาท | | นักเทรดที่มีประสบการณ์ | 20,000 บาท | 2% | 200 บาท | 2 บาท | | ตลาดผันผวนสูง | 10,000 บาท | 0.5% | 50 บาท | 0.5 บาท | | กลยุทธ์ Scalping | 15,000 บาท | 0.5% | 75 บาท | 0.75 บาท | | การซื้อขายสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ | 10,000 บาท | 3% | 300 บาท | 3 บาท |

การเชื่อมโยงไปยังหัวข้อที่เกี่ยวข้อง

การเชื่อมโยงไปยังกลยุทธ์ การวิเคราะห์ทางเทคนิค และการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย

สรุป

ขนาดของตำแหน่งซื้อขายเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการจัดการความเสี่ยงและรักษาเงินทุนของคุณ การกำหนดขนาดของตำแหน่งซื้อขายที่เหมาะสมต้องใช้การพิจารณาอย่างรอบคอบเกี่ยวกับปัจจัยต่างๆ เช่น ความน่าจะเป็นของความสำเร็จ ความผันผวนของสินทรัพย์ และสไตล์การซื้อขายของคุณ การใช้กลยุทธ์การจัดการขนาดของตำแหน่งซื้อขายที่เหมาะสมและเครื่องมือในการช่วยคำนวณจะช่วยให้คุณสามารถเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น ได้

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น