การใช้ Williams %R

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. การใช้ Williams %R

Williams %R (Williams Percent Range) เป็นตัวชี้วัดโมเมนตัม (Momentum indicator) ที่พัฒนาโดย Larry Williams ในปี 1973 เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้นักเทรดสามารถระบุสภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) และขายมากเกินไป (Oversold) ในตลาดได้ โดยวัดระดับราคาปัจจุบันเทียบกับช่วงราคาสูงสุดและต่ำสุดในช่วงเวลาที่กำหนด ตัวชี้วัดนี้มีความคล้ายคลึงกับ Stochastic Oscillator แต่มีความแตกต่างกันในวิธีการคำนวณและตีความ

      1. หลักการทำงานของ Williams %R

Williams %R คำนวณโดยการเปรียบเทียบราคาปิดล่าสุดกับช่วงราคาสูงสุดและต่ำสุดในช่วงเวลาที่กำหนด (โดยทั่วไปคือ 14 วัน) สูตรการคำนวณคือ:

%R = (Highest High – Close) / (Highest High – Lowest Low) * -100

  • **Highest High:** ราคาสูงสุดในช่วงเวลาที่กำหนด
  • **Lowest Low:** ราคาต่ำสุดในช่วงเวลาที่กำหนด
  • **Close:** ราคาปิดล่าสุด

ค่า Williams %R จะอยู่ในช่วง -100 ถึง 0

  • **ค่าที่สูง (ใกล้ 0):** บ่งชี้สภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวของราคาลง
  • **ค่าที่ต่ำ (ใกล้ -100):** บ่งชี้สภาวะขายมากเกินไป (Oversold) ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวของราคาสูงขึ้น
  • **เส้น 0:** บ่งชี้ว่าราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
  • **เส้น -50:** บ่งชี้ว่าราคาอยู่ในแนวโน้มขาลง
      1. การตีความสัญญาณ Williams %R ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น

Williams %R สามารถใช้ร่วมกับกลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นได้หลายรูปแบบ:

1. **สัญญาณ Overbought/Oversold:**

  * **Call Option:** เมื่อ Williams %R ต่ำกว่า -80 (หรือระดับที่กำหนดไว้) แสดงว่าตลาดอยู่ในสภาวะขายมากเกินไป และอาจเป็นโอกาสในการซื้อ Call Option โดยคาดหวังว่าราคาจะปรับตัวสูงขึ้น
  * **Put Option:** เมื่อ Williams %R สูงกว่า -20 (หรือระดับที่กำหนดไว้) แสดงว่าตลาดอยู่ในสภาวะซื้อมากเกินไป และอาจเป็นโอกาสในการขาย Put Option โดยคาดหวังว่าราคาจะปรับตัวลง

2. **การ Divergence:**

  * **Bearish Divergence:** เกิดขึ้นเมื่อราคาทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ Williams %R ไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ตามได้ เป็นสัญญาณเตือนว่าแนวโน้มขาขึ้นกำลังอ่อนตัวลง และอาจเป็นโอกาสในการขาย Put Option
  * **Bullish Divergence:** เกิดขึ้นเมื่อราคาทำจุดต่ำสุดใหม่ แต่ Williams %R ไม่สามารถทำจุดต่ำสุดใหม่ตามได้ เป็นสัญญาณเตือนว่าแนวโน้มขาลงกำลังอ่อนตัวลง และอาจเป็นโอกาสในการซื้อ Call Option การวิเคราะห์ Divergence เป็นส่วนสำคัญของการเทรด

3. **การ Cross ของเส้นศูนย์:**

  * **Cross เหนือเส้นศูนย์:** เมื่อ Williams %R ตัดเส้นศูนย์จากด้านล่างขึ้นด้านบน เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าโมเมนตัมกำลังเปลี่ยนไปในทิศทางขาขึ้น อาจเป็นโอกาสในการซื้อ Call Option
  * **Cross ใต้เส้นศูนย์:** เมื่อ Williams %R ตัดเส้นศูนย์จากด้านบนลงด้านล่าง เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าโมเมนตัมกำลังเปลี่ยนไปในทิศทางขาลง อาจเป็นโอกาสในการขาย Put Option

4. **การใช้ร่วมกับตัวชี้วัดอื่น ๆ:**

  * **Moving Average:** ใช้ Williams %R ร่วมกับ Moving Average เพื่อยืนยันแนวโน้มและกรองสัญญาณที่ผิดพลาด
  * **RSI (Relative Strength Index):** ใช้ Williams %R ร่วมกับ RSI เพื่อยืนยันสภาวะซื้อมากเกินไปและขายมากเกินไป
  * **MACD (Moving Average Convergence Divergence):** ใช้ Williams %R ร่วมกับ MACD เพื่อยืนยันสัญญาณการเปลี่ยนแปลงของโมเมนตัม
      1. การตั้งค่า Williams %R ที่เหมาะสม

การตั้งค่า Williams %R ที่เหมาะสมอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรดและลักษณะของตลาด โดยทั่วไป:

  • **Period:** ค่าเริ่มต้นคือ 14 วัน นักเทรดระยะสั้นอาจใช้ Period ที่สั้นกว่า (เช่น 9 วัน) ในขณะที่นักเทรดระยะยาวอาจใช้ Period ที่ยาวกว่า (เช่น 20 วัน)
  • **Overbought Level:** โดยทั่วไปคือ -20 ถึง 0
  • **Oversold Level:** โดยทั่วไปคือ -80 ถึง -100

การทดลอง (Backtesting) และการปรับแต่ง (Optimization) เป็นสิ่งสำคัญในการค้นหาการตั้งค่าที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละสินทรัพย์และกรอบเวลา

      1. ข้อดีและข้อเสียของ Williams %R

| ข้อดี | ข้อเสีย | | ----------------------------------- | ----------------------------------- | | ช่วยระบุสภาวะซื้อ/ขายมากเกินไป | อาจให้สัญญาณผิดพลาดในตลาด Sideways | | สามารถใช้ระบุ Divergence ได้ | ไม่เหมาะกับการเทรดในตลาดที่มีความผันผวนสูง | | ใช้งานง่ายและเข้าใจได้ง่าย | ต้องใช้ร่วมกับตัวชี้วัดอื่น ๆ เพื่อยืนยันสัญญาณ | | เหมาะสำหรับการเทรดระยะสั้นและระยะยาว | |

      1. ตัวอย่างการใช้งาน Williams %R ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น

สมมติว่าคุณกำลังเทรดคู่เงิน EUR/USD ในกรอบเวลา 15 นาที และคุณสังเกตเห็นว่า Williams %R มีค่าต่ำกว่า -85 ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดอยู่ในสภาวะขายมากเกินไป คุณตัดสินใจซื้อ Call Option โดยคาดหวังว่าราคาจะปรับตัวสูงขึ้น หากราคาปรับตัวสูงขึ้นภายในระยะเวลาที่กำหนด คุณจะได้รับผลตอบแทนจากการเทรด

ตัวอย่างสัญญาณ Williams %R
เวลา Williams %R สัญญาณ การตัดสินใจ
10:00 -87 Oversold ซื้อ Call Option
10:15 -82 Oversold ถือ Call Option
10:30 -75 Oversold ถือ Call Option
10:45 -60 กำลังปรับตัว ปิด Call Option
      1. กลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นที่ใช้ Williams %R

1. **Williams %R Reversal Strategy:** ใช้สัญญาณ Overbought/Oversold เพื่อค้นหาจุดกลับตัวของราคา 2. **Williams %R Divergence Strategy:** ใช้สัญญาณ Divergence เพื่อยืนยันการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม 3. **Williams %R Breakout Strategy:** ใช้การ Cross ของเส้นศูนย์เพื่อจับจังหวะการ Breakout 4. **Williams %R Confirmation Strategy:** ใช้ Williams %R ร่วมกับตัวชี้วัดอื่น ๆ เพื่อยืนยันสัญญาณการเทรด 5. **Williams %R Scalping Strategy:** ใช้ Williams %R ในกรอบเวลาสั้น ๆ เพื่อทำกำไรจากความผันผวนเล็กน้อย

      1. การบริหารความเสี่ยงในการใช้ Williams %R
  • **Stop Loss:** กำหนด Stop Loss เพื่อจำกัดความเสี่ยงหากราคาเคลื่อนที่สวนทางกับที่คุณคาดการณ์
  • **Position Sizing:** กำหนดขนาด Position ที่เหมาะสมตามความเสี่ยงที่คุณสามารถรับได้
  • **Risk/Reward Ratio:** เลือกการเทรดที่มี Risk/Reward Ratio ที่เหมาะสม (เช่น 1:2 หรือ 1:3)
  • **Diversification:** กระจายความเสี่ยงโดยการเทรดในสินทรัพย์ที่หลากหลาย
  • **Money Management:** บริหารจัดการเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันการขาดทุนที่มากเกินไป
      1. แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

การใช้ Williams %R เป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งในการวิเคราะห์ตลาด การทำความเข้าใจหลักการทำงานและวิธีการตีความสัญญาณอย่างถูกต้อง รวมถึงการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากการเทรดไบนารี่ออปชั่นได้

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер