การใช้ Volatility Strategy

1. การใช้ Volatility Strategy ในไบนารี่ออปชั่น

บทนำ

การซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น เป็นการคาดการณ์ทิศทางของราคาสินทรัพย์ภายในระยะเวลาที่กำหนด กลยุทธ์การซื้อขายที่ประสบความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับการคาดการณ์ทิศทางราคาเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการทำความเข้าใจและใช้ประโยชน์จากความผันผวน (Volatility) ของราคาสินทรัพย์อีกด้วย บทความนี้จะอธิบายถึง Volatility Strategy อย่างละเอียดสำหรับผู้เริ่มต้น โดยจะครอบคลุมตั้งแต่ความหมายของ Volatility, ตัวชี้วัดที่ใช้ในการวัด Volatility, และวิธีการนำกลยุทธ์นี้ไปใช้ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น

ความผันผวน (Volatility) คืออะไร?

ความผันผวน (Volatility) คือ การวัดระดับความเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์ในช่วงเวลาหนึ่ง ยิ่งราคามีการเปลี่ยนแปลงมากเท่าไหร่ ความผันผวนก็จะสูงขึ้นเท่านั้น ความผันผวนสูงบ่งบอกถึงความเสี่ยงที่สูงขึ้น แต่ก็อาจหมายถึงโอกาสในการทำกำไรที่มากขึ้นเช่นกัน ในทางกลับกัน ความผันผวนต่ำบ่งบอกถึงความเสี่ยงที่ต่ำกว่า แต่โอกาสในการทำกำไรก็อาจลดลงเช่นกัน

การเข้าใจความผันผวนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น เนื่องจากราคาของออปชั่นจะได้รับผลกระทบอย่างมากจากความผันผวนของสินทรัพย์อ้างอิง การกำหนดราคาออปชั่น จะคำนึงถึงความผันผวนที่คาดหวังในอนาคตด้วย

ตัวชี้วัดความผันผวนที่สำคัญ

มีตัวชี้วัดหลายตัวที่สามารถใช้ในการวัดความผันผวนได้ ตัวชี้วัดที่สำคัญมีดังนี้:

**ATR (Average True Range):** เป็นตัวชี้วัดที่ใช้วัดความผันผวนโดยเฉลี่ยในช่วงเวลาที่กำหนด โดยคำนึงถึงช่วงราคา (High-Low), ราคาปิดของวันก่อนหน้า, และราคาปิดปัจจุบัน
**Bollinger Bands:** เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการแสดงความผันผวนของราคา โดยประกอบด้วยเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) และแถบสองเส้นที่อยู่เหนือและใต้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ แถบเหล่านี้จะขยายออกเมื่อความผันผวนสูงขึ้น และหดตัวลงเมื่อความผันผวนต่ำลง Bollinger Bands
**VIX (Volatility Index):** เป็นดัชนีที่ใช้วัดความผันผวนของตลาดหุ้น S&P 500 โดยคำนวณจากราคาของออปชั่น S&P 500
**Historical Volatility:** คือความผันผวนที่คำนวณจากข้อมูลราคาในอดีต
**Implied Volatility:** คือความผันผวนที่ถูกกำหนดโดยราคาของออปชั่นในปัจจุบัน สะท้อนถึงความคาดหวังของตลาดเกี่ยวกับความผันผวนในอนาคต Implied Volatility

กลยุทธ์ Volatility Strategy ในไบนารี่ออปชั่น

มีหลายกลยุทธ์ที่ใช้ประโยชน์จากความผันผวนในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น กลยุทธ์ที่สำคัญมีดังนี้:

**High Volatility Strategy (การซื้อขายในช่วงความผันผวนสูง):** กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับผู้ที่เชื่อว่าราคาสินทรัพย์จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและรุนแรง โดยจะเข้าซื้อออปชั่น Call หรือ Put ขึ้นอยู่กับทิศทางราคาที่คาดการณ์ไว้ กลยุทธ์นี้มักใช้ร่วมกับ การวิเคราะห์ทางเทคนิค เพื่อหาจุดเข้าซื้อขายที่เหมาะสม
**Low Volatility Strategy (การซื้อขายในช่วงความผันผวนต่ำ):** กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับผู้ที่เชื่อว่าราคาสินทรัพย์จะเคลื่อนที่อยู่ในกรอบแคบๆ โดยจะเข้าซื้อออปชั่นที่มีระยะเวลาสั้นๆ และคาดการณ์ว่าราคาจะไม่ทะลุระดับราคาเป้าหมาย กลยุทธ์นี้มักใช้ร่วมกับ การวิเคราะห์แนวโน้ม เพื่อหาช่วงราคาที่เหมาะสม
**Volatility Breakout Strategy (การซื้อขายเมื่อความผันผวนทะลุแนวต้าน/รับ):** กลยุทธ์นี้ใช้ประโยชน์จากการที่ความผันผวนอาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อราคาทะลุแนวต้านหรือแนวรับที่สำคัญ โดยจะเข้าซื้อออปชั่นในทิศทางของการทะลุ
**Straddle Strategy (กลยุทธ์ Straddle):** เป็นกลยุทธ์ที่ใช้เมื่อคาดว่าความผันผวนจะสูงขึ้น แต่ไม่แน่ใจว่าราคาจะไปในทิศทางใด โดยจะซื้อทั้งออปชั่น Call และ Put ที่มีราคาใช้สิทธิ (Strike Price) และวันหมดอายุ (Expiration Date) เดียวกัน กลยุทธ์นี้ทำกำไรได้หากราคามีการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง
**Strangle Strategy (กลยุทธ์ Strangle):** คล้ายกับกลยุทธ์ Straddle แต่จะซื้อออปชั่น Call และ Put ที่มีราคาใช้สิทธิที่แตกต่างกัน กลยุทธ์นี้ต้องการการเปลี่ยนแปลงของราคาที่มากกว่ากลยุทธ์ Straddle เพื่อให้ได้กำไร
**Iron Condor Strategy (กลยุทธ์ Iron Condor):** เป็นกลยุทธ์ที่ใช้เมื่อคาดว่าความผันผวนจะลดลง โดยจะขายออปชั่น Call และ Put ที่มีราคาใช้สิทธิที่แตกต่างกัน และซื้อออปชั่น Call และ Put ที่มีราคาใช้สิทธิที่สูงกว่าและต่ำกว่าเพื่อจำกัดความเสี่ยง

การนำกลยุทธ์ Volatility Strategy ไปใช้

การนำกลยุทธ์ Volatility Strategy ไปใช้จริงต้องพิจารณาปัจจัยหลายอย่าง ได้แก่:

1. **การเลือกสินทรัพย์:** เลือกสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง (สำหรับ High Volatility Strategy) หรือต่ำ (สำหรับ Low Volatility Strategy) ตามกลยุทธ์ที่เลือก 2. **การวิเคราะห์ความผันผวน:** ใช้ตัวชี้วัดความผันผวนที่กล่าวมาข้างต้นในการประเมินระดับความผันผวนของสินทรัพย์ 3. **การเลือกออปชั่น:** เลือกออปชั่นที่มีราคาใช้สิทธิและวันหมดอายุที่เหมาะสมกับกลยุทธ์และระดับความผันผวน 4. **การบริหารความเสี่ยง:** กำหนดขนาดของการลงทุนในแต่ละออปชั่นอย่างเหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ตการลงทุน การบริหารความเสี่ยง 5. **การติดตามผล:** ติดตามผลการซื้อขายอย่างสม่ำเสมอ และปรับกลยุทธ์ตามความเหมาะสม

ตัวอย่างการใช้ High Volatility Strategy

สมมติว่าคุณสังเกตเห็นว่าราคาทองคำมีความผันผวนสูงในช่วงข่าวการประกาศผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) คุณคาดการณ์ว่าราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นหลังจากข่าวประกาศ คุณสามารถใช้ High Volatility Strategy โดยการซื้อออปชั่น Call ที่มีราคาใช้สิทธิใกล้เคียงกับราคาปัจจุบัน และวันหมดอายุที่สั้นๆ เช่น 1 ชั่วโมง หรือ 30 นาที หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นตามที่คุณคาดการณ์ คุณจะได้รับกำไรจากออปชั่น Call

ตัวอย่างการใช้ Low Volatility Strategy

สมมติว่าคุณสังเกตเห็นว่าราคาสกุลเงินยูโร (EUR/USD) เคลื่อนที่อยู่ในกรอบแคบๆ คุณคาดการณ์ว่าราคาจะยังคงเคลื่อนที่อยู่ในกรอบนี้ต่อไป คุณสามารถใช้ Low Volatility Strategy โดยการซื้อออปชั่น Put หรือ Call ที่มีราคาใช้สิทธิใกล้เคียงกับราคาปัจจุบัน และวันหมดอายุที่สั้นๆ เช่น 5 นาที หรือ 15 นาที หากราคายังคงเคลื่อนที่อยู่ในกรอบ คุณจะได้รับกำไรจากออปชั่น

ข้อควรระวัง

การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นมีความเสี่ยงสูง ผู้ซื้อขายควรทำความเข้าใจความเสี่ยงก่อนทำการซื้อขาย
Volatility Strategy ไม่ได้การันตีผลกำไร การซื้อขายทุกครั้งมีความเสี่ยงที่จะขาดทุน
ควรใช้กลยุทธ์ Volatility Strategy ร่วมกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานอื่นๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
ควรเริ่มต้นด้วยการลงทุนในจำนวนเงินน้อยๆ ก่อน เพื่อทำความเข้าใจกลยุทธ์และประเมินความเสี่ยง

สรุป

Volatility Strategy เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น การทำความเข้าใจความผันผวนและการใช้ประโยชน์จากความผันผวนสามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ซื้อขายควรตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องและใช้กลยุทธ์อย่างรอบคอบ

ตัวอย่างเปรียบเทียบกลยุทธ์
กลยุทธ์	ความผันผวน	ทิศทางราคา	ระยะเวลา
High Volatility Strategy	สูง	คาดการณ์ได้	สั้น
Low Volatility Strategy	ต่ำ	คาดการณ์ราคาคงที่	สั้นมาก
Volatility Breakout Strategy	เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว	ทะลุแนวต้าน/รับ	กลาง
Straddle Strategy	สูง (ไม่ทราบทิศทาง)	ไม่ทราบ	กลาง
Strangle Strategy	สูง (ไม่ทราบทิศทาง)	ไม่ทราบ	กลาง
Iron Condor Strategy	ลดลง	ไม่ทราบ	กลาง

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น