การใช้ Spread Betting
- การใช้ Spread Betting
Spread betting เป็นรูปแบบการซื้อขายทางการเงินที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ แต่ก็กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทั่วโลก บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้ Spread Betting สำหรับผู้เริ่มต้น ตั้งแต่พื้นฐาน หลักการทำงาน ข้อดี ข้อเสีย กลยุทธ์ และการบริหารความเสี่ยง
Spread Betting คืออะไร?
Spread betting เป็นการคาดการณ์ทิศทางของราคาของสินทรัพย์ทางการเงินต่างๆ เช่น หุ้น ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ฟอเร็กซ์ ฟอเร็กซ์ สินค้าโภคภัณฑ์ สินค้าโภคภัณฑ์ และอื่นๆ แทนที่จะซื้อสินทรัพย์โดยตรง คุณจะทำการเดิมพัน (bet) ว่าราคาของสินทรัพย์นั้นจะขึ้นหรือลงจากระดับที่กำหนดไว้ (spread)
ความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง Spread Betting กับการซื้อขายแบบดั้งเดิมคือ คุณไม่ได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์ที่ซื้อขายจริง แต่เป็นการทำสัญญาเพื่อผลต่างของราคา (Contract for Difference - CFD) ดังนั้น Spread Betting จึงมักจะมาพร้อมกับข้อได้เปรียบด้านภาษีในบางประเทศ (เช่น สหราชอาณาจักร)
หลักการทำงานของ Spread Betting
Spread Betting ทำงานโดยใช้สิ่งที่เรียกว่า “Spread” ซึ่งเป็นความแตกต่างระหว่างราคาซื้อ (bid price) และราคาขาย (ask price) ของสินทรัพย์นั้นๆ ตัวอย่างเช่น หาก Spread ของหุ้น ABC คือ 100.50 – 100.55 นั่นหมายความว่าคุณสามารถซื้อหุ้น ABC ได้ที่ 100.55 และขายได้ที่ 100.50
- **การซื้อ (Going Long):** หากคุณคาดการณ์ว่าราคาจะสูงขึ้น คุณจะทำการ “ซื้อ” (going long) โดยเดิมพันว่าราคาจะสูงกว่า Spread ที่กำหนดไว้
- **การขาย (Going Short):** หากคุณคาดการณ์ว่าราคาจะลดลง คุณจะทำการ “ขาย” (going short) โดยเดิมพันว่าราคาจะต่ำกว่า Spread ที่กำหนดไว้
กำไรหรือขาดทุนของคุณจะขึ้นอยู่กับความแตกต่างระหว่างราคาที่คุณเปิด position และราคาที่คุณปิด position คูณกับขนาดของ position ของคุณ (ซึ่งเรียกว่า “stake”)
ตัวอย่าง:
คุณคาดการณ์ว่าราคาหุ้น XYZ จะสูงขึ้น และเปิด position ซื้อ (going long) ที่ราคา 50.00 ด้วย stake 10 บาทต่อจุด (point)
- หากราคาหุ้น XYZ ปิดที่ 52.00 คุณจะได้กำไร 200 บาท (2 จุด x 10 บาท/จุด)
- หากราคาหุ้น XYZ ปิดที่ 48.00 คุณจะขาดทุน 200 บาท (2 จุด x 10 บาท/จุด)
ข้อดีและข้อเสียของ Spread Betting
ข้อดี
- **Leverage:** Spread Betting ช่วยให้คุณสามารถควบคุม position ที่มีมูลค่าสูงกว่าเงินทุนของคุณได้มาก (Leverage) ซึ่งสามารถเพิ่มผลกำไรได้ แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงด้วยเช่นกัน
- **การเข้าถึงตลาดที่หลากหลาย:** คุณสามารถซื้อขายสินทรัพย์ได้หลากหลายประเภท รวมถึงหุ้น ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ฟอเร็กซ์ สินค้าโภคภัณฑ์ และอื่นๆ
- **ความยืดหยุ่น:** Spread Betting มีความยืดหยุ่นสูง คุณสามารถเปิดและปิด position ได้ตลอดเวลาในช่วงเวลาทำการตลาด
- **ข้อได้เปรียบด้านภาษี:** ในบางประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร กำไรจากการ Spread Betting ไม่ต้องเสียภาษี
- **Short Selling ง่าย:** Spread Betting ทำให้การทำ short selling (ขายก่อนมีของ) ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ในตลาดที่กำลังขาลง
ข้อเสีย
- **ความเสี่ยงสูง:** Leverage สามารถเพิ่มผลกำไรได้ แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนอย่างรวดเร็ว
- **ค่าธรรมเนียม:** Broker จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย ซึ่งอาจรวมถึง Spread และค่าคอมมิชชั่น
- **ความซับซ้อน:** Spread Betting อาจมีความซับซ้อนสำหรับผู้เริ่มต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องทำความเข้าใจกับ Leverage และ Margin
- **ความผันผวนของตลาด:** ตลาดการเงินมีความผันผวนสูง และราคาอาจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจนำไปสู่การขาดทุนได้
กลยุทธ์ Spread Betting สำหรับผู้เริ่มต้น
มีกลยุทธ์ Spread Betting มากมายที่สามารถใช้ได้ กลยุทธ์บางอย่างเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นมากกว่ากลยุทธ์อื่นๆ ต่อไปนี้เป็นกลยุทธ์บางส่วนที่แนะนำ:
1. **Trend Following:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการระบุแนวโน้ม (trend) ของราคา และทำการซื้อขายตามแนวโน้มนั้นๆ หากราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น คุณจะทำการซื้อ (going long) และหากราคาอยู่ในแนวโน้มขาลง คุณจะทำการขาย (going short) การวิเคราะห์แนวโน้ม 2. **Breakout Trading:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการระบุระดับแนวรับ (support) และแนวต้าน (resistance) และทำการซื้อขายเมื่อราคา breakout (ทะลุ) ระดับเหล่านั้น 3. **Range Trading:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการระบุช่วงราคา (range) ที่ราคาเคลื่อนที่อยู่ และทำการซื้อขายเมื่อราคาเข้าใกล้ขอบบนหรือขอบล่างของช่วงราคา 4. **Scalping:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคาเล็กน้อย โดยการเปิดและปิด position อย่างรวดเร็ว 5. **Day Trading:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการเปิดและปิด position ทั้งหมดภายในวันเดียว เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาในคืนวัน 6. **Moving Average Crossover:** Moving Average เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการระบุแนวโน้มของราคา เมื่อเส้น Moving Average สองเส้นตัดกัน จะเป็นสัญญาณซื้อหรือขาย 7. **Relative Strength Index (RSI):** RSI เป็นเครื่องมือที่ใช้วัดความแข็งแกร่งของแนวโน้มของราคา และช่วยระบุภาวะซื้อมากเกินไป (overbought) หรือขายมากเกินไป (oversold) 8. **Fibonacci Retracement:** Fibonacci Retracement เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่มีศักยภาพ 9. **Bollinger Bands:** Bollinger Bands เป็นเครื่องมือที่ใช้วัดความผันผวนของราคา และช่วยระบุโอกาสในการซื้อขาย 10. **MACD (Moving Average Convergence Divergence):** MACD เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการระบุแนวโน้มและโมเมนตัมของราคา 11. **Ichimoku Cloud:** Ichimoku Cloud เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้มและระดับแนวรับ/แนวต้าน 12. **Elliott Wave Theory:** Elliott Wave Theory เป็นทฤษฎีที่ใช้ในการระบุรูปแบบของราคาที่เกิดซ้ำๆ 13. **Harmonic Patterns:** Harmonic Patterns เป็นรูปแบบของราคาที่ใช้ในการระบุโอกาสในการซื้อขายที่มีความแม่นยำสูง 14. **Price Action Trading:** Price Action Trading เป็นกลยุทธ์ที่เน้นการวิเคราะห์รูปแบบของราคาโดยไม่ใช้ตัวบ่งชี้ใดๆ 15. **News Trading:** News Trading เป็นกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายตามข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจ
การบริหารความเสี่ยงในการ Spread Betting
การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการ Spread Betting เนื่องจาก Leverage สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนได้อย่างรวดเร็ว ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับบางส่วนสำหรับการบริหารความเสี่ยง:
- **กำหนด Stop-Loss Order:** Stop-Loss Order คือคำสั่งให้ปิด position โดยอัตโนมัติเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนดไว้ ซึ่งจะช่วยจำกัดการขาดทุนของคุณ
- **ใช้ Leverage อย่างระมัดระวัง:** Leverage สามารถเพิ่มผลกำไรได้ แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงด้วยเช่นกัน ใช้ Leverage ในระดับที่คุณสามารถรับความเสี่ยงได้
- **Diversify:** กระจายการลงทุนของคุณไปยังสินทรัพย์ที่หลากหลาย เพื่อลดความเสี่ยงโดยรวม
- **อย่าลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถเสียได้:** ลงทุนเฉพาะเงินที่คุณสามารถเสียได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของคุณ
- **เรียนรู้และทำความเข้าใจตลาด:** ทำความเข้าใจเกี่ยวกับตลาดที่คุณกำลังซื้อขาย และติดตามข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจ
- **ใช้บัญชี Demo:** ฝึกฝนการซื้อขายด้วยบัญชี Demo ก่อนที่จะลงทุนด้วยเงินจริง
- **ติดตามอัตราส่วน Risk/Reward:** ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอัตราส่วน Risk/Reward ของคุณเป็นที่น่าพอใจ (เช่น 1:2 หรือ 1:3)
- **จำกัดขนาด Position:** อย่าเปิด position ที่มีขนาดใหญ่เกินไปเมื่อเทียบกับขนาดบัญชีของคุณ
- **ใช้ Trailing Stop:** Trailing Stop เป็น Stop-Loss Order ที่ปรับตามราคาที่เคลื่อนที่ในทิศทางที่ต้องการ
- **พิจารณาการใช้ Hedging:** Hedging เป็นกลยุทธ์ที่ใช้เพื่อลดความเสี่ยงโดยการเปิด position ที่ตรงข้ามกันในสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้อง
การเลือก Broker Spread Betting
การเลือก Broker Spread Betting ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ ต่อไปนี้เป็นปัจจัยบางส่วนที่ควรพิจารณา:
- **ค่าธรรมเนียม:** เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมของ Broker ต่างๆ รวมถึง Spread และค่าคอมมิชชั่น
- **แพลตฟอร์มการซื้อขาย:** เลือก Broker ที่มีแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ใช้งานง่ายและมีคุณสมบัติที่จำเป็น
- **สินทรัพย์ที่ซื้อขายได้:** ตรวจสอบให้แน่ใจว่า Broker เสนอสินทรัพย์ที่คุณต้องการซื้อขาย
- **การกำกับดูแล:** เลือก Broker ที่ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินที่น่าเชื่อถือ
- **บริการลูกค้า:** ตรวจสอบให้แน่ใจว่า Broker มีบริการลูกค้าที่ดีและพร้อมให้ความช่วยเหลือเมื่อคุณต้องการ
สรุป
Spread Betting เป็นรูปแบบการซื้อขายทางการเงินที่น่าสนใจและมีศักยภาพ แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน การทำความเข้าใจหลักการทำงาน กลยุทธ์ และการบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้เริ่มต้น หากคุณทำตามเคล็ดลับที่กล่าวมาข้างต้น คุณจะสามารถเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการ Spread Betting ได้
| Broker | Spread (EUR/USD) | ค่าคอมมิชชั่น | แพลตฟอร์ม | การกำกับดูแล |
|---|---|---|---|---|
| Broker A | 0.7 pips | ไม่มี | MetaTrader 4 | FCA |
| Broker B | 1.0 pips | $5 ต่อ lot | Proprietary Platform | CySEC |
| Broker C | 0.8 pips | $3 ต่อ lot | TradingView | ASIC |
การซื้อขาย การวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์พื้นฐาน การบริหารความเสี่ยง Leverage Margin Stop-Loss Order Take-Profit Order ฟอเร็กซ์ สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ CFD (Contract for Difference) บัญชี Demo การลงทุน ตลาดการเงิน การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย กลยุทธ์การซื้อขาย
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
